กลุ่มฅนรักษ์ บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ร่วมเวทีสภาเกษตรกรฯ ชี้ปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้ในภาคเกษตร ห่วงหากผุดโรงไฟฟ้าถ่านหินในโครงการเหมืองแร่โปแตช ทั้งมลพิษที่จะเกิดขึ้น
30 ธ.ค.2558 เวลา 09.00 น. กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ ประมาณ 30 คน เดินทางเข้าร่วมเวทีสภาเกษตรกรจังหวัดชัยภูมิ โดยมีหน่วยงานภาครัฐเข้าร่วมประชุม ได้แก่ สภาอุตสาหกรรมจังหวัดชัยภูมิ ฝ่ายพลังงาน สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดชัยภูมิ และกรมชลประทาน เป็นต้น ณ ห้องประชุมสภาเกษตรกรจังหวัดชัยภูมิ
ก่อน หน้านี้กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ ยื่นหนังสือขอให้บรรจุวาระความเดือดร้อนของเกษตรกร อ.บำเหน็จณรงค์ จากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน ในโครงการเหมืองแร่โปแตช เข้าไว้ในการประชุมสภาเกษตรกรจังหวัดชัยภูมิ โดยเฉพาะปัญหาการขาดแคลนน้ำใช้ในภาคเกษตร และมลพิษที่จะเกิดขึ้น
จาก กรณีจะมีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกำลังการผลิต 55 เมกะวัตต์ ในโครงการเหมืองแร่โปแตชของบริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) หรือชื่อเดิมคือบริษัท เหมืองแร่โปแตชอาเซียน จำกัด (มหาชน) ซึ่งจะมีการดึงน้ำจากเขื่อนลำคันฉู และบึงทะเลสีดอมาใช้
นิคม ศรีประเทศ ผู้ใหญ่บ้านหนองแวง หมู่ที่ 2 ต.บ้านเพชร อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ กล่าวว่า ชาวบ้านกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อวิถีเกษตรกรรมที่ปัจจุบันน้ำใช้ในภาคการ เกษตรก็ไม่เพียงพออยู่แล้ว นอกจากนั้นยังมีความกังวลเรื่องการจัดการน้ำเสียที่หากไม่ดีพออาจสร้างผล กระทบให้ชาวบ้านได้
นิคม กล่าวว่า ในวันนี้กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์ได้เข้ายื่นหลักฐานรายชื่อผู้คัด ค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน 95 หมู่บ้านเพื่อให้หน่วยงานราชการที่รับผิดชอบได้เล็งเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น และเข้าให้ข้อมูลรวมทั้งซักถามข้อสงสัยในที่ประชุมสภาเกษตรกรฯ
“เราห่วงว่าหากต่อไป อ.บำเหน็จณรงค์กลายเป็นเมืองอุตสาหกรรม ไม่รู้ว่าวิถีชีวิตของชาวบ้านจะเป็นอย่างไร” ผู้ใหญ่บ้านหนองแวง กล่าว
ผู้ใหญ่ บ้านหนองแวง กล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมสภาเกษตรกรฯ ชาวบ้านได้สอบถามถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการนำถ่านหินมาใช้ในการผลิต ไฟฟ้า แต่หน่วยงานราชการระบุว่าไม่สามารถให้คำตอบอะไรได้มาก เพราะในวันนี้ไม่ได้มีนักวิชาการของโครงการเหมืองแร่โปแตชมาร่วมประชุมด้วย
สำหรับ ผลการพูดคุยในวันนี้ ประธานสภาเกษตรกรจังหวัดชัยภูมิรับที่จะนำเรื่องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด ชัยภูมิ และส่งเรื่องให้สภาเกษตรแห่งชาติต่อไป เพื่อหาทางช่วยเหลือเกษตรในเรื่องผลกระทบต่อไป
“การที่จะให้ชาว บ้านอยู่กับสารเคมี ไม่มีชาวบ้านคนไหนที่รับได้ หากหน่วยงานราชการยังดึงดันยัดเยียดให้กับประชาชน ก็เท่ากับเป็นฆาตกร” นิคม กล่าว
ผู้ใหญ่บ้านหนองแวง กล่าวด้วยว่า ในวันพรุ่งนี้ (31 ธ.ค. 2558) กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์จะทำการยื่นหนังสือต่อนายอำเภอบำเหน็จ ณรงค์ และผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ในงานประจำปี สักการะเจ้าพ่อพระฤทธิฤาชัย ที่ อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ เพื่อร้องเรียนในส่วนผู้นำชุมชนและส่วนราชการที่ประพฤติวางตัวไม่เป็นกลาง หนุนให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และข่มขู่ชาวบ้าน
อีกทั้งขอให้ กลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดบำเหน็จณรงค์เปิดเวทีให้ความรู้เรื่อง โรงไฟฟ้าถ่านหินแก่ประชาชนในแต่ละหมู่บ้าน โดยไม่ต้องใช้มาตรา 44 เข้ามาดูแล เพราะประชาชนเพียงต้องการสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชนด้วยกันเอง
“ข้าราชการควรทำหน้าที่ในฐานคนของประชาชน เพราะกินเงินภาษีประชาชน”
นิคม กล่าวด้วยว่า ในวันนี้กลุ่มชาวบ้านได้ประชุมและสรุปกันแล้วว่าจะไม่ยอมให้โรงไฟฟ้าถ่านหิน เกิดใน อ.บำเหน็จณรงค์ โดยประชาชนกว่า 30,000 คน พร้อมที่จะบอกว่าไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน หากมีการทำอีไอเอ
“ชาวบ้านจะไม่ยอมอยู่ร่วมกับโรงไฟฟ้าถ่านหินเด็ดขาด” นิคม กล่าว