วิกฤตขยะล้นกรุงทางเลือกใหม่โรงเผาผลิตไฟฟ้า 13 ตุลาคม 2557 เวลา 21:28 น. ( 14 ต.ค. 57)
โพตย์ทูเดย์ออนไลน์ 14 ตุลาคม 2557
วิกฤตขยะล้นกรุงทางเลือกใหม่โรงเผาผลิตไฟฟ้า 13 ตุลาคม 2557 เวลา 21:28 น.
โดย...นิติพันธุ์ สุขอรุณ
.
ปัจจุบันปัญหาขยะล้นเมืองถือเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไข เนื่องจากมีขยะจำนวนมากถูกนำไปกำจัดอย่างไม่ถูกต้องต้องตามหลักมาตรฐานทั้ง ขยะครัวเรือนขยะอุตสาหกรรมหรือของเสียจากโรงงานทั้งหมดกำลังส่งผลให้เกิดมลพิษในดิน น้ำ อากาศ เป็นปัญหาต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชนเพิ่มขึ้นทุก ขณะ
โดยปริมาณขยะที่จัดเก็บได้ในพื้นที่กทม. เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คือ ในปี 2554 จัดเก็บได้ 8,943ตัน/วัน ปี 2555 จัดเก็บได้ 9,747 ตัน/วัน และ ปี 2556 จัดเก็บได้ 9,800ตัน/วัน
จากปัญหาที่เกิดขึ้น คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จึงมีนโยบายเร่งจัดการยุติระบบการเทกองขยะรวมกันตามแหล่งที่ทิ้งทั่วประเทศ อย่างไม่ถูกหลักวิชาการ พร้อมทั้งให้กระทรวงมหาดไทย และกรุงเทพฯหันมาใช้โรงเผาขยะเพื่อเป็นทางออกที่จะสามารถกำจัดจำนวนขยะได้ อย่างยั่งยืน
ชาตรี วัฒนขจร ผอ.กองโรงงานกำจัดขยะมูลฝอย เปิดเผยว่า ขณะนี้ประชากรที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพ กำลังผลิตขยะออกมาเฉลี่ยวันละ 9,900 ตันต่อวัน และกำลังเพิ่มมากขึ้นทุกปี ซึ่งในเรื่องของการกำจัดขยะที่ต้องรองรับจากพื้นที่กทม.จะมีศูนย์กำจัดขยะ อยู่ 3 แห่ง คือ 1.ที่เขตหนองแขม สามารถรับจำนวนขยะเข้ามาได้ 3,500 ตัน/วัน 2.เขตสายไหม รับขยะเข้า 2,200 ตัน/วัน และ 3.เขตอ่อนนุช รับขยะเข้า 4,000 ตัน/วัน โดยจะมีเอกชนรับจ้างนำขยะไปฝังกลบที่อำเภอกำแพงแสน จ.นครปฐมอีกส่วนจะนำไปทำปุ๋ยหมัก ซึ่งสามารถกำจัดขยะให้หมดไปได้ในแต่ละวัน แต่ต้องยอมรับว่าจำนวนขยะที่เข้ามากับโรงกำจัดขยะที่มีอยู่ รองรับอัตราขยะเต็มขีดจำกัดแล้ว
ดังนั้น โครงการกำจัดขยะมูลฝอยจึงเป็นทางหนึ่งที่สำคัญ โดยกทม.เริ่มลงทุนมาตั้งแต่ปี2556 ด้วยการร่วมกับเอกชนสร้างโรงเผาขยะปริมาณ 300-500 ตัน/วัน ภายใต้การก่อสร้างของบริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเท็คชั่นซึ่งขณะนี้โรงงานอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง และคาดว่าจะดำเนินการสร้างเสร็จสิ้นภายในปี2557
โดยเป้าหมายคือสร้างโรงงานผลิตไฟฟ้าจากขยะ แทนการใช้วิธีฝังกลบที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมต่อชุมชนที่อยู่ใกล้ เคียง ทั้งยังช่วยลดจำนวนปริมาณการนำเข้าถ่านหินที่ใช้ในโรงผลิตไฟฟ้า และนำกากขี้เถ้าที่เหลือจากการเผากลับมาใช้ใหม่
สำหรับโรงไฟฟ้าจากขยะแห่งนี้ ใช้งบลงทุนกว่า 900 ล้านบาท สามารถผลิตไฟฟ้าได้เฉลี่ย 6-7 เมกะวัตต์ ตั้งอยู่ที่ศูนย์กำจัดมูลฝอยหนองแขม พุทธมณฑลสาย 3 มีขนาดพื้นที่ 30 ไร่ ผลิตไฟฟ้าส่งขายให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯรับซื้อในราคา 3.50 บาท/หน่วย ด้านเครื่องจักรที่ใช้ในโครงการ เป็นเทคโนโลยีระหว่างไฟฟ้าสถิตและแผ่นกรองดักจับสารพิษ สามารถกรองไอเสียฝุ่นละอองที่ปล่อยออกมาในอัตราเฉลี่ย 10 มิลลิกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ลดมลพิษและสารเคมีที่เป็นพิษกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ในโครงการดังกล่าวเพราะทั่วไปโรงงานไฟฟ้าในระบบเก่าจะใช้ไฟฟ้าสถิตเป็นตัวดักจับสารพิษ ที่หลงเหลือจากการเผาขยะ แต่ยังมีบางส่วนหลุดลอดออกมา
ทั้งนี้ ในส่วนของกระบวนการทำงานโรงไฟฟ้าจากเตาเผาขยะ จะเริ่มจากการบีบอัดขยะเป็นก้อนเพื่อให้สะดวกต่อการขนส่ง ใส่รถบรรทุกฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และกำจัดกลิ่น จากนั้นนำไปเทลงในบ่อปิด ซึ่งขยะมูลฝอยจะถูกลำเลียงเข้าเตาเผาที่อุณหภูมิสูง 850-1,100 องศาเซลเซียส ทำให้เกิดการเผาไหม้ได้อย่างหมดจด และความร้อนที่ได้จากการเผาขยะจะถูกส่งไปยังหม้อไอน้ำแรงดันสูง เข้าสู่เครื่องกำเนิดไฟฟ้ากังหันไอน้ำ
ขณะที่ เถ้าที่เหลือจากการเผาไหม้ คือสารอินเนิร์ต ที่ไม่สามารถเกิดปฏิกิริยาในปริมาณต่ำกว่า 3% ของน้ำหนักกากเถ้าทั้งหมด จะถูกนำไปฝังกลบ หรือแปรรูปเป็นส่วนผสมในอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง
นอกจากนี้ ยังมีระบบกรอง 2 ชั้นด้วยไฟฟ้าสถิต และคาร์บอนดักจับตะกอน ซึ่งมีเครื่องตรวจวัดตลอด 24 ชั่วโมงของระบบกำจัดน้ำเสียของโรงงาน และจะถูกหมุนเวียนนำกลับมาใช้ โดยไม่มีการปล่อยทิ้งออกมาภายนอกโรงงาน ขณะที่ในส่วนของไอเสียที่เหลือจากการเผาไหม้จะถูกบำบัดจนได้มาตรฐานก่อน ปล่อยออกสู่ชั้นบรรยากาศต่อไป
ผอ.กองโรงงานกำจัดขยะมูลฝอย กล่าวอีกว่า ในอนาคตจะต้องมีการเพิ่มจำนวนโรงกำจัดให้เพียงพอมากขึ้น อีกส่วนหนึ่งต้องรณรงค์ให้ประชาชนลดจำนวนขยะ พร้อมทั้งให้เยาวชนได้ตระหนักถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เพราะถ้าประชาชนทุกคนหันมาร่วมมือกันลดจำนวนขยะจากครัวเรือน ก็จะเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุได้อย่างดีที่สุด