เร่งเก็บ "แมงกะพรุนไฟ" เกลื่อนหาดหัวหิน แนะวิธีแก้พิษด้วยน้ำส้มสายชู (2 ต.ค. 57)
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 ตุลาคม 2557
เร่งเก็บ "แมงกะพรุนไฟ" เกลื่อนหาดหัวหิน แนะวิธีแก้พิษด้วยน้ำส้มสายชู
ประจวบคีรีขันธ์ - เทศบาลเมืองหัวหิน เร่งเก็บซาก “แมงกะพรุนไฟ” ออกจากชายหาด ประมงอำเภอหัวหินเตือนประชาชน และนักท่องเที่ยวไม่ควรลงเล่นน้ำทะเลในระยะนี้ พร้อมแนะหากโดนพิษแมงกะพรุนไฟให้ล้างด้วยน้ำส้มสายชู และรีบพบแพทย์ทันที
วันนี้ (2 ต.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีพบฝูงแมงกะพรุนไฟจำนวนมากแหวกว่ายในทะเล หัวหิน และขึ้นมาเกยตื้นที่บริเวณชายหาดหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตลอดแนวตั้งแต่สะพานปลา จนถึงชายหาดเขาเต่า ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมาว่า จากการตรวจสอบตลอดแนวชายหาดวันนี้พบว่า ยังคงมีแมงกะพรุนว่ายลอยเข้ามาบริเวณชายหาดอยู่ แต่มีจำนวนน้อย รวมทั้งที่บริเวณชายหาด ซากแมงกะพรุนไฟก็มีปริมาณลดลง
ขณะเดียวกัน ในวันนี้เจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองหัวหิน ยังคงเร่งเก็บซากแมงกะพรุนไฟที่ถูกคลื่นซัดขึ้นมาเกยอยู่บนชายหาดหัวหินต่อ เนื่อง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอันตรายต่อนักท่องเที่ยว และไม่ให้เกิดการเน่าเหม็น ส่วนการติดตั้งป้ายประกาศเตือนนักท่องเที่ยวนั้น คาดว่าจะติดตั้งตามจุดที่ต่างๆ ตลอดแนวชายหาดหัวหินในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้
นายวัฒนา นกแก้ว ประมงอำเภอหัวหิน เปิดเผยว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแมงกะพรุนไฟที่ถูกคลื่นซัดเข้ามาที่บริเวณชายหาดหัวหิน แล้วพบว่า เป็นแมงกะพรุนขนาดใหญ่ และมีพิษ มีหลายสี ทั้งสีแดง สีฟ้า สีชมพู หากโดนตัว หรือร่างกายก็จะเป็นแผลคล้ายไฟใหม้ หากถูกเล็กน้อยก็จะมีอาการผื่นคัน
สาเหตุที่แมงกะพรุ่นไฟจำนวนมากถูกคลื่นซัดเข้ามายังชายหาดหัวหิน เนื่องจากช่วงนี้ลมทะเลได้พัดเข้าสู่ชายฝั่งตลอดเวลา จึงทำให้มีคลื่นซัดนำเอาแมงกะพรุนเข้ามาจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม คาดว่าประมาณ 1 สัปดาห์จากนี้ไปสถานการณ์น่าจะดีขึ้น เมื่อลมทะเลเปลี่ยนทิศทาง
“จึงต้องเตือนนักท่องเที่ยวให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ หากนักท่องเที่ยวไม่ถูกแมงกะพรุนไฟก็จะไม่เกิดอันตราย แต่หากถูกพิษของแมงกะพรุนไฟเข้าจริงๆ จะต้องใช้น้ำสะอาดทำความสะอาดแผล และใช้น้ำส้มสายชูล้างแผลก่อน จากนั้นให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด” นายวัฒนา กล่าว
นายธเนศ พุ่มทอง ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งประจวบคีรีรีขันธ์ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุก ปีในช่วงฤดูมรสุมที่ลมเปลี่ยนทิศพัดเข้าสู่ฝั่ง โดยพบว่ามีหลายจังหวัดฝั่งทะเลมีปัญหาเช่นเดียวกัน และต้องยอมรับว่าฝูงแมงกะพรุนไฟขนาดใหญ่ที่ถูกคลื่นซัดเข้ามายังบริเวณชาย หาดหัวหินในปีนี้นั้นมีจำนวนมากกว่าทุกปี โดยมีแมงกะพรุนถ้วย และแมงกะพรุนหนัง ปะปนเข้ามาด้วยนั้น
“น่าจะเกิดจากกรณีที่แนวชายฝั่งทะเลหัวหินมีอาหารจำนวนมาก โดยเฉพาะลูกกุ้ง ลูกปลาขนาดเล็ก รวมถึงสัตว์น้ำเล็กๆ ที่เป็นอาหารของแมงกะพรุน ทำให้ฝูงแมงกะพรุนเข้ามาหากินเป็นจำนวนมาก ประกอบกับแมงกะพรุนไม่สามารถว่ายน้ำได้ด้วยตัวเองเป็นเวลานาน แต่จะเคลื่อนที่ได้ด้วยการถูกกระแสน้ำพัดพาเข้าสู่ชายหาด”
“จึงขอเตือนว่าหลังฝนตกใหม่ๆ ไม่ควรลงเล่นน้ำทะเล และเมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูมรสุมมีแมงกะพรุนเข้าฝั่งยิ่งไม่ควรเล่นน้ำทะเลเช่น กัน ซึ่งแมงกะพรุนไฟมีพิษอันตราย หากถูกพิษในปริมาณมากอาจจะเป็นอัมพฤกษ์ อัมพาตได้ ส่วนถ้าถูกพิษน้อยจะเป็นแผลคล้ายไฟไหม้ต้องรักษาเป็นเวลานานหลายเดือน โดยแมงกะพรุนไฟที่ยังว่ายน้ำอยู่ทะเลมียังพิษ ส่วนแมงกะพรุนที่เกยหาดแล้วเน่าเปื่อยพิษที่หนวด ซึ่งเป็นโปรตีนจะย่อยสลายไปไม่เป็นอันตราย” นายธเนศ กล่าว