อุตฯ ปลดล็อกอนุญาตทำเหมือง (30 ก.ย. 57)

บ้านเมืองออนไลน์ 30 กันยายน 2557
อุตฯ ปลดล็อกอนุญาตทำเหมือง

นายจักรมณฑ์ ผาสุกวนิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับสภาการเหมืองแร่แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 ก.ย.ที่ผ่านมาว่า กำลังเร่งรัดปรับแก้ไขกฎหมายตาม พ.ร.บ.แร่ ให้เอื้อต่อการประกอบธุรกิจมากขึ้น เนื่องจาก พ.ร.บ.ที่บังคับใช้ในปัจจุบันยังมีความไม่เหมาะสมในการบริหารจัดการทรัพยากรแร่และคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ประกอบกับการดูแลการทำเหมืองแร่ตามกฎหมาย ในปัจจุบันยังไม่ได้คำนึงถึงความแตกต่างในขนาดของเหมือง รวมถึงกระบวนการอนุญาตนั้น มีหลายขั้นตอน เกินความจำเป็น จึงก่อให้เกิดความล่าช้า นอกจากนี้ยังได้มีการหารือในที่ประชุมด้วยว่าการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียนั้นยังมีน้อย ขณะที่การจัดสรรผลประโยชน์และการเยียวยาความเสียหายให้แก่ภาคส่วนต่างๆ และชุมชนที่ได้รับผลกระทบก็ยังมีความไม่เหมาะสม ทำให้เกิดผลกระทบต่อชุมชน และปัจจุบันมีใบอนุญาตที่ยังคั่งค้างการพิจารณาอีกเป็นจำนวนมาก

ขณะนี้ มีการออกใบอนุญาตเหมืองแร่ที่ค้างอยู่มีกว่าร้อยฉบับ มูลค่าการลงทุนหลายหมื่นล้านบาท ในจำนวนนี้มีโรงปูนซีเมนต์ด้วย ซึ่งการปลดล็อกครั้งนี้ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว โดยทุกคำขออนุญาตต้องเป็นไปตามเงื่อนไขหลักเกณฑ์ และผ่านขั้นตอนที่ถูกต้องครบถ้วนจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำหรับการปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ ที่ไม่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจของกระทรวงอุตสาหกรรม มีกฎหมายที่เกี่ยวข้อง 4 ฉบับ ได้แก่ พ.ร.บ.โรงงาน, พ.ร.บ.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม, พ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทราย และ พ.ร.บ.แร่ ซึ่งการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายดังกล่าวถือเป็นสานต่อนโยบายของรัฐบาลในการอำนวยความสะดวกและลดต้นทุนการดำเนินงานของผู้ประกอบการให้เกิดความคล่องตัว และรวดเร็ว เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ได้กำชับผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ของ กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ให้ตระหนักถึงบทบาทหน้าที่ของกรมฯ ว่าเป็นงานที่มีความสำคัญเพราะเกี่ยวข้องกับการพิจารณาอนุญาตให้ใช้ทรัพยากรของประเทศ จึงต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าโดยรวมของประเทศที่จะได้รับเป็นหลัก ซึ่งการอนุญาตต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดด้วยความถูกต้องโปร่งใส ตลอดจนปรับทัศนคติการทำงานของเจ้าหน้าที่เป็นเชิงให้คำปรึกษาและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ประกอบการให้มากขึ้น