รัฐมนตรีอุตสาหกรรมคนใหม่ลงพื้นที่วินโพรเสส ชาวบ้านจี้ถามจะมีอะไรต่างจากที่ผ่านมา (11 ก.ย. 67)

 

 

 


วันนี้ (11 กันยายน 2567) ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น. เอกนัฎ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมใหม่หมาด ได้เดินทางเข้าตรวจโรงงานบริษัทวิน โพรเสส จำกัด ต.บางบุตร อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เพื่อดูความเสียหายที่เกิดจากการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมและเหตุไฟไหม้ของโรงงานดังกล่าว รวมทั้งหารือแนวทางการแก้ไขปัญหากับหน่วยงานราชการต่างๆ
 


รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เน้นย้ำถึงการแก้ไขปัญหาว่า ตนเห็นว่ากฎหมายเกี่ยวกับการลักลอบทิ้งกากอุตสาหกรรมมีช่องโหว่ ทำให้คนบางกลุ่มเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากการประกอบกิจการในลักษณะนี้ โดยสิ่งแรกที่ต้องทำคือ การแก้กฎหมาย พ.ร.บ.โรงงาน ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการทำประชาพิจารณ์ โดยมีเรื่องการเพิ่มโทษของผู้ประกอบการที่กระทำความผิด โดยเฉพาะการเพิ่มโทษปรับและโทษทางอาญา
 


ประเด็นที่ 2 คือการจัดตั้งกองทุนอุตสาหกรรมเพื่อเป็นหลักประกันในอนาคต หากเกิดเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกับวินโพรเสสฯ จะทำให้มีเงินจากกองทุนมาดำเนินการเยียวยาประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที 


 

 


ประเด็นสุดท้าย คือ เสนอให้มีการจัดตั้งนิคมรีไซเคิลและกำจัดกากอุตสาหกรรมโดยเฉพาะ เพื่อให้ง่ายต่อการบริหารและกำกับดูแล ซึ่งตรงกันข้ามกับในปัจจุบันที่ปล่อยให้เอกชนดำเนินกิจการจนพบปัญหาในลักษณะดังกล่าว และต้องมาตามแก้ไข
 


ทั้งนี้ สำหรับสองประเด็นแรกที่รัฐมนตรีกล่าวถึงเป็นสิ่งที่ตรงกับข้อเสนอของกรมโรงงานอุตสาหกรรมในการแก้ไขพระราชบัญญัติโรงงาน แต่สำหรับประเด็นที่สาม น่าสนใจว่าอาจเป็นข้อเสนอส่วนเพิ่มหรือเป็นนโยบายของตัวรัฐมนตรีเองหรือไม่ อย่างไร
 

 

 


ทางด้านชาวบ้านจำนวนหนึ่งที่ได้เข้ามาติดตามการลงพื้นที่ของรัฐมนตรี มีบางรายได้รุกถามว่า ทำอย่างไรจึงจะเห็นรูปธรรมการแก้ไขปัญหา เนื่องจากนายกฯ และรัฐมนตรีที่เคยมาลงพื้นที่ต่างรับปากแบบกว้างๆ ว่าจะแก้ปัญหา แต่กลับไม่พบว่ามีความคืบหน้าใดๆ ที่ทำให้ความเดือดร้อนกว่า 10 ปีของชาวบ้านในพื้นที่บรรเทาลง อย่างน้อยเห็นว่าควรที่จะต้องมีการทยอยขนกากสารพิษออกไปจากพื้นที่บ้าง ซึ่ง รมว. อุตสาหกรรมได้ให้คำมั่นกับชาวบ้านในพื้นที่ว่า ตนมองว่าปัญหาดังกล่าวเป็นเรื่องเร่งด่วน โดยจะรีบเสนอของบกลางต่อคณะรัฐมนตรีมาดำเนินการขนย้ายและเยียวยาประชาชนในพื้นที่  
 


และนอกจากการรองบประมาณกลางแล้ว กระทรวงอุตสาหกรรมก็จะรีบพิจารณางบประมาณของทางกระทรวงเอง เพื่อมาเร่งดำเนินการขนย้ายในส่วนของกากอะลูมิเนียม ดรอส ออกจากพื้นที่ก่อนเป็นอย่างแรกด้วย อีกทั้งยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ชาวบ้านในพื้นที่จะต้องได้พบกับเขาอีกแน่นอน
 

 

 


หลังจากนั้น รมว. เอกนัฏยังได้เดินทางไปตรวจดูความคืบหน้าการดำเนินงานผันน้ำก่อนเข้าโรงงาน ที่บ้านของสัญญา คำมี ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากการประกอบกิจการของวิน โพรเสสฯ และได้พยายามสอบถามถึงปัญหาที่สัญญาประสบ แต่สัญญาได้แต่ยืนซึม ร้องไห้ และพูดไม่ออก
 


เรื่องโดย พิสิทธิ์ ศรีพุ่มไข่
ภาพถ่ายโดย นราธิป ทองถนอม, ธันยาภัทร์ ดอกผล