ภาคประชาชนพบอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ ชูข้อเสนอและท่าทีภาคประชาชนต่อสนธิสัญญาพลาสติกโลก (6 ก.ย. 67)

 

 

วันนี้ (6 กันยายน 2567) องค์กรภาคประชาชน 3 องค์กร ได้แก่ มูลนิธิบูรณะนิเวศ (EARTH) มูลนิธิความยุติธรรมเชิงสิ่งแวดล้อม (Environmental Justice Foundation Thailand) และกรีนพีซ ประเทศไทย (Greenpeace Thailand) ได้เข้าพบปรีญาพร สุวรรณเกษ อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) เพื่อนำเสนอข้อมูลและความเห็นของภาคประชาสังคมต่อการทำจัดทำท่าทีของรัฐบาลไทย สำหรับการประชุมคณะกรรมการเจรจาระหว่างรัฐบาลครั้งที่ 5 (INC-5) ในการจัดทำร่าง “สนธิสัญญาพลาสติกโลก”
 


สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ปี พ.ศ. 2565 ที่ประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (UNEA) ได้มีมติสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติที่ 5/14 (UNEA Resolution 5/14) กําหนดให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการการเจรจาระหว่างรัฐบาล (Intergovernmental Negotiating Committee - INC) เพื่อร่วมกันจัดทำมาตรการที่จะมีผลผูกพันทางกฎหมายว่าด้วยมลพิษจากพลาสติก รวมทั้งสิ่งแวดล้อมทางทะเล หรือที่เรียกกันว่า “สนธิสัญญาพลาสติกโลก” (Global Plastics Treaty) ต่อมาระหว่างปี พ.ศ. 2565 - 2567 คณะกรรมการ INC ซึ่งประกอบไปด้วยตัวแทนจากประเทศสมาชิกราว 170 ประเทศ ได้มีการประชุมร่วมกันไปแล้ว 4 ครั้ง โดยการประชุมครั้งที่ 5 (INC-5) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 25 พฤศจิกายน - 1 ธันวาคม พ.ศ. 2567 ที่เมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี จะเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย


 

 


การเข้าพบอธิบดีกรมควบคุมมลพิษในครั้งนี้ องค์กรภาคประชาชนทั้งสามองค์กร ซึ่งได้ติดตามการพัฒนาร่างสนธิสัญญาพลาสติกโลกมาโดยตลอด ได้ยื่นข้อเสนอแนะต่อการจัดทำท่าทีสำหรับการประชุมคณะกรรมการเจรจาระหว่างรัฐบาลครั้งที่ 5 (INC-5) ต่อกรมควบคุมมลพิษ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนเจรจาของประเทศไทย ดังนี้
 


1. รัฐบาลไทยควรสนับสนุนให้สนธิสัญญาพลาสติกโลกมีมาตรการการปรับลดอัตราการผลิตพลาสติกให้อยู่ในระดับที่ยั่งยืน รวมไปถึงการยุติการผลิต การจำหน่าย การใช้ การนำเข้า และการส่งออก พลาสติกที่มีปัญหาและสามารถหลีกเลี่ยงได้
2. รัฐบาลไทยควรสนับสนุนให้สนธิสัญญาพลาสติกโลกมีมาตรการภาคบังคับสำหรับการพัฒนาระบบการใช้ซ้ำ การเติม และการซ่อมแซม (Reuse-Refill-Repair) และการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับการใช้งานภายใต้ระบบเหล่านี้
3. รัฐบาลไทยควรสนับสนุนให้สนธิสัญญาพลาสติกโลกมีมาตรการควบคุมการใช้สารเคมีในการผลิตพลาสติกและในพลาสติก การจัดตั้งทะเบียนสารเคมีที่ต้องยุติการใช้ในการผลิตพลาสติก  และมาตรการด้านความโปร่งใสในการรายงานและเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสารเคมีในพลาสติกที่เข้มงวด
4. รัฐบาลไทยควรสนับสนุนให้ภาคประชาสังคมและผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ ได้แสดงความเห็นอย่างเท่าเทียมและมีความหมายในการเจรจาเพื่อจัดตั้งสนธิสัญญาพลาสติกโลก และสามารถมีส่วนร่วมอย่างโปร่งใสในการจัดทำท่าทีของรัฐบาลไทยต่อการเจรจาดังกล่าว