อุตฯ ปราจีนฯ ตรวจโรงงานกรดมะนาวปล่อยน้ำเสียทะลัก พบพนักงานแค่เผลอเปิดประตูระบายน้ำ (2 ก.ค. 67)
อุตฯ ปราจีนฯ รุดตรวจโรงงานกรดมะนาวที่ปล่อยน้ำเสียทะลักสู่พื้นที่สาธารณะ พบว่าพนักงานแค่เผลอเปิดประตูระบายน้ำสูงเกินไป
สืบเนื่องจากกรณีพบโรงงานปล่อยของเหลวลงพื้นที่สาธารณะ ในพื้นที่หมู่ 7 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567 โดยเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากมลพิษอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี สามารถบันทึกภาพเหตุการณ์ดังกล่าวไว้ได้ จากภาพเห็นได้ชัดเจนว่ามีของเหลวสีน้ำตาล ลักษณะข้น หนืด และเป็นฟอง ไหลทะลักออกมาจากปล่องซีเมนต์ข้างรั้วโรงงานซึ่งประกอบกิจการทำกรดมะนาวแห่งหนึ่ง จนกระทั่งของเหลวดังกล่าวไหลลงรางระบายน้ำภายในสวนอุตสาหกรรม 304 อันเป็นที่ตั้งของโรงงาน เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 17.00 น.
หลังจากที่ทาง เพจหยุดภัยมลพิษ Pollution-Free EARTH ได้นำเสนอเรื่องและภาพดังกล่าว ออกไปในช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ (1 กรกฎาคม 2567) และทางมูลนิธิบูรณะนิเวศได้ประสานแจ้งเรื่องไปยังกรมโรงงานอุตสาหกรรรม (กรอ.) ในอีกทางหนึ่ง ในเวลาต่อมา สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรีก็ได้ส่งเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าว ซึ่งมีการรายงานว่าคือบริษัท ซันชาย ไบโอเทค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ประกอบกิจการผลิตกรดมะนาว ตั้งอยู่ในสวนอุตสาหกรรม 304 ต.ท่าตูม อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี
เจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรีมีการรายงานผลการตรวจสอบว่า เกิดจากพนักงานเปิดประตูระบายน้ำเสียสำหรับส่งไปบำบัดยังโรงงานบำบัดน้ำเสียของสวนอุตสาหกรรม 304 สูงเกินกว่าปกติ ทำให้ฟองน้ำเสียไม่สามารถไหลลงท่อได้ และลอยล้นขึ้นดังปรากฏในภาพและคลิป เป็นเวลาประมาณ 5 นาที จากนั้นพนักงานได้ลดระดับประตูระบายน้ำลง จึงทำให้น้ำเสียและฟองไหลกลับเข้าสู่ระบบท่อส่งน้ำเสียเป็นปกติ รวมใช้เวลาแก้ไขประมาณ 10 นาที
อย่างไรก็ตาม รายงานดังกล่าวของเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรีมีความไม่สอดคล้องกับภาพเหตุการณ์ที่ทางเครือข่ายฯ ได้บันทึกไว้ ว่าใช้เวลาเพียงประมาณ 2 นาที น้ำเสียจากโรงงานก็หยุดไหลทันที ซึ่งทำให้ทางสมาชิกเครือข่ายคาดว่า พนักงานโรงงานได้ดำเนินการปิดวาลว์หลังจากที่เห็นว่ามีผู้มาพบเห็นการกระทำผิดดังกล่าว
ทั้งนี้ ในส่วนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดปราจีนบุรี ได้มีการเก็บตัวอย่างน้ำทิ้งไปเพื่อส่งตรวจวิเคราะห์ด้วย และได้สั่งการกำชับผู้ประกอบการระมัดระวังไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำอีก รวมทั้งได้ระบุว่าจะดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป