อีกแหล่งเสี่ยงพิษภัยเคมี...ที่อยุธยา (8 พ.ค. 67)

 

“เขละและเขลอะขละ” คือคำบรรยายที่ตรงที่สุดแล้ว สำหรับสภาพที่เห็นในบริเวณพื้นที่ตั้งบริษัทซันเทค เคมิคอล แอนด์ โลจิสติกส์ จำกัด ต. อุทัย อ. อุทัย จ. พระนครศรีอยุธยา
 


ในภาคทางการ บริษัทแห่งนี้ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการเป็นโรงงานลำดับที่ 105 ซึ่งได้รับอนุญาตให้ประกอบกิจการคัดแยกทำลายวัสดุไม่ใช้แล้วประเภท “ของเสียไม่อันตราย”

 


 


แต่บนกองขยะใหญ่ที่ทอดตัวยาวขนานกับอาคารนั้น พบถังขนาด 200 ลิตรบรรจุของเสียอันตราย ปะปนอยู่กับขยะทั่วไป พวกเศษซากพลาสติก เศษกระดาษ หรือกระทั่งเศษแก้ว อย่างชัดเจน
 


ภาพที่นำมาให้ชมนี้เป็นเพียงส่วนที่อยู่นอกอาคาร ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 2 หลัง เนื่องจากในวันที่มูลนิธิบูรณะนิเวศติดตามคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล เข้าไปในที่ตั้งบริษัทแห่งนี้ เจ้าของที่ดินและอาคารที่ให้บริษัทซันเทคฯ เช่าได้ปิดล็อกอาคารทั้งสองหลังเอาไว้
 


กรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) เข้าตรวจสอบบริษัทซันเทคฯ ภายหลังจากที่ได้ตรวจสอบกรณีโกดังภาชี ตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนมีนาคม 2566 แล้วพบว่ามีความเชื่อมโยงกัน ต่อมา กรอ. จึงเพิกถอนใบอนุญาตและออกคำสั่งปิดบริษัทซันเทคฯ ไปแล้ว รวมทั้งได้สั่งให้ดำเนินการกับกากของเสียทั้งหมดตามพระราชบัญญัติวัตถุอันตราย แต่ทางบริษัทไม่ทำตามและติดต่อไม่ได้ จึงทำให้เจ้าของที่ดินเกรงจะเกิดเหตุอุบัติภัย
 


จากที่ กรอ. เคยเข้าตรวจภายในอาคารสองหลัง พบว่า กากของเสียที่เก็บไว้ส่วนใหญ่เป็นกรดในถัง 200 ลิตร มีบ้างที่อยู่ในแกลลอน แต่ไม่ค่อยมีถังใหญ่ชนิด IBC หรือถังเบลาก์ขนาดความจุ 1,000 ลิตร
 


อย่างไรก็ตาม สำหรับกองของเสียภายนอกอาคาร ในช่วงที่ กรอ. ตรวจเมื่อปีที่แล้ว พบว่า เมื่อมองจากด้านบนส่วนใหญ่จะเป็นเศษพลาสติกและกระดาษ แต่ข้างล่างจะมีถังเบลาก์ IBC ขนาดใหญ่ซ่อนอยู่บ้าง โดยที่ของเหลวภายในมีการหกรั่วไหลไปยังที่นาของชาวบ้านที่อยู่ด้านนอกโรงงานด้วย
 

 

 


ถึงแม้บริเวณที่ดินผืนนี้จะมีรั้วรอบและเจ้าของล็อกกุญแจอาคารไว้ แต่โดยสภาพที่อยู่ติดถนน และพบว่ายังมีหลายจุดที่คนอาจลักลอบเข้ามาได้ ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนมากในขณะนี้ แนวโน้มที่จะเกิดอุบัติภัยจึงมีความเป็นไปได้
 


ความเชื่อมโยงระหว่างบริษัทซันเทคฯ กับโกดังภาชี มีข้อต่อสำคัญอยู่ที่คนชื่อ “จตุวุฒิ” โดยที่บุคคลที่เป็นข้อต่อนี้เกี่ยวข้องกับบริษัทวิน โพรเสสฯ ซึ่งเป็นเจ้าของโรงงาน ณ บ้านหนองพะวา จ.ระยอง ที่เพิ่งเกิดเหตุไฟไหม้ใหญ่ ทั้งยังเกี่ยวข้องกับอีกบางกรณีการลักลอบทิ้งของเสียอันตรายด้วย