ซากในซาก กับสถิติฉบับย่อว่าด้วยวิน โพรเสสฯ ณ หนองพะวา (6 พ.ค. 67)

 

 

◾️ 13 ปี คือช่วงระยะเวลาที่วิน โพรเสสฯ เข้ามาอยู่ในพื้นที่บ้านหนองพะวา ต. บางบุตร อ. บ้านค่าย จ. ระยอง
 


◾️ 13 ปีเดียวกันนั้น ประชาชนในพื้นที่แจ้งความประสงค์ไม่ต้องการให้วิน โพรเสสฯ ประกอบกิจการด้านของเสียอุตสาหกรรมโดยตลอด มีการคัดค้านทั้งด้วยการร้องเรียน การยื่นหนังสือ การจัดเวทีแสดงจุดยืน การชุมนุมประท้วง ฯลฯ
 


◾️ 9 ปี คือจำนวนปีที่วิน โพรเสสฯ ประกอบกิจการเกี่ยวกับกากของเสียอันตรายในพื้นที่บ้านหนองพะวา 
- 5-6 ปีแรกเป็นการลักลอบประกอบกิจการโดยไม่มีใบอนุญาต (ลอบทำ/เป็นโรงงานเถื่อน)
- 3-4 ปีหลังเป็นการประกอบกิจการภายใต้ใบอนุญาต 3 ใบ นั่นคือ การคัดแยกของใช้แล้วทั่วไป การหล่อและหลอมโลหะ และการรีไซเคิล คืนสภาพกรดด่าง ทำเชื้อเพลิงผสม และล้างภาชนะบรรจุภัณฑ์ด้วยตัวทำละลาย แต่เบื้องลึกในทางปฏิบัติจริง เหมือนเพียงรับจ้างนำของเสียออกจากโรงงานต้นทางมาเก็บไว้ในโรงงานที่หนองพะวา ไม่ได้มีกระบวนการรีไซเคิลหรือบำบัดกำจัดจริงจังอะไร


 

 


◾️ รัศมี 5 กิโลเมตรโดยรอบโรงงาน คือพื้นที่ที่สารเคมีของวิน โพรเสสฯ แพร่กระจายออกไปตามทางน้ำและลำรางสาธารณะ ทั้งนี้จากคำให้การในศาลของพยานผู้เชี่ยวชาญฝ่ายโจทก์ที่ยืนยันการพบสารเคมีกลุ่มจำพวกเดียวกันระหว่างในโรงงานกับภายนอก โดยที่ฝ่ายจำเลยไม่ได้โต้แย้งประเด็นนี้แต่อย่างใด
 


◾️ 47 ล้านบาทเป็นมูลค่าความเสียหายที่กลุ่มชาวบ้านหนองพะวาผู้ได้รับผลกระทบ 15 ราย ซึ่งรวมตัวเป็นโจทย์ฟ้องวิน โพรเสสฯ ยื่นเรียกร้องเป็นค่าชดเชยเยียวยาความเสียหายทางสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ
 


◾️ 20.8 ล้านบาทคือจำนวนเงินที่ศาลตัดสินให้วิน โพรเสสฯ และพวก รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโจทก์
 


◾️ 1 ปี 4 เดือน เป็นเวลาที่ความยุติธรรมใช้ในการเดินทาง แต่ยังคงมาไม่ถึง (ศาลพิพากษาเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 แต่โจทก์ยังคงไม่ได้รับการชดเชยใดๆ และปัญหาไม่ถูกแก้ไขจนปัจจุบัน)
 


◾️ ประเมินไม่ได้ แต่ไม่น้อยกว่า “10,000 ตัน” คือปริมาณกากของเสียอันตรายที่ค้างคาอยู่ในบริเวณโรงงานของบริษัทวิน โพรเสสฯ ในวันที่ยกเลิกประกอบกิจการ และในที่สุดได้กลายเป็นเชื้อเพลิง ในเหตุการณ์ที่เราเรียกว่า “เพลิงเคมี ณ หนองพะวา” ซึ่งตั้งต้นขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่วันที่ 22 เมษายน 2567


 

 


◾️ 3 ปี 9 เดือน เป็นช่วงเวลาที่ผ่านไปแล้ว นับจากวันที่วิน โพรเสสฯ หยุดประกอบกิจการ และอุตสาหกรรมจังหวัดระยองยึดอายัดของเสียในโรงงาน พร้อมทั้งสั่งห้ามเคลื่อนย้าย ตลอดจนได้มีการเก็บตัวอย่างสารพิษไปตรวจวิเคราะห์ เพื่อใช้ประกอบการดำเนินคดี และจัดทำแผนการขนย้ายไปกำจัดให้ถูกต้องต่อไป
 


◾️ 15 วันแล้วที่กากของเสียอันตรายหรือกากเคมีปริมาณมากมายเหล่านั้นได้ผ่านเพลิงเคมีเผาผลาญจนกลายเป็น “ซากกาก” ซึ่งในวันนี้ทางเพจมีภาพที่เพิ่งถ่ายล่าสุดเมื่อวานนี้มาให้ชม ว่า “ซากในซาก” นั้นยังคงเหลืออยู่มากมายและหลากหลายปนเปเพียงใด
 


ถ้าไม่ได้เกิดเหตุไหม้ขึ้นเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2567 โดยที่ไฟเผาผลาญกากของเสียภายในโรงงานได้ต่อเนื่องยาวนานหลายวัน ผลของการกระทำเลวร้ายและปัญหาที่ซุกทับถมซ่อนไว้เหล่านี้ก็คงอยู่ในความสนใจของผู้คนเพียงน้อยราย
 


จากนี้จึงขอเชิญชวนร่วมกันจับตากรณีนี้ต่อไป อย่าปล่อยให้หนองพะวาต้องถูกลักลอบทำร้ายหนักหน่วงต่อไปอีกเลย