ดราม่าเรื่องผลตรวจวัดคุณภาพอากาศหนองพะวา (24 เม.ย. 67)

 

 

มูลนิธิบูรณะนิเวศชี้แจงผลตรวจวัดคุณภาพอากาศพื้นที่เกิดเหตุเพลิงเคมีหนองพะวาต่อหน้าผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วยตัวแทนกรมควบคุมมลพิษ ผู้แทนส่วนราชการต่างๆ และแกนนำชาวบ้านในพื้นที่ ผู้ว่าฯ สั่งการให้เฝ้าระวังจริงจัง พร้อมทั้งเคาะว่าต้องดับไฟให้ได้ภายใน 5 ชั่วโมง
 


ช่วงบ่ายเกือบเย็นวันนี้ (24 เมษายน 2567) ที่วัดหนองพะวา ต. บางบุตร อ. บ้านค่าย จ. ระยอง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้เข้ามาประชุมร่วมกับผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์ความคืบหน้าการดับไฟเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานบริษัทวิน โพรเสสฯ และผลกระทบด้านต่างๆ 
 


ตอนหนึ่ง ตัวแทนกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) บุญเติม โชติวัฒนสิริ ได้ชี้แจงเรื่องผลตรวจวัดคุณภาพอากาศว่า เหตุที่ คพ. แจ้งว่าอยู่ในระดับที่ไม่ก่อให้เกิดผลกระทบทางสุขภาพ เนื่องจากโดยหลักการจะมีการแบ่งผลตรวจวัดคุณภาพเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ไม่ส่งผลกระทบ มีผลกระทบไม่รุนแรง และมีผลกระทบรุนแรง ซึ่งผลตรวจวัดเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ออกมาพบมีปริมาณไอระเหยสารเคมีปะปนในอากาศเล็กน้อย จึงถือว่าไม่ส่งผลกระทบ แต่ก็ระบุว่า ที่ว่าไม่ส่งผลกระทบนั้นมิใช่จะเป็นเช่นนั้นกับทุกคน
 

 

 


หลังจากนั้นได้มีผู้ร่วมประชุมกล่าวขึ้นว่า นอกจากผลตรวจวัดของ คพ. ยังมีมูลนิธิเอกชนที่เข้ามาตรวจวัดคุณภาพอากาศด้วย ซึ่งผลแตกต่างจากของทาง คพ. ซึ่งก่อให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นจากหมู่มวลชนที่อยู่รายรอบในที่นั้น
 


ฐิติกร บุญทองใหม่ ผู้จัดการแผนงานมูลนิธิบูรณะนิเวศ ซึ่งอยู่ ณ ที่นั้นด้วย จึงได้ออกไปชี้แจงถึงบริบทการตรวจวัดที่มูลนิธิดำเนินการ ว่าเป็นการตรวจวัดในช่วงกลางคืนของวันที่ 23 เมษายน บริเวณใกล้โกดัง 5 ในขณะที่เกิดเหตุไฟปะทุขึ้นอีกครั้ง และมีการตรวจวัดอีกครั้งในช่วงรุ่งเช้าวันที่ 24 เมษายน ด้วย
 


เจ้าหน้าที่ คพ. จึงกล่าวว่า นั่นสิ ของ คพ. ตรวจวัดในช่วงกลางวัน ส่งผลให้เกิดเสียงโห่จากฝูงชนและมีบางคนส่งเสียงลักษณะโวยวายว่า เหตุใด คพ. จึงตรวจเฉพาะช่วงกลางวันแล้วก็กลับไป ในขณะที่ช่วงกลางคืนคือช่วงที่อากาศกดต่ำ และชาวบ้านรู้สึกสัมผัสได้ว่าอากาศมีปัญหา จนต้องอพยพกันออกไปจากพื้นที่ทั้งสองคืนที่ผ่านมา ซึ่งบุญเติมได้แต่ตอบเบาๆ ว่า วันนี้อยู่แน่นอน
 


ทางด้านผู้ว่าฯ ได้กำชับให้หน่วยงานต่างๆ เฝ้าระวังปัญหาที่จะสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนอย่างจริงจัง พร้อมทั้งกำชับเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องดับไฟให้สนิทโดยเร็ว ซึ่งมีการกำหนดกรอบเวลาเป็นภายใน 5 ชั่วโมง นับจากช่วงเวลาที่ประชุมกัน โดยที่การประชุมได้ยุติลงเมื่อประมาณ 18.00 น.
 


ดังนั้น คืนนี้จึงมีประเด็นให้ต้องลุ้นกันอีกว่า การดับไฟจะสำเร็จได้ตามที่มีการประกาศกันไว้หรือไม่
 


ทั้งนี้ นอกเหนือจากสาเหตุเรื่องช่วงเวลาแล้ว ยังมีปัจจัยอีกหลายประการที่อาจทำให้ผลตรวจวัดคุณภาพอากาศออกมาแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือที่มีศักยภาพหรือคุณภาพการตรวจวัดแตกต่างกัน เจตนารมณ์ของการตรวจวัด รวมถึงการวิเคราะห์และแสดงผล
 


ทั้งนี้ สำหรับเครื่องตรวจวัดของมูลนิธิฯ เป็นการวัดคุณภาพอากาศเบื้องต้นในแบบทันทีทันใด (real time) ซึ่งผลตรวจวัดในจุดหลักๆ มีดังนี้
 


วันที่ 23 เมษายน เวลาประมาณ 23.40 น.: (1) ผลตรวจบริเวณหน้าบ้านประชาชนห่างจากพื้นที่โรงงานของ บ. วิน โพรเสสฯ โกดัง 5 หรือโกดังต้นเพลิง ประมาณ 400 เมตร พบค่า VOCs รวม หรือสารเคมีกลุ่มสารอินทรีย์ระเหย สูงประมาณ 500-600 ส่วนในพันล้านส่วน (ppb) หรือประมาณ 0.5-0.6 ส่วนในล้านส่วน (ppm) ค่า PM 1 - PM 10 ประมาณ 300-500 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (ug/m3) (2) ผลตรวจบริเวณสวนยางพาราที่ติดกับโกดังดังกล่าว พบค่า VOCs รวม อยู่ที่ประมาณ 300 ppb หรือประมาณ 0.3 ppm ค่า PM 1 - PM 10 ประมาณ 400-500 ug/m3 (3) ผลตรวจบริเวณพื้นที่วัดหนองพะวา (จุดอำนวยการ) พบค่า VOCs รวม อยู่ที่ประมาณ 200-240 ppb หรือประมาณ 0.2-0.3 ppm ค่า PM 1 - PM 10 ประมาณ 15-19 ug/m3
 


วันที่ 24 เมษายน เวลาประมาณ 06.30 น.: (1) ผลตรวจบริเวณใกล้โกดัง 5 พบค่า VOCs รวม อยู่ที่ประมาณ 269 ppb หรือประมาณ 0.269 ppm ค่า PM 1 - PM 10 ประมาณ 227-306 ug/m3
 


ในส่วนของค่าฝุ่น pm2.5 มีค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ไม่เกิน 37.5 ug/m3 และ pm10 มีค่ามาตรฐานเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ไม่เกิน 120 ug/m3 ส่วน VOCs ปกติไม่ควรที่จะตรวจพบในอากาศปกติ นั่นคือค่าควรเป็น 0
 


ด้วยเหตุนี้เอง มูลนิธิบูรณะนิเวศเราจึงได้ตัดสินใจที่จะแจ้งเตือนภัยออกไปเมื่อช่วงสายวันนี้ เพราะ VOCs ที่พบถือเป็นสิ่งแปลกปลอมที่มีอันตราย
 


ที่น่าสนใจคือ ในการประชุมวันเดียวกันนี้เอง ทางด้านข้าราชการฝ่ายสาธารณสุขรายงานว่า พบผู้เจ็บป่วยด้วยอาการลักษณะระคายเคืองทางเดินหายใจและผิวหนัง ซึ่งสอดคล้องกับอาการเฉียบพลันที่ทางมูลนิธิฯ ได้แจ้งเตือนไป
 


ล่าสุด เมื่อประมาณ 20.30 น. ที่ผ่านมา พบว่า ทางเพจ คพ. ได้รายงานผลตรวจวัดคุณภาพอากาศพื้นที่หนองพะวาอีกครั้ง คราวนี้เริ่มแจ้งถึงสารแปลกปลอมที่พบแล้ว
 


สุดท้าย ขอฝากถึง คพ. ว่า ถึงแม้เครื่องตรวจวัดเราอาจอ่อนไหวไม่เท่ากัน แต่ถ้าหัวใจกล้าหาญพอ วิชาการจะถูกใช้อย่างตรงไปตรงมา
 


ภาพถ่ายโดย นราธิป ทองถนอม มูลนิธิบูรณะนิเวศ