พบแล้วกากแคดเมียมที่หาย ที่แท้แอบซุกอยู่ “คลองกิ่ว” (6 เม.ย. 67)

 

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ

 

 

จากกรณีที่มีการตรวจพบกากแคดเมียมและกากสังกะสีในพื้นที่โรงงานแห่งหนึ่ง ณ ซอยกองพนันพล กลางเมืองสมุทรสาคร ซึ่งถูกขนมาจากบริษัท เบาด์ แอนด์ บียอนต์ (มหาชน) จ. ตาก แต่จากการตรวจสอบพบว่า ปริมาณที่ปลายทางมีน้อยกว่าต้นทางราวหมื่นตัน ทำให้เกิดตวามตื่นตะลึงว่าสารพิษอันตรายจำนวนมหาศาลที่หายไปจากระบบอยู่ที่ไหนกัน?
 


ล่าสุดจากการประสานงานกันในทางลึกพบแล้วว่า ที่แท้กากแคดเมียมและกากสังกะสีที่หายไปนั้น มีส่วนหนึ่งแอบซุกอยู่ในพื้นที่โรงงานรีไซเคิลเถื่อน ต. คลองกิ่ว อ. บ้านบึง จ. ชลบุรี โดยทางอธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) กำลังเร่งเข้าตรวจสอบ ทั้งนี้ ยังไม่อาจทราบว่ายอดปริมาณรวมจะเท่ากับส่วนที่หายไปหรือไม่


 

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ

 


รายงานจากเพจข่าว3มิติเมื่อช่วงบ่ายวันนี้ (วันที่ 6 เมษายน 2567) ระบุว่า ได้พบกากแคดเมียมส่วนหนึ่งแล้วที่อาคารคล้ายโรงงานในท้องที่ อ. บ้านบึง จ. ชลบุรี พร้อมแสดงภาพเปรียบเทียบว่าเป็นถุงลักษณะเดียวกับที่พบในโรงงาน จ. สมุทรสาคร ในเบื้องต้น ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ปทส.) คาดว่า หากเป็นกากแคดเมียม น่าจะมีปริมาณคร่าวๆ ประมาณกว่า 5,000 ตัน
 


ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 มูลนิธิบูรณะนิเวศได้ลงพื้นที่โรงงานรีไซเคิล คลองกิ่ว ชลบุรี เพื่อติดตามประเด็นการแอบแฝงนำเข้าขยะอิเล็กทรอนิกส์อันตรายมาคัดแยกและหลอมภายใต้ใบอนุญาตรีไซเคิลขยะพลาสติก ในวันนั้นได้ถ่ายภาพติดถุงบิ๊กแบกจำนวนหนึ่งภายในกลุ่มอาคารต่างๆ ของโรงงาน ซึ่งทำให้เกิดคำถามในใจว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในคืออะไร ประกอบกับช่วงที่ผ่านมามีผู้ให้ข่าวว่า สมุทรสาครเป็นหนึ่งในต้นทางของกากของเสียที่นำเข้าไปยังคลองกิ่ว
 

 

ไม่มีคำอธิบายรูปภาพ

 


เมื่อเกิดเหตุการณ์พบกากแคดเมียมที่สมุครสาครจึงได้ย้อนกลับมาตรวจสอบดูภาพเหล่านี้ และพบว่ามีตัวเลขและวิธีเขียนคล้ายกับถุงบิ๊กแบกบรรจุกากแคดเมียมและกากสังกะสีที่พบที่สมุทรสาครเป็นอย่างมาก นั่นคือ เกือบทั้งหมดจะพ่นสีแสดงวันเดือนปี การขนส่ง ดังนั้นจึงนำมาสู่การส่งข้อมูลชี้เป้าให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องติดตามจับกุมเพิ่มเติม
 


แต่ข้อเท็จจริงที่ต้องเน้นย้ำคือ โรงงานรีไซเคิลบนเนื้อที่ 88 ไร่ในพื้นที่คลองกิ่ว ชลบุรี ที่พบเจอกากแคดเมียมและกากสังกะสีล่าสุดนี้ มีเพียงโซน B เท่านั้นที่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานเกี่ยวกับการบด ย่อย หลอมพลาสติก จำนวน 5 ใบอนุญาต และมีอีก 1 ใบอนุญาตที่แจ้งขอประกอบกิจการคัดแยกของเสียที่ไม่เป็นอันตราย และไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการที่เกี่ยวข้องกับของเสียชนิดนี้
 


นั่นนำมาสู่คำถามที่ต้องย้อนกลับไปที่หน่วยงานที่รับผิดชอบอยู่ดีว่า ไม่ว่าจะเป็นโรงงานที่กองพนันพลหรือที่คลองกิ่ว ต่างก็ไม่ใช่ที่ที่จะรับเอากากอุตสาหกรรมอันตรายร้ายแรงเช่นนี้มาดำเนินการใดๆ ต่อได้ การรับมาคือการทำผิดกฎหมายในตัวเอง
 

 

อาจเป็นรูปภาพของ ข้อความ

 

 


ยิ่งกว่านั้น ล่าสุด ทางมูลนิธิฯ ได้รับแจ้งเพิ่มเติมจากคนในพื้นที่สมุทรสาครด้วยว่า กากแคดเมียมจาก จ. ตาก ได้เข้าสู่สมุทรสาครตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2566 แล้ว และมีส่วนหนึ่งที่ถูกหลอมไปแล้วด้วย ก่อนที่จะเป็นข่าว 
 


นี่จึงยังเป็นอีกประเด็นที่ควรต้องมีการติดตามตรวจสอบต่อในหลายๆ มิติเช่นเดียวกัน
 


ภาพถุงบิ๊กแบกบรรจุแคดเมียมสมุทรสาคร (ภาพเล็ก) โดย ข่าวสามมิติ
ภาพถุงบิ๊กแบกที่เหลือเป็นภาพที่คลองกิ่วชลบุรี โดยนราธิป ทองถนอม มูลนิธิบูรณะนิเวศ