ไฟป่าออสเตรเลียคร่าชีวิต จิงโจ้-โคอาล่า-แกะ ตายเกลื่อนริมทาง (5 ม.ค. 63)

โพสต์ทูเดย์ 5 มกราคม 2563
ไฟป่าออสเตรเลียคร่าชีวิต จิงโจ้-โคอาล่า-แกะ ตายเกลื่อนริมทาง

ออสเตรเลียสุดวิกฤต คาดไฟป่ากระทบสัตว์แล้วถึง 480 ล้านตัว ควันไฟรุนแรงมองเห็นได้จากอวกาศ

สถานการณ์ไฟป่ายังคงวิกฤตสุดจะควบคุมได้ โดยไฟได้กระจายตัวทั้งกลุ่มใหญ่กลุ่มเล็กทั่วแถบตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศแถบรัฐวิคตอเรียและนิวเซาท์เวลส์

ภาพความสูญเสียทรัพย์สินของมนุษย์และชีวิตของสัตว์ป่าหลากชนิดได้กลายเป็นไวรัลบนโลกโซเชียล #PrayForAustralia จนติดเทรนด์โลก

สถานีโทรทัศน์ ABC ของออสเตรเลียได้เผยภาพของช่างภาพประจำสถานี ที่ถ่ายคลิปวิดิโอระหว่างขับรถผ่านไปยังเมือง Batlow ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐนิวเซาธ์เวลส์ ใกล้กับกรุงแคนเบอร์ร่า เมืองหลวง ในช่วงเช้าของวันนี้ จนพบกับซากของสัตว์ป่าและปศุสัตว์นานาชนิดทั้ง จิงโจ้ โคอาล่า และแกะ ถูกเปลวเพลิงมัจจุราชคร่าชีวิตตายเกลื่อนริมทาง

Batlow เป็นหนึ่งในอีกหลายเมืองของออสเตรเลียที่ได้รับความเสียหายจากไฟป่า กระทั่งสถานการณ์เพิ่งสงบลงจากการที่อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย จนชาวเมืองสามารถกลับเข้าไปเพื่อตรวจสอบความเสียหายได้ ขณะที่ในอีกหลายพื้นที่สถานการณ์ไฟป่ายังคงดำเนินอยู่อย่างรุนแรงยากจะควบคุม

เช่นเดียวกับเฟซบุ๊กของ The New Batlow Hotel โรงแรมท้องถิ่นของเมืองได้เผยคลิปวิดิโอที่แสดงให้เห็นซากของสัตว์ป่าและปศุสัตว์ของชาวบ้านนับร้อย ที่ไม่รอดเงื้อมมือของเพลิงมัจจุราช ตายเรียงรายริมทางอย่างน่าสลด

ศ.คริส ดิคแมน (Professor Chris Dickman) ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อมจากมหาวิทยาลัยซิดนีย์ประเมินว่า นับตั้งแต่เหตุไฟป่าซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ช่วงเดือนกันยายนของปีที่ผ่านมา ก่อนจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆช่วงปลายปี 2019 ต่อเนื่องจนถึงตอนนี้ ประเมินอย่างคร่าวๆว่าไฟป่าได้ส่งผลกระทบต่อสัตว์ไปราว 480 ล้านตัว 

ในวิจัยของ ศ.ดิคแมน อธิบายว่าตัวเลขนี้พูดถึงจำนวนสัตว์ที่ได้รับผลกระทบ ไม่ใช่ที่กำลังตายเพราะไฟป่าโดยตรง ใช้วิธีการประเมินจากการที่ในออสเตรเลียเฉลี่ยมีสัตว์เลี่ยงลูกด้วยนมราว 17.5 ตัว สัตว์ปีก 20 ตัว และสัตว์เลื้อยคลาน 129.5 ตัว ต่อพื้นที่ 10,000 ตร.ม. ก่อนจะใช้วิธีคูณเข้ากับจำนวนพื้นที่ที่ถูกไฟไหม้เสียหายไปแล้ว ซึ่งเชื่อว่าสัตว์ขนาดเล็กรวมถึงสัตว์เลื้อยคลาน ที่ต้องอาศัยในป่าเป็นหลักจะได้รับผลกระทบ ส่วนสัตว์ใหญ่อย่างจิงโจ้หรือนกอีมูยังพอเอาชีวิตรอดจากเปลวเพลิงได้บ้าง 

ตัวเลขที่ชัดเจนไม่สามารถประเมินได้ อีกทั้งอาจต้องรวมจำนวนปศุสัตว์ของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายด้วย แต่ที่จะส่งผลกระทบระยะยาวคือ ป่าของที่พวกมันเคยอยู่อาศัยถูกทำลาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการมีชีวิตรอดในระยะยาว

ไฟป่านอกจากจะสร้างความเสียหายต่อสัตว์ ทรัพย์สินและชีวิตของประชาชนแล้ว ภาพความรุนแรงของไฟป่าครั้งนี้ยังมองเห็นได้จากอวกาศ

โดยภาพถ่ายจากดาวเทียม himawari-8 แสดงให้เห็นกลุ่มควันไฟขนาดใหญ่สีส้มก่อตัวขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ออกจากบริเวณรัฐวิคตอเรียและนิวเซาท์เวลส์ มุุ่งหน้าไปทางตะวันออกเฉียงใต้โดยได้ส่งผลกระทบต่อทั่วทั้งเกาะใต้ของนิวซีแลนด์

เช่นเดียวกับภาพถ่ายดาวเทียวจากหน่วยงานอื่นๆ ก็แสดงให้เห็นเปลวไฟและกลุ่มควันขนาดใหญ่ที่ลอยตัวสู่ชั้นบรรยากาศเช่นกัน สภาวะเช่นนี้จะทิ้งฝุ่นควัน แก๊สพิษต่างๆเข้าสู่ระบบภูมิอากาศโลก และอาจจะส่งผลกระทบถึงปรากฎการณ์เรือนกระจก

นอกจากนี้ กลุ่มควันขนาดใหญ่จากไฟป่าที่ลอยตัวขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศกำลังสร้างระบบภูมิอากาศขึ้นด้วยตัวเอง เพราะควันไฟร้อนที่ลอยตัวขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ส่งผลให้ควันเมื่อลอยสูงขึ้นจะเย็นตัว จับกลุ่มกับไอน้ำกลายเป็นเมฆฝนฟ้าคะนอง และเกิดลมพายุแนวดิ่ง เกิดฟ้าผ่ารุนแรง ซึ่งจะเป็นสาเหตุให้เกิดไฟป่าในส่วนอื่นๆอีกระลอก

สิ่งหลายฝ่ายคาดหวังให้ช่วยลดความรุนแรงของไฟในขณะนี้มีเพียงทางเดียวคือรอคอยมวลอากาศเย็นหรือฝนตกเท่านั้น