กลุ่มค้านเห็นควรรัฐต้องตอกปิดฝาโลงโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา (19 เม.ย. 61)
MGR Online 19 เมษายน 2561
กลุ่มค้านเห็นควรรัฐต้องตอกปิดฝาโลงโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา
สตูล - กลุ่มค้านโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา เห็นควรตอกปิดฝาโลง หลังยูเนสโกประกาศสตูลเป็นอุทยานธรณีโลก ยันรัฐควรประกาศชัดว่าจะพัฒนาทางด้านไหน เนื่องจากพื้นที่ดำเนินโครงการอยู่ติดกับแหล่งอุทยานธรณีโลกสตูล
วันนี้ (19 เม.ย.) นายสมบูรณ์ คำแหง หนึ่งในเครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล ที่คัดค้านการก่อสร้างท่าเรือน้ำลึกปากบารา โครงการโปรเจกต์ยักษ์ใหญ่ของทางรัฐบาล แสดงความคิดเห็นว่า แม้องค์การยูเนสโก ขึ้นบัญชีจังหวัดสตูลให้เป็นสมาชิกอุทยานธรณีโลก หรือ Unesco Global Geopark แห่งแรกในประเทศไทย ในการประชุมสำนักเลขาธิการยูเนสโก ครั้งที่ 204 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส มีมติรับรอง “อุทยานธรณีสตูล” เป็นสมาชิกอุทยานธรณีโลกของยูเนสโกแห่งแรกในประเทศไทย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการอนุรักษ์ผ่านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ช่วยให้ธรรมชาติได้รับการคุ้มครอง และเป็นการกระตุ้นการท่องเที่ยวในระดับนานาชาติ
สำหรับอุทยานธรณีสตูล มีเป็นพื้นที่กว่า 2,597.21 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม 4 อำเภอของจังหวัดสตูล คือ ทุ่งหว้า มะนัง ละงู และอำเภอเมืองสตูล ตั้งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทย ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาหินปูน มีเกาะน้อยใหญ่ และชายหาดที่สวยงาม มีความรุ่มรวยทางประวัติศาสตร์ และวิถีชีวิตของผู้คนในชุมชน
ทั้งนี้ ยูเนสโกประกาศรับรองอุทยานธรณีโลกเป็นจำนวนทั้งสิ้น 120 แห่ง ใน 33 ประเทศทั่วโลก โดยภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีอุทยานธรณีโลกของยูเนสโก 4 แห่ง ใน 3 ประเทศ ในมาเลเซีย 1 แห่ง เวียดนาม 1 แห่ง และอินโดนีเซีย 2 แห่ง
ทั้งนี้ อุทยานธรณีโลก เป็นขอบเขตพื้นที่ที่ประกอบด้วยคุณค่าด้านธรณีวิทยา โบราณคดี นิเวศวิทยา และวัฒนธรรม มีการจัดการแบบองค์รวมระหว่างการอนุรักษ์ การให้ความรู้ การศึกษาวิจัย และการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ชุมชนท้องถิ่นมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการพื้นที่ตั้งแต่เริ่มต้น
นายสมบูรณ์ คำแหง หนึ่งในเครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า ส่วนโครงการท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา นั้น ต่อไปในอนาคตจะสร้างหรือเดินหน้าศึกษาต่อได้อีกหรือไม่ หากเป็นมุมมองของชาวบ้านก็จะคิดเห็นตามชาวบ้าน คือ เอาโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบาราพับใส่โลงแล้วตอกตะปูปิดฝังไปเลย คือความคิดของชาวบ้านมันควรจะไม่เกิดขึ้น
แต่หากมองฝ่ายทางรัฐบาล หรือจังหวัดสตูล ก็จะคิดอีกแบบว่า มันคนละส่วนกัน พื้นที่บางพื้นที่ยังคงสุ่มเสี่ยงที่คิดจะเดินหน้าก่อสร้างโครงการนี้ได้ ซึ่งสำคัญมันอยู่ที่จิตสำนึกของทางรัฐบาล หรือผู้ที่จะเดินหน้าผลักดันโครงการนี้ว่า คุณยังคิดจะทำกันอีกหรือ เพราะสตูลกลายเป็นอุทยานธรณีโลกไปแล้ว ควรหันมาดูแลในด้านการท่องเที่ยวระบบเชิงนิเวศดีกว่าปล่อยให้เกิดการทำลายสิ่งแวดล้อมต่อไป เพราะพื้นที่เกาะเขาใหญ่ ซึ่งนับเป็นศูนย์กลางอุทยานธรณีโลก ปฏิเสธไม่ได้ว่าอยู่ติดกับพื้นที่วางโครงการท่าเรือน้ำลึกปากบารา
สำหรับในกลุ่มเครือข่ายติดตามแผนพัฒนาจังหวัดสตูล แม้สตูลบางพื้นที่ได้เป็นอุทยานธรณีโลก แต่ทางเรายังคงเดินหน้าทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เพราะเรายังไม่ไว้ใจว่าโครงการท่าเทียบเรือน้ำลึกปากบารา จะถูกพับเก็บไว้จริงๆ หรือไม่ จะต้องได้ยินเสียงจากผู้ใหญ่ระดับประเทศออกมายืนยันว่ายุติโครงการนี้จริงๆ