หมดสภาพ! อาคารผลิตกระแสไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ปลากระเบน-กังหันลมเกาะล้าน เปิดใช้ไม่กี่ปีไร้งบฯ ดูแลรักษา (15 ม.ค. 61)
MGR Online 15 มกราคม 2561
หมดสภาพ! อาคารผลิตกระแสไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ปลากระเบน-กังหันลมเกาะล้าน เปิดใช้ไม่กี่ปีไร้งบฯ ดูแลรักษา
ศูนย์ข่าวศรีราชา - นายกเมืองพัทยานำคณะตรวจอาคารผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์ปลากระเบน และกังหันลม เกาะล้าน พบหมดสภาพ หลังสร้างเสร็จเปิดใช้งานไม่กี่ปีก็ปิดตัวลง และไร้การบำรุงรักษา
เมื่อเร็วๆ นี้ พล.ต.ต.อนันต์ เจริญชาศรี นายกเมืองพัทยา พร้อมด้วย นายอภิชาต วีรปาล รองนายกเมืองพัทยา ได้นำคณะหัวหน้าส่วนราชการเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบสภาพอาคาร ในโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์ หรืออาคารปลากระเบน และการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังลม หรือกังหันลม ในพื้นที่หน้าชายหาดแสม ชุมชนบ้านเกาะล้าน ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี หลังได้รับรายงานว่า โครงการดังกล่าวดำเนินการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี 2550 กระทั่งแล้วเสร็จในปี 2553 ภายใต้งบการลงทุนรวมทั้ง 2 โครงการกว่า 170 ล้านบาท
แต่กลับพบว่าหลังเปิดใช้ไม่นานก็ปิดตัวลง และไม่เคยใช้งานตามภารกิจอีกเลย ที่สำคัญยังไม่มีการบำรุงดูแลรักษาปล่อยให้เกิดสภาพของความเสื่อมโทรม ทำให้รัฐสูญเสียงบประมาณไปอย่างไม่คุ้มค่า
จากการตรวจสอบสภาพในอาคารอนุรักษ์พลังงานและสิ่งแวดล้อม พบว่า มีสภาพชำรุดทรุดโทรมอย่างหนัก และไม่เคยเปิดใช้งานมานานหลายปีแล้ว อุปกรณ์ภายใน และโครงสร้างของอาคารเริ่มมีการทรุดตัว และได้รับความเสียหายจากพายุฝน และเกล็ดละอองความเค็มจากน้ำทะเล
ขณะที่แผงโซลาร์เซลล์ที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่ติดตั้งไว้บนหลังคาของอาคารเพื่อป้อนเลี้ยงกระแสไฟฟ้าไปในอาคารก็พบว่า ขาดการดูแล และซ่อมบำรุง อุปกรณ์ส่วนใหญ่โดยเฉพาะเครื่องเก็บประจุไฟยังชำรุดไม่สามารถใช้การได้ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเมืองพัทยา สาขาเกาะล้าน เร่งเข้ามาทำการซ่อมแซมเป็นการเบื้องต้น พร้อมทำการสำรวจความเสียหายเพื่อนำเรื่องไปหารือ และพิจารณาแนวทางแก้ไขต่อไป
พล.ต.ต.อนันต์ กล่าวว่า อาคารปลากระเบนแห่งนี้อยู่ในแผนการดำเนินการโครงการสร้างนวัตกรรมพลังงานทดแทนเพื่อสิ่งแวดล้อมและการท่องเที่ยว โดยมีการจัดสรรงบประมาณเป็น 2 ระยะ เพื่อทำการก่อสร้าง “กังหันลม” ที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าบนเขานมสาว หน้าชายหาดแสม จำนวน 45 ต้น เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานลม ที่จะผลิตไฟฟ้าได้ประมาณวันละ 200 หน่วยทางไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้ลดการใช้น้ำมันดีเซลในการผลิตกระแสไฟฟ้ากว่าวันละ 200 ลิตร ก่อนนำกระแสไฟฟ้าไปจำหน่ายให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค แจกจ่ายให้แก่บ้านเรือนประชาชนอีกทางหนึ่ง
รวมทั้ง “อาคารปลากระเบน” ที่มีหลังคาเป็นแผงโซลาร์เซลล์เพื่อรับพลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตกระไฟฟ้าขนาด 64 กิโลวัตต์ เพื่อนำมาใช้ในอาคาร ซึ่งเป็นศูนย์จัดนิทรรศการ และประโยชน์จากการรับคณะ และการจัดกิจกรรมประชุมการเรียนรู้ขนาดใหญ่
แต่จากรายงานพบว่า อาคารแห่งนี้เปิดใช้งานมาได้ประมาณ 2-3 ปี ก็ไม่มีการจัดสรรงบประมาณเพื่อเข้ามาดูแลซ่อมแซม และปรับปรุงระบบ ทำให้ต้องปิดตัวลง แม้ต่อมา จะมีภาคเอกชนเสนอแผนเข้ามาซ่อมบำรุงแต่ก็ถูกระงับไปโดยไม่ทราบเหตุผล ทำให้ทั้ง 2 โครงการ ไม่เคยถูกนำกลับมาใช้ประโยชน์อีก และยังปล่อยให้มีสภาพชำรุดทรุดโทรมเหมือนที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน
“กรณีนี้ที่ผ่านมาหลายหน่วยงานเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง และปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งมีการระบุว่ามีความผิดในฐานละเมิด และปล่อยปละเลยให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินราชการ แต่ขณะนี้ก็ยังเป็นเรื่องในการพิจารณาของศาลปกครอง เพราะมีการอุทธรณ์ แต่ก็คงเป็นเรื่องที่จะดำเนินการกันต่อไป ส่วนเมืองพัทยาในยุคปัจจุบันก็คงมอบหมายให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องไปทำการซ่อมบำรุงเป็นการชั่วคราว ก่อนพิจารณาหาแนวทางแก้ไขต่อไป” พล.ต.ต.อนันต์ กล่าว
นอกจากนี้ ยังพบว่า ที่ผ่านมาบริเวณตลอดแนวชายหาดแสม ซึ่งเป็นที่สาธารณะ มีการปล่อยสัมปทานการเช้าพื้นที่ทำกินให้ผู้ประกอบการ โดยให้ในส่วนของชุมชนเป็นผู้เก็บผลประโยชน์การเช่าเพื่อนำงบไปใช้ในการบริหารจัดการของชุมชน ซึ่งคงต้องตรวจสอบดูว่า เป็นเรื่องที่ถูกต้องตามกฎระเบียบของทางราชการหรือไม่ ขณะที่อาคารที่พักที่สร้างไว้ จำนวน 10 หลัง ก็ปล่อยให้มีสภาพชำรุดอย่างหนัก ไม่มีระบบการบริหารจัดการดูแลแต่อย่างใด จึงมีการเสนอให้ตั้งกรรมการเพื่อขึ้นทะเบียนครุภัณฑ์ และพิจารณาจัดหางบประมาณมาซ่อมแซมเพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างคุ้มค่า