ไฟเขียวเชือด รง.ปาล์ม เมืองคอน ปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำ (20 พ.ย. 60)

แนวหน้าออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2560
ไฟเขียวเชือดรง.ปาล์มเมืองคอน ปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำ

ป.ป.ท.ลุยตรวจสอบโรงงานปาล์มในนครศรีธรรมราช หลังชาวบ้านร้องปล่อยน้ำเน่าเสียลงแหล่งน้ำธรรมชาติ “พ่อเมือง”ไฟเขียวพบผิดเชือดไม่ไว้หน้า

จากกรณีชาวบ้านใน อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช รวมตัวกันร้องเรียนผ่านหน่วยงานต่างๆ เนื่องจากได้รับความเดือดร้อนจากการปล่อยน้ำเสียของโรงงานปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 4 ต.ทุ่งปรัง อ.สิชล ที่ปล่อยลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ อีกทั้งยังใช้รถแบ็คโฮขุดผนังกั้นบ่อพักน้ำเสียให้ไหลทะลักลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติคลองท่าควาย คลองสายหลักของ อ.สิชล

ทั้งนี้ ทางศูนย์ดำรงธรรม อุตสาหกรรมจังหวัด ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นตรวจสอบข้อเท็จจริง พบการกระทำผิดอย่างชัดเจน จึงกำหนดมาตรการเบื้องต้น 3 ข้อ 1.ให้โรงงานเสริมคันบ่อบำบัดน้ำเสียให้แข็งแรงและปิดกั้นรางระบายให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน 2.ให้โรงงานจัดทำแผนปรับปรุงโรงงานเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน  และ 3.สร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชนในพื้นที่ในการเฝ้าระวังป้องกันผลกระทบด้านมลพิษจากโรงงานนั้น

ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 20 พ.ย.60 นายอัครเดช คงทรัพย์ พร้อมด้วย น.ส.มนัสนันท์ จรัลจรูญพงษ์ และ พ.ต.ต.(หญิง) ศรีสมเกียรติ แท่นทอง นักสืบสวนชำนาญการ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเดินทางเข้าพบนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัด(ผวจ.) นครศรีธรรมราช เพื่อหารือถึงปัญหาที่เกิดขึ้นด้วย

ผวจ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางจังหวัดพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบโรงงานอย่างเต็มที่ โดยคณะของ ป.ป.ท. ศูนย์ดำรงธรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า โรงงานปาล์มปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ส่งผลกระทบสร้างความเดือดร้อนต่อประชาชนจริงหรือไม่ หากพบการกระทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ต้องไล่เรียงกันตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ หน่วยงานใดที่รับผิดชอบถือว่าละเลยการปฏิบัติหน้าที่ก็ต้องรับผิดชอบกันต่อไป

ส่วน น.ส.มนัสนันท์ กล่าวว่า ทาง ป.ป.ท.ส่วนกลาง และ ป.ป.ท.ภาค 8 ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว โดยการลงตรวจสอบในพื้นที่หากพบมีการกระทำผิดทาง ป.ป.ท.จะดูในส่วนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบในพื้นที่ว่าได้ดำเนินการอย่างไรไปแล้วหรือไม่ หากพบว่ามีการปล่อยปละละเลย ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ทาง ป.ป.ท.จะดำเนินการเอาผิดกับเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 58/2 แต่ต้องไปตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนเสียก่อนว่าโรงงานกระทำผิดจริงหรือไม่ และเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างไรแล้วหรือไม่ เรื่องนี้ทาง ป.ป.ท.ระดับผู้บังคับบัญชา จะเดินทางลงมาสมทบในพื้นที่ด้วย

ส่วนชาวบ้านในพื้นที่คนหนึ่ง เปิดเผยว่า ชาวบ้านดีใจที่ ป.ป.ท.ลงมาตรวจสอบในเรื่องนี้ เพราะโรงงานกระทำผิดซ้ำซาก ไม่สนใจว่าประชาชนจะได้รับผลกระทบหรือเดือดร้อนอย่างไร

จากนั้นคณะของ ป.ป.ท. ได้ลงตรวจสอบพื้นที่รอบๆบริเวณโรงงาน บริเวณบ่อเก็บน้ำเสียด้านหลัง ซึ่งบริเวณด้านนอกของโรงงานกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ยังมีแต่ร่องรอยของบ่อเลี้ยงปลาของชาวบ้านที่น้ำไหลเข้าไปจนปลาตายยกบ่อ จนเจ้าของบ่อปลาต้องถมดินและเอาท่อระบายน้ำมาใส่ให้สูงกว่าเดิม ส่วนความเข้มข้นของน้ำเสียได้เจือจางลง เนื่องจากมีการปล่อยน้ำเสียตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผ่านมาแล้ว12 วัน

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบตรงจุดที่ปล่อยน้ำเสีย ยังพบร่องรอยเพิ่งใช้รถแบ็คโฮปิดกั้นน้ำเสียบริเวณผนังกั้นบ่อน้ำเสียอย่างชัดเจน และปริมาณน้ำเสียประมาณ 7 - 8 บ่อ ก็เกือบเต็มทุกบ่อ หลังตรวจสอบพื้นที่แล้ว คณะ ป.ป.ท.ได้เข้าพื้นที่สอบถามความเดือดร้อนของชาวบ้านในชุมชนเพิ่มเติม และเตรียมมีทำหนังสือถึงผู้บังคับบัญชา เพื่อดำเนินคดีการกับโรงงานแห่งนี้ต่อไป