น้ำเน่าเสียถูกปล่อยลงแม่น้ำปราจีนฯ พบปลานานาชนิดลอยหัว ชาวบ้านจับได้เพียบ (20 พ.ย. 60)
มติชนออนไลน์ 20 พฤศจิกายน 2560
น้ำเน่าเสียถูกปล่อยลงแม่น้ำปราจีนฯ พบปลานานาชนิดลอยหัว ชาวบ้านจับได้เพียบ
อึ้ง!!วันหยุดพบน้ำเน่าเสียถูกปล่อยลงแม่น้ำปราจีนบุรี พบปลานานาชนิดลอยหัวเกยตลิ่งหาอากาศหายใจ-ตาย ขาวโพลนเกลื่นเหม็นเน่าตลบคุ้งน้ำ ชาวบ้านแห่ใช้แห,ฉมวก ,เรือไล่จับได้คนละนับ100กิโลกรัม ตลอดวันยันกลางดึก!!!
เมื่อเวลา 21.50 น.วันนี้ 19 พ.ย.60 ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรี รายงานว่า มีการแชร์ผ่านในเฟชบุ๊ค โดยผู้ใช้ชื่อ “อบต.กุ๊ก” (https://www.facebook.com/profile.php?id=100007052237446) ระบุว่า …”ปลานานาชนิดทั้งปลาผิวน้ำ,ปลาน้ำลึก ,กุ้งแม่น้ำ ลอยหัวเกยตลิ่ง หาอากาศหายใจและตายเป็นจำนวน มากในแม่น้ำปราจีนบุรีตลอดทั้งตำบลบางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี สรุปคือไม่มีหน่วยงานไหนออกมาช่วยปลาในแม่น้ำปราจีนได้เลยคือปลาต้องตายหมดใช่ไหมจะปล่อยให้เป็นแบบนี้อีกนานแค่ไหน”
และกล่าวต่อไปในเฟชบุ๊คว่า … “สรุปเรื่องราวของน้ำเน่าเสียแล้วทำให้สัตว์น้ำในลำน้ำบางประกงตายเป็นเรื่องที่เกิดจากธรรมชาติเพราะประตูระบายน้ำ ของชลประทานไม่ว่าจะเป็นที่บางแตน บางยาง บางเตย บางกระเบา บางพลวง ล้วนแล้วแต่ระบายน้ำเสียที่ชาวนาทำนาแล้วทำให้มีน้ำเน่าไหลลงสู่แม่น้ำบางประกง(เหตุผลที่กล่าวอ้างทุกครั้งที่เกิดเรื่องน้ำเน่าเสีย) แต่ถ้านับถอยหลังสมัยบรรพบุรุษเขาทำนามาไม่เคยมีน้ำเน่าเสียแบบนี้เลย ทางราชการได้สั่งการให้มีการเฝ้าระวังและรายงานให้ทราบตลอด 24. ชั่วโมง กำนัน ผู้ใหญ่บ้านต้องทำงานกันอย่างหนักรายงานให้ทางการทราบแล้วทางการก็ตอบว่า”ทราบ” เป็นอันจบเรื่องราวกันไป และยังมีแถลงการณ์โยนความรับผิดชอบกันไปมาเป็นที่น่าเบื่อมากๆๆ
เป็นแบบนี้มาหลายปีหลายหนพอเกิดเหตุก็สนใจหน่อยแต่การแก้ปัญหาระยะยาวไม่เคยมีหน่วยงานไหนออกมาเสนอบ้างเลย การเป็นห่วงปลาในกระชังที่ประชาชนเลี้ยงต้องเฝ้าระวังเพราะมีการขึ้นทะเบียนไว้แล้วหากเสียหายประชาชนเรียกร้องขอความช่วยเหลือได้(ปลาที่เรียกร้องได้) แต่ปลาธรรมชาติที่เติบโตมากับลำน้ำเป็นอาหารและรายได้ของประชาชนนั้นไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้เลย อยู่ได้ก็อยู่ไป รอดฉมวกก็เป็นบุญไป ลอยหัวขึ้นมาถ้าตัวโตๆๆก็ถูกจับไปกินไปขาย ตัวเล็กตัวน้อยก็ตายเหม็นไปทั่งลำน้ำช่วงบริเวณตำบลบางแตนที่แม่น้ำสามสายมาบรรจบกัน
ที่เขียนมานี้คงไม่ได้เรียกร้องแทนปลาหรอกครับเพราะปลามันตายไปหมดแล้ว ไม่ต้องมาเฝ้าระวัง ไม่ต้องมาเขียนรายงานเพื่อ”ทราบ” ไม่ต้องมาสนใจหรอกครับ เคยเรียกร้องไปก็เงียบ ขอให้นักข่าวมาทำข่าวเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้คนที่เป็นต้นเหตุรับผิดชอบนักข่าวก็เงียบ ท้ายที่สุดแล้วคือเจ้าสัตว์น้ำในลุ่มน้ำบางประกงเอ๋ยวงจรชีวิตเอ็งสั้นเกิดมาได้สองสามปีเอ็งก็จะต้องเจอน้ำเน่าเสียและตายไปตามวงจรชีวิต ของให้เอ็งรู้ไว้เสียด้วย ”…
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ พบจุดแรกที่ประตูน้ำคลองหูช้าง ตัดผ่านบ้านบางแตนก่อนไหลลงแม่น้ำปราจีนบุรี ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรีพบชาวบ้านกว่า 10 ราย กำลังใช้แห,สวิง,ฉมวก จับปลาที่ไหลผ่านจ้าละหวั่น ได้ปลาตะเพียน,ปลาแก้มช้ำตัวขนาดใหญ่คนละนับกว่า 10 กก.
นายอิสระ กลัดเจริญ อายุ 20 ปี ต.บางเตย อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี กล่าว่า “ทราบว่าปลาลอยหัวหาออกซิเจน -เกยตลิ่ง จึงหาสวิงมาตักปลาที่ลอยหัว ได้ปลาหลายชนิดโดยเฉพาะปลาผิวน้ำมากกว่า 10กก.”นายอิสระกล่าว
ด้านนายสมนึก นิ่งมาอายุ อายุ 56 ปี อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า “ทราบข่าวจากพี่ชายมีปลาลอยหัว-ตายจำนวนมาก จึงแวะซื้อสวิงมาตัก ได้ปลาหลายชนิดมากกว่า 20 กก.”นายสมนึกกล่าว
จากนั้นได้ลงพื้นที่แม่น้ำปราจีนบุรีหน้าวัดบางแตนหมู่ 2 ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี พบชาวบ้านกำลังหาปลาทั้งใช้ฉมวกแทงจากบนตลิ่ง หรือบางรายใช้เรือล่องตามชายฝั่ง-กลางแม่น้ำ ตักปลา –แทงด้วยฉมวกปลาที่กำลังลอยหัวขึ้นมาหายใจหาออกวิเจนกว่า 20 คน
ขณะที่ นายวีระ หรือ แอ๊ว ไทรอ่ำเอี่ยม อายุ 47 ปี เลขที่ 41 หมู่ 2 ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรีกล่าวว่า “ปลาตายเนื่องจากน้ำเสีย ปลาตายมาตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 60 และตายมากใน 2 วันนี้ พบในแม่น้ำปราจีนบุรี สภาพน้ำเน่ามีสีแดงกลิ่นเหม็น คาดว่ามาจากโรงงานอุตสาหกรรมปล่อยน้ำเสีย ไม่น่าใช่เกษตรกรชาวนา พบปลาในแม่น้ำตายสารพัดชนิด ทั้งปลาธรรมชาติ และปลาเลี้ยงกระชัง หลังปลาตายพบมีทางอุตสาหกรรมมาตรวจวัดค่าน้ำเสียแล้ว โดยทุกปีช่วงนี้ จะมีปัญหาปลาตายตลอด”นายวีระ กล่าว
ด้านนางสริญญา หรือ “อบต.กุ๊ก” เจนเขา อายุ 35 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบลบางแตนหมู่ 4 (ส.อตบ.) ต.บางแตน อ.บ้านสร้าง จ.ปราจีนบุรี เจ้าของเฟชบุ๊ค อบต.กุ๊ก กล่าวว่า “สภาพน้ำเน่าเสียพบเป็นมา 2-3 วัน แต่หนักมากวันนี้สภาพน้ำสีชา ปลาขาดอากาศหายใจ พบแม้แต่ปลาน้ำลึก เช่น ปลาลิ้นหมายังขาดอากาศหายใจขึ้นมาตาย รวมถึงปลาเลี้ยงกระชัง ตายเยอะมากช่วงเที่ยง เนื่องจากน้ำนิ่ง
ที่ผ่านมายังไม่มีหน่วยงานไหนลงพื้นที่ตรวจสอบ มีเพียงอุตสาหกรรมที่ขอทราบข้อมูล ได้ข้อมูลจากชาวประมงพื้นบ้าน เข้าเขต ต.บางแตนพบปลาลอยมากกว่าจุดอื่น ๆ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบ ว่าเป็นโรงงานอุตสาหกรรม หรือ เกษตรกร ชาวบ้านออกมาหาปลาโดยใช้ฉมวก,สวิง หรือ อ้ายโง่หาปลา ที่ปลาเมื่อมันขาดอากาศหายใจ มันจะเข้าไปอยู่ พบปลาตายจำนวนมาก”นางสริญญา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม จากการตรวจสอบในเฟชบุ๊ค ทราบว่าสภาพน้ำเน่าเสียและปลาตายขณะนี้เข้าเขต จ.ฉะเชิงเทราแล้ว โดยพบว่าตลอดทั้งคืน ชาวประมงพื้นบ้านต่างพากันไปหาปลา,กุ้งในแม่น้ำปราจีนบุรีกันเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงบริเวณจุดบรรจบระหว่างแม่น้ำปราจีนบุรีกับแม่น้ำนครนายก รวมกันเป็นแม่น้ำบางปะกง ก่อนไหลลงผ่าน จ.ฉะเชิงเทราลงที่ปากอ่าวไทย โดยจะเลือกหาเฉพาะปลาขนาดใหญ่หรือกุ้งแม่น้ำเป็นส่วนใหญ่