กรมชลฯ ระบุ "โขง-เลย-ชี-มูล" ไม่เข้าข่ายผันน้ำ ลุยหาเอกชนทำ "อีไอเอ" - กำหนดกรอบ 360 วัน (18 พ.ย. 60)
Green News TV 18 พฤศจิกายน 2560
กรมชลฯ ระบุ ‘โขง-เลย-ชี-มูล’ ไม่เข้าข่ายผันน้ำ ลุยหาเอกชนทำ ‘อีไอเอ’ – กำหนดกรอบ 360 วัน
กสม. เรียกสอบโครงการ “ปตร.ศรีสองรักษ์-โขงเลยชีมูล” กรมชลฯ ยันไม่เกี่ยวข้องกัน เตรียมลงพื้นที่ทำความเข้าใจอีกครั้ง
คณะอนุกรรมการด้านสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) จัดประชุมรับฟังคำชี้แจงข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 15 พ.ย.2560 ภายหลังได้รับเรื่องร้องเรียนว่าโครงการก่อสร้างประตูระบายน้ำศรีสองรักษ์ จ.เลย กระทบต่อชุมชนไทพวนบ้านกลาง หมู่ที่ 3 และ 8 ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย และโครงการบริหารจัดการน้ำโขงเลยชีมูลกระทบต่อสิทธิชุมชนและขาดกระบวนการมีส่วนร่วม โดยมีผู้แทนกรมชลประทาน ผู้แทนสำนักก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 12 และผู้แทนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จ.เลย เข้าร่วมชี้แจง
นายธเนศ กุลกรินีธรรม วิศวกรโยธาชำนาญการ สำนักบริหารโครงการ กรมชลประทาน เปิดเผยว่า โครงการโขง เลย ชี มูล ระยะที่ 1 จะครอบคลุมพื้นที่ 1.69 ล้านไร่ ภายใต้งบประมาณ 1.52 แสนล้านบาท ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหาผู้รับจ้างศึกษารายงาน EIA ภายใต้ปีงบประมาณ 2561 กำหนดระยะเวลาการศึกษา 360 วัน
ทั้งนี้ ตามระเบียบปฏิบัติเรื่องการแจ้ง การปรึกษาหารือล่วงหน้าและข้อตกลง (PNPCA) ของคณะกรรมาธิการแม่น้ำโขง (MRC) ไม่นับว่าโครงการนี้เป็นการผันน้ำ เนื่องจากเลย ชี มูล เป็นลุ่มน้ำสาขาของแม่น้ำโขงอยู่แล้ว จึงเรียกเพียงว่าเป็นการนำเอาน้ำมาใช้ ซึ่งมีระเบียบวิธีปฏิบัติที่ต่างกัน
สำหรับโครงการประตูระบายน้ำ (ปตร.) ศรีสองรักษ์ จะครอบคลุมพื้นที่ 7.2 หมื่นไร่ ภายใต้งบประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งไม่เข้าข่ายที่ต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ขณะนี้ผ่านมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) อยู่ระหว่างการเตรียมจัดซื้อที่ดินและเดินหน้าทำความเข้าใจกับประชาชน โดยกำหนดกรอบระยะเวลาก่อสร้างแล้วเสร็จภายในปี 2566
นายจิตะพล รอดพลอย หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดใหญ่ที่ 12 เปิดเผยว่า ปตร.ศรีสองรักษ์ และโครงการบริหารจัดการน้ำโขง เลย ชี มูล นับเป็นคนละโครงการกัน สามารถพัฒนาแยกออกจากกันได้อย่างอิสระ และมีพื้นที่เป้าหมายที่แตกต่างกัน เพียงแต่ตำแหน่งที่ตั้งของหัวงานอยู่ติดกันเท่านั้น ซึ่งในส่วนของโครงการ ปตร.ศรีสองรักษ์ ที่ผ่านมาการประชาสัมพันธ์อาจยังลงไปไม่เต็มที่นัก เพราะต้องรอให้ ครม.มีมติอนุมัติให้ชัดเจนเสียก่อน เพื่อไม่ให้ข้อมูลคลาดเคลื่อน
อย่างไรก็ตาม เมื่อมติ ครม.อนุมัติแล้ว หลังจากนี้จะจัดเตรียมสื่อประชาสัมพันธ์ให้แล้วเสร็จเพื่อลงไปนำเสนอข้อมูลในพื้นที่และได้ทำความเข้าใจกับราษฎรโดยตรง ซึ่งจะมีการสอบถามความคิดเห็นเพื่อจัดวางเส้นทาง กำหนดจุดต่างๆ ของโครงการให้ชัดเจนต่อไป เพราะขณะนี้ยังไม่มีการออกแบบรายละเอียดดังกล่าว แต่ทั้งนี้ในส่วนที่เคยไปปรากฏในการศึกษาร่วมกับโครงการโขง เลย ชี มูลนั้น เป็นเพียงการศึกษาว่าทั้งสองโครงการนี้จะมีผลกระทบอะไรกันหรือไม่
นายหาญณรงค์ เยาวเลิศ หนึ่งในอนุกรรมการฯ กล่าวว่า แม้โครงการ ปตร.ศรีสองรักษ์ จะไม่เข้าข่ายต้องทำ EIA แต่ด้วยขนาดโครงการควรจะมีการจ้างบริษัทที่ปรึกษาในการศึกษาผลกระทบ มาตรการ และทำความเข้าใจกับประชาชน ไม่ใช่กรมชลประทานทำเองทั้งหมด และควรจะเดินหน้าพูดคุยกับชาวบ้านหาข้อยุติให้เรียบร้อยเสียก่อนที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของ ครม. เพื่อจะได้เห็นจุดอ่อนหรือมีมาตรการเยียวยาต่างๆ แต่เมื่อเดินหน้าผ่านมติโดยที่ประชาชนยังมีความไม่เข้าใจ ความสำเร็จของโครงการก็อาจไม่เกิดขึ้นจริง
นายชาญณรงค์ วงศ์ลา เครือข่ายประชาสังคมจังหวัดเลย กล่าวว่า การชี้แจงในที่ประชุมวันนี้ทำให้ชาวบ้านได้รับทราบข้อเท็จจริงเพิ่มมากขึ้น และช่วยคลายข้อสงสัยต่อข่าวลือบางอย่างว่าไม่เป็นความจริง เนื่องจากที่ผ่านมามีหลายกระแสเกิดขึ้นในชุมชนซึ่งได้สร้างความขัดแย้ง อย่างไรก็ตามในคำถามหลักๆ เช่น รายละเอียดการบริหารจัดการโครงการทั้งระบบ ความมีส่วนร่วมที่แท้จริง รวมถึงผลกระทบในด้านต่างๆ อาจยังไม่ได้รับคำตอบในวันนี้ แต่คาดว่าจะได้รับความชัดเจนขึ้นหลังมีการลงพื้นที่ครั้งต่อไป
“หลังการพูดคุยวันนี้รู้สึกได้ว่าชาวบ้านมีความฮึกเหิมขึ้น และจะกลับไปคุยกันในชุมชนเพื่อถ่ายทอดสิ่งต่างๆ มีแรงผลักดันในการต่อสู้มากขึ้น เพราะความหวังจริงๆ ของชาวบ้านคืออยากให้ยกเลิกโครงการ” นายชาญณรงค์ กล่าว
นางสรรัตน์ แก้วสา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านกลาง ต.ปากตม อ.เชียงคาน จ.เลย กล่าวว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านไม่เคยทราบข่าวหรือข้อมูลที่ให้ความชัดเจน ซึ่งกรมชลประทานได้ลงพื้นที่ทำความเข้าใจเพียงบางหมู่บ้าน ที่เห็นด้วย ก่อความบาดหมางในชุมชนที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียงมากขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ไปจับเข่าคุย และเดินหน้าทำความเข้าใจร่วมกันอย่างแท้จริง
ด้าน นางเตือนใจ ดีเทศน์ ประธานอนุกรรมการฯ กล่าวว่า การประชุมในวันนี้ได้ให้กรมชลประทานนำข้อสงสัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นกลับไปจัดเตรียมข้อมูล โดยหลังจากนี้ กสม.จะต้องมีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายร่วมลงพื้นที่เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจให้ชัดเจน ทั้งในส่วนของโครงการ ปตร.ศรีสองรักษ์ ที่ชาวบ้านมีข้อสงสัย และโครงการโขง เลย ชี มูล ที่จะเป็นผลกระทบข้ามพรมแดน