ปลัด ก.อุตฯ โต้ข่าว "รัฐยอมชดใช้ 3 หมื่นล้าน" สั่งปิดเหมืองทองชาตรี (25 ส.ค. 60)

Thai PBS 25 สิงหาคม 2560
ปลัด ก.อุตฯ โต้ข่าวรัฐยอมชดใช้ 3 หมื่นล้าน สั่งปิดเหมืองทองชาตรี 

ปลัด ก.อุตสาหกรรม ยืนยัน “คิงสต์เกต” ให้ข่าว รัฐยอมชดใช้ 30,000 ล้านบาท ไม่เป็นความจริง ย้ำการเจรจาระหว่างรัฐบาลไทย–เอกชน ยังไม่ได้ข้อยุติหลัง “เหมืองทองชาตรี” จ.พิจิตร โดนคำสั่ง ม.44 ยุติประกอบกิจการ

วันนี้ (25 ส.ค.2560) นายสมชาย หาญหิรัญ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะประคณะกรรมการคณะผู้แทนเจรจาของรัฐบาลไทย กับบริษัทอัครา รีซอร์สเซส ซึ่งมี บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด จำกัด เป็นบริษัทแม่จากประเทศออสเตรเลีย เปิดเผยว่า ขณะนี้ผลการเจรจายังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งกรณีที่มีกระแสข่าวว่า บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด จำกัด บริษัทแม่จากประเทศออสเตรเลีย ให้ข้อมูลว่า รัฐบาลไทยยอมชดใช้ค่าเสียหายจากคำสั่งปิดเหมือนทองชาตรีใต้ ซึ่งเป็นเหมืองแร่ภายใต้การประกอบกิจการของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส บริษัทลูก จำนวน 30,000 ล้านบาท นั้นไม่เป็นความจริงแน่นอน ขณะนี้ยังไม่ได้ข้อยุติยังอยู่ระหว่างการเจรจา ยังไม่มีประเด็นใดที่เป็นข้อสรุปได้

นายสมชาย กล่าวว่า กรณีที่บริษัทคิงส์เกตออกแถลงการณ์หรือให้ข้อมูลนั้นไม่เป็นความจริง ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการเจรจาและยังไม่ได้ข้อสรุป ซึ่งจากการสอบถามไปยังบริษัทคิงส์เกตได้รับการยืนยันว่าดำเนินการไปตามสิทธิ์

สำหรับ การประกอบกิจการเหมืองแร่ทองคำในประเทศไทยหลังจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. อาศัยอำนาจตามมาตรา 44 ระงับนโยบายเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศ ส่งผลต่อเหมืองแร่ทองคำชาตรีของบริษัทอัครา รีซอร์สเซส ซึ่งมี บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดตเต็ด จำกัด เป็นบริษัทแม่สัญชาติออสเตรเลีย มีพื้นที่ประกอบกิจการในประเทศไทย พื้นที่ จ.พิจิตร เพชรบูรณ์ และพิษณุโลก บนพื้นที่กว่า 3,000 ไร่

และที่ผ่านมามีกระแสข่าวออกมาเป็นระยะว่า บริษัทคิงส์เกต เตรียมฟ้องเรียกค่าเสียหายจากรัฐบาลไทย ฐานละเมิดข้อตกลงการค้าเสรีไทย-ออสเตรเลีย หลังจากคำสั่งปิดเหมืองทองชาตรี ซึ่งมีผลเมื่อวันที่ 1 ม.ค.2560 ระงับการทำเหมืองแร่ทองคำทั่วประเทศ