กฟผ. เตรียมปรับแผน PDP-2015 เพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนเป็น 40% (6 มิ.ย. 60)

แนวหน้าออนไลน์ 6 มิถุนายน 2560
กฟผ.เตรียมปรับแผนPDP-2015 เพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนเป็น40% 

ว่าที่ พ.ต.อนุชาต ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการชุมชนสัมพันธ์และสิ่งแวดล้อมโครงการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวว่า กฟผ.อยู่ระหว่างเตรียมปรับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า(PDP-2015) ให้สอดรับกับภาวะปัจจุบันที่ต้องยอมรับว่าโรงไฟฟ้าถ่านหินจ.กระบี่ ต้องเลื่อนไปอีกอย่างต่ำ 4 ปี และโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จ.สงขลา ที่คาดว่าจะเลื่อนจากแผน 1 ปี ขณะเดียวกันยังต้องสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้เพิ่มการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเป็น 40%

“กฟผ.เองก็เตรียมจะผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเพิ่มจาก 500 เมกะวัตต์ เป็น 2,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2579 ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก(AEDP 2015) หรือคิดเป็น 10% ของแผนซึ่งเมื่อแผนนี้ปรับก็ต้องปรับแผน PDP ด้วย จึงต้องหารือกับกระทรวงพลังงาน โดยหลักการยังต้องการให้คงสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าของกฟผ.ไม่น้อยกว่า 40-50% เพื่อความมั่นคง ขณะเดียวกันท้ายแผน PDP เดิมกำหนดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไว้ปลายแผน 2 โรง รวม 2,000 เมกะวัตต์จะกำหนดไว้หรือไม่ ซึ่งข้อดีของนิวเคลียร์คือลดภาวะโลกร้อนและค่าไฟถูก” ว่าที่ พ.ต.อนุชาตกล่าว

ส่วนความคืบหน้าโรงไฟฟ้าถ่านหินในกรณีที่กฟผ.ได้ทำหนังสือสอบถามไปยังสำนักงานนโยบายและแผนพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.) ถึงแนวทางการจัดทำรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ(EHIA) โรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ และรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ในส่วนของท่าเรือ ทาง สผ.ได้ทำหนังสือตอบกลับถึงแนวทางการดำเนินการหลักๆ ที่ต้องให้นำความเห็นของคณะกรรมการไตรภาคีเข้าไปประกอบการดำเนินงานและการสร้างการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชนทำให้ กฟผ.ต้องเริ่มกระบวนการจัดทำใหม่หมด

“กฟผ.ต้องเริ่มกระบวนการจัดทำ EIA และ EHIA ใหม่หมดซึ่งต้องเริ่มตั้งแต่การเตรียมว่าจ้างที่ปรึกษาการเปิดรับฟังความเห็น ฯลฯ คาดว่าจะใช้เวลา 2 ปี ทำให้การผลิตไฟฟ้าป้อนเข้าระบบ(COD) จากเดิมปี 2562 จะเลื่อนเป็นปี 2566-67 ขณะที่โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จ.สงขลา ยูนิตแรกที่จะต้อง COD ปี 2564 ก็คงต้องเลื่อนออกไปเป็นปี 2565” ว่าที่พ.ต.อนุชาตกล่าว