IRPC โล่งหน่วย DCC ไม่ปิด (14 มิ.ย. 57)

ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ 14 มิถุนายน 2014
IRPC โล่งหน่วย DCC ไม่ปิด

กรมโรงงานอุตสาหกรรม ไฟเขียวไออาร์พีซี เปิดเดินเครื่องหน่วย DCC ผลิตสารโพรพิลีนภายใน 2 สัปดาห์ หลังลงพื้นที่ตรวจสอบโรงงานที่ถูกไฟไหม้ภายในสัปดาห์นี้ ด้านไออาร์พีซี ประเมินความเสียหายรายได้จากเหตุเพลิงไหม้หน่วยเพิ่มมูลค่าน้ำมันเตา 160 ล้านบาทต่อเดือน คาดปิดซ่อมเป็นระยะเวลา 3 เดือน
   
นายณัฐพล ณัฏฐสมบูรณ์ อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า กรมเตรียมลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบกรณีเกิดเพลิงไหม้ที่หน่วยเตรียมวัตถุดิบปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเตา (VGOHT: Vacuum Gas Oil Hydro Treating Unit) ป้อนหน่วยเพิ่มมูลค่าน้ำมันเตา (DCC : Deep Catalytic Cracking) เพื่อผลิตเป็นสารโพรพิลีน ที่โรงงานของบริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ตำบลเชิงเนิน จังหวัดระยอง ภายในสัปดาห์นี้ เนื่องจากที่ผ่านมาทางบริษัทยังไม่ได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่เข้าพื้นที่ เพราะอยู่ระหว่างการพิสูจน์หลักฐานจาก กองพิสูจน์หลักฐานและการตรวจสอบของประกันภัย

โดยหลังจากการเกิดเพลิงไหม้ กรมได้สั่งปิดเพียงหน่วย VGOHT ที่ถูกเพลิงไหม้เท่านั้น ส่วนหน่วยอื่นๆไม่ได้สั่งห้าม ส่วนจะเปิดดำเนินการได้เมื่อไรนั้น แล้วแต่ความพร้อมของไออาร์พีซี อย่างไรก็ตามภายหลังจากการลงพื้นที่แล้วจะมีการสั่งปิดหน่วยผลิตเพิ่มเติมหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความเสี่ยงและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะด้านความปลอดภัย

นางสาวดวงกมล เศรษฐธนัง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายบัญชีและการเงิน บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากการตรวจสอบความเรียบร้อยหน่วย VGOHT ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา คาดว่าจะต้องปิดซ่อมเป็นระยะเวลา 3 เดือน แต่ในส่วนของหน่วย DCC ซึ่งเป็นหน่วยผลิตสารโพรพิลีนจะเปิดดำเนินการได้ภายใน 2 สัปดาห์นี้ ซึ่งที่ผ่านมาจะใช้น้ำมันเตาซัลเฟอร์ต่ำจากหน่วย VGOHT 50% และจากโรงกลั่น 50% ดังนั้นเมื่อปิดหน่วย VGOHT บริษัทก็จะเดินเครื่องหน่วย DCC 60-70% โดยจะนำวัตถุดิบจากโรงกลั่นน้ำมันเข้ามาทดแทน
   
"ทางกรมโรงงานฯไม่ได้สั่งห้ามให้บริษัทต้องปิดทั้งโรงงาน แต่ปิดเฉพาะหน่วย VOGHT ดังนั้นภายหลังจากการตรวจสอบความเรียบร้อยก็น่าจะกลับมาเดินหน่วย DCC ได้ แต่คงอยู่ในระดับ 60-70% เท่านั้น" นางสาวดวงกมล กล่าว

นายสุกฤตย์ สุรบถโสภณ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการประเมินความเสียหายเบื้องต้นสำหรับธุรกิจที่ต้องหยุดชะงักคือในส่วนของการผลิตโพรพิลีน 360 ตันต่อวันน้ำมันเบนซิน 1.3 ล้านลิตรต่อวัน และดีเซล 1.3 ล้านลิตรต่อวัน หากต้องหยุดเดินเครื่องทั้งหน่วย DCC และหน่วย VGOHT คาดว่าจะมีความเสียหายรายได้ประมาณ 400 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งประเมินระยะเวลาปิดซ่อมคาดว่าจะอยู่ที่ 3 เดือน
   
อย่างไรก็ตามหากกรมโรงงานอุตสาหกรรมอนุญาตให้บริษัทสามารถเดินเครื่องหน่วย DCC คาดว่าจะชัดเจนภายใน 2 สัปดาห์นี้ ซึ่งบริษัทเตรียมนำน้ำมันดิบซัลเฟอร์ต่ำป้อนให้กับหน่วย DCC คาดว่าจะกลับมาเดินเครื่องได้ไม่น้อยกว่า 60% ของกำลังการผลิตทั้งหมด ดังนั้นความเสียหายจะลดลงเหลือเพียง 160 ล้านบาทต่อเดือน ประกอบกับบริษัทมีวงเงินประกัน 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปีนี้ คาดว่ามีแนวโน้มลดลง มาจากการปิดซ่อมหน่วยที่ถูกไฟไหม้ ทำให้กำลังการผลิตรวมของบริษัทลดลง แต่คาดว่าในส่วนของค่าการกลั่นรวม (GIM) จะใกล้เคียงกับไตรมาสแรกปีนี้ที่ระดับ 8.5 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล เพราะได้ทำประกันความเสี่ยงไว้ส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ตามผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 2557 คาดว่าจะเติบโตขึ้นจากโครงการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต หรือโครงการเดลต้า (Delta Project)เข้ามาช่วย

จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 34 ฉบับที่ 2,957 วันที่ 15 - 18  มิถุนายน  พ.ศ. 2557