ญาติ "แกนนำต่อต้านบ่อขยะพิษ" ยื่นฎีกาขอเอาผิดคู่กรณี (18 เม.ย. 60)
MGR Online 18 เมษายน 2560
ญาติแกนนำต่อต้านบ่อขยะพิษ ยื่นฎีกาขอเอาผิดคู่กรณี
ฉะเชิงเทรา - ญาติแกนนำต่อต้านบ่อขยะพิษ ยื่นฎีกาเอาผิดคู่กรณี หลังศาลอุทธรณ์สั่งยกฟ้องมือจ้างวานฆ่า เผยครอบครัวสูญเสียผู้นำทำฐานะตกต่ำ และต้องอยู่อย่างยากลำบาก หวังศาลฎีกาให้ความเป็นธรรม
เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (18 เม.ย.) นายจร เนาวโอภาส อายุ 48 ปี พี่ชาย นายประจบ เนาวโอภาส อดีตผู้ใหญ่บ้าน ม.14 และแกนนำต่อต้านบ่อขยะพิษหนองแหน พร้อมด้วย นางณัฏฐกานต์ เนาวโอภาส ซึ่งเป็นภรรยา พร้อมญาติได้เดินทางเข้ายื่นคำร้องขอฎีกาต่อศาลจังหวัดฉะเชิงเทรา ในคดีดำที่ 3742/2556 คดีแดงที่ 8707/2557 ซึ่งพนักงานอัยการพร้อมโจทก์ได้ยื่นฟ้อง นายภูธร กวีพันธ์ พร้อมพวก 3 คน กรณีจ้างวานฆ่า นายประจบ เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2556
หลังจากศาลชั้นต้น พิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 1 คือ นายภูธร กวีพันธ์ เจ้าของโรงงานบำบัดกากสารพิษ บริษัทฟิวชั่น ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด และอดีตข้าราชการระดับ 8 กระทรวงอุตสาหกรรม ผู้จ้างวานฆ่า ให้ประหารชีวิตในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
แต่ต่อมา ศาลอุทธรณ์ ได้พิพากษาแก้เป็นให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1 และพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นในส่วนของจำเลยที่ 2 และ 3 ซึ่งเป็นผู้รับงาน และมือปืนให้จำคุกตลอดชีวิต
นายจร กล่าวว่า การมายื่นฎีกาโต้แย้งคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในวันนี้ เนื่องจากทางครอบครัวมองว่ายังไม่ได้รับความเป็นธรรมจากปัญหาดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ในการรับฟังข้อเท็จจริง ทั้งที่คดีนี้เป็นคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ และเกี่ยวข้องต่อผลกระทบที่มีต่อชุมชน รวมทั้งชาวบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อนด้านสิ่งแวดล้อมจากการประกอบกิจการที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
“จำเลยที่กระทำความผิดยังเป็นข้าราชการหลายหน่วยงาน ทำให้พฤติการณ์จากการกระทำเป็นที่สนใจสนใจของสังคม รวมทั้งยังมีพยานหลักฐานชัดเจนจากการสืบสวนสอบสวนต่างๆ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งพยานบุคคล พยานแวดล้อม และพยานจากทางนิติวิทยาศาสตร์ และเอกสารเกี่ยวกับความเชื่อมโยงในการใช้โทรศัพท์ที่มีการติดต่อสื่อสารถึงกัน ซึ่งความชัดเจนที่ทางพนักงานสอบสวนได้เก็บรวบรวมไว้ค่อนข้างที่จะเชื่อถือได้ จึงต้องขอใช้สิทธิในการขอยื่นฎีกาตามกระบวนการ” นายจร กล่าว
ด้าน นางณัฏฐกานต์ กล่าวว่า หลังสามีเสียชีวิตนานถึง 4 ปี ได้สร้างความยากลำบากแก่ทางครอบครัว เนื่องจากธุรกิจเกี่ยวกับรถบรรทุกถมดินต้องหยุดชะงักจึงไม่มีรายได้เลี้ยงครอบครัว จึงจำเป็นต้องขอความเป็นธรรม