ครม. ไฟเขียว กม. อีอีซี นายกฯคุม "ซุปเปอร์บอร์ด" บูมลงทุน (12 เม.ย. 60)
แนวหน้าออนไลน์ 12 เมษายน 2560
ครม.ไฟเขียวกม.อีอีซี นายกฯคุม “ซุปเปอร์บอร์ด” บูมลงทุน
นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 เมษายน 2560 ได้เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือชื่อเดิม พ.ร.บ.ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) เพื่อรองรับการลงทุนให้เศรษฐกิจขยายตัว โดยหลังจากนี้จะส่งให้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาแก้ไขร่างพ.ร.บ.อีอีซีเพิ่มเติม และเป็นการรองรับในอนาคตอาจเกิดขึ้นกับภาคอื่นๆนอกเหนือจากภาคตะวันออก ได้ เช่น ภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคอีสาน เพื่อดึงนักลงทุนเข้ามาลงทุนครอบคลุมทั่วประเทศ
สำหรับสาระสำคัญของร่างอีอีซี นอกจากที่ได้เปลี่ยนชื่อแล้ว จะมีการจัดตั้ง คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือซูเปอร์บอร์ด โดยมี นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน และมีรัฐมนตรีจาก 11 กระทรวงร่วมด้วย ซึ่งจะเสนอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาอีก 2 กระทรวง ทั้งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการ
นอกจากนี้ยังได้กำหนดอำนาจของซูเปอร์บอร์ด เพื่อประกาศพื้นที่เป็นเขตส่งเสริมได้รับสิทธิ์ในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตามศักยภาพของพื้นที่บางแห่งที่ต้องการพัฒนาทำเลใดบ้าง ไม่ใช่การพัฒนาทั้งหมดทุกตารางนิ้วของ 3 จังหวัดภาคตะวันออก ประชาชนในพื้นที่จึงไม่ได้รับผลกระทบจากโครงการดังกล่าวทั้งหมด
นายกอบศักดิ์กล่าวว่า ครม.ยังห็นชอบร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2560 ซึ่งจะเป็นการขอคืนงบประมาณจากหน่วยงานที่ไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามเวลาที่กำหนด หรือไม่สามารถลงนามจัดซื้อจัดจ้างได้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2560 รวมวงเงินที่ขอคืนทั้งสิ้น 1.18 หมื่นล้านบาท แต่ทั้งนี้ได้ยกเว้นให้กับหน่วยงานที่ดำเนินการลงนามไม่ทัน แต่ทราบผลการจัดซื้อจัดจ้างแล้ว ซึ่งอยู่ในขั้นตอนกระบวนการที่จะลงนามจัดซื้อจัดจ้าง โดยจะสามารถลงนามจัดซื้อจัดจ้างได้ภายในวันที่ 28 เมษายนนี้ ให้สามารถดำเนินการต่อไป โดยไม่ขอคืนงบประมาณ มีวงเงินประมาณ 2,024 ล้านบาท
นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรี ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ครม.มีมติเห็นชอบกรอบวงเงินงบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการภายใต้แผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจร ปี 2560/61 (ด้านการผลิต) รวม 3 โครงการระยะเวลาดำเนินโครงการ 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2560-2564 วงเงินทั้งสิ้น 25,871 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังอนุมัติงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ปีงบประมาณ 2560 จำนวน 1,087 ล้านบาท ในการดำเนิน 3 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการส่งเสริมการใช้เมล็ดพันธุ์ข้าวหอมคุณภาพดี วงเงิน 57 ล้านบาท 2.โครงการส่งเสริมระบบการเกษตรแปลงใหญ่ วงเงิน 411 ล้านบาท และ 3.โครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ วงเงิน 619 ล้านบาท