สงสัยจะใหญ่จริง! ลอบปล่อยน้ำเน่าภูเขาขยะลงคลองหลังกองทัพภาค 4 ชาวบ้านรับกรรมซ้ำซาก (14 เม.ย. 60)
MGR Online 14 เมษายน 2560
สงสัยจะใหญ่จริง! ลอบปล่อยน้ำเน่าภูเขาขยะลงคลองหลังกองทัพภาค 4 ชาวบ้านรับกรรมซ้ำซาก
นครศรีธรรมราช - น้ำเน่าเสียจากภูเขาขยะเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยังถูกลอบปล่อยลงคลองสาธารณะอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านหมดศรัทธาทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ผู้น้ำท้องที่ และท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบระบุเป็นเครื่องยืนยันถึงเจตนาที่ไม่มีความจริงใจ
วันนี้ (14 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการติดตามการแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากภูเขาขยะที่อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ชาวบ้านได้แจ้งแก่ทีมข่าวอีกครั้ง และที่สำคัญคือ ภาพมุมสูงที่บันทึกไว้โดยอากาศยานไร้คนขับเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา หลังจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษ ทั้งทางน้ำเน่าเสีย และอากาศจากภูเขาขยะที่อยู่ในความรับผิดชอบของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มาอย่างยาวนาน
โดยชาวบ้านระบุว่า ได้มีการลอบปล่อยน้ำเสียลงคลองท่าซัก ซึ่งอยู่ติดกับรันเวย์สนามบินกองทัพภาคที่ 4 จำนวนมหาศาลในช่วงฝนตกหนักเมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยอาศัยช่วงที่น้ำเน่าเสียเพิ่มปริมาณมากขึ้นจากฝน มีรถแบ็กโฮมาเปิดช่องคันดินระบายน้ำเน่าลงคลองห่างจากจุดที่ตรวจจับได้เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมาไม่ถึง 200 เมตร ซึ่งภาพมุมสูงแสดงให้เห็นถึงร่องรอยอย่างชัดเจน และมีการนำมูลดินมาขวางร่องที่ถูกขุดขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พร้อมที่จะเปิดใหม่ได้ตลอดเวลา ซึ่งภาพที่ปรากฏเป็นไปตามการชี้เบาะแสของชาวบ้านที่เข้าตรวจสอบพื้นที่
ขณะที่ผู้นำท้องที่ และผู้นำท้องถิ่นที่เป็นหลักในการเคลื่อนไหวช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ระบุว่า หลักฐานภาพนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงการไม่ให้ความสำคัญต่อกฎหมายสิ่งแวดล้อม แม้ว่าจะมีคณะกรรมการขึ้นมาติดตามการแก้ไขแต่ไม่ได้ช่วยอะไรดีขึ้น มุ่งแต่โครงการใช้งบประมาณ ขณะที่การปฏิบัติยังคงเพิกเฉยในความรับผิดชอบต่อชีวิตผู้คนที่ได้รับผลกระทบ และแม้จะอยู่ในการจับตามองของมณฑลทหารบกที่ 41 การลอบปล่อยน้ำเน่าเสียเช่นนี้ยังคงมีอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม หลังจากชาวบ้านได้พยายามเคลื่อนไหวอย่างต่อเนื่องเพื่อให้รอดพ้นจากสภาพผลกระทบจากมลพิษที่แพร่กระจายออกมาจากภูเขาขยะ จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด เพื่อติดตามตรวจสอบ และแก้ปัญหาแต่ไม่มีความคืบหน้าในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยงานที่รับผิดชอบหลักเกี่ยวกับการปล่อยน้ำเน่าเสียลงแหล่งน้ำสาธารณะกลับไมปรากฏบทบาทอย่างจริงจัง
ส่วนด้านทางทหาร แม้ว่า พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควาณิช แม่ทัพภาคที่ 4 จะมอบให้มณฑลทหารบกที่ 41 และผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติ 4 กอ.รมน.ได้จับตา และติดตามเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด แต่การลอบปล่อยน้ำเน่าเสียยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจุดที่มีการลอบปล่อยนั้นล้วนอยู่หลังกองทัพภาคที่ 4 ค่ายวชิราวุธ อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช และเป็นคลองที่ชาวบ้านประกอบอาชีพหาปลา อาศัยดำรงชีวิตในลำคลองแห่งนี้
ขณะที่ภาพรวมในการตรวจสอบอย่างเข้มข้นของสื่อมวลชน ภาคประชาชน และชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบต่างเชื่อไปในทิศทางสอดคล้องต่อกระแสที่ต่างเชื่อว่า ไม่ว่าหน่วยงานใดไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เลยท่ามกลางหลายประเด็นที่ถูกจับได้ไล่ทัน เช่น ความทรุดโทรมสนามกีฬากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งใช้งบสูงถึง 13.4 ล้านบาท ในการปรับปรุงแต่กลับไม่ได้มาตรฐานเป็นหลักฐานประจานกลางเมือง
โดยพบว่าค้างอยู่ที่ ป.ป.ช., สตง. มานานกว่า 3 ปี แบบไร้ความคืบหน้า เป็นต้น ขณะที่มีกระแสข่าวอ้างถึงผู้มีอำนาจระดับสูงคอยดึงเรื่องโดยเครือข่ายที่มาจากสถาบันการแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่มีข้าราชการ ผู้บริหารและระดับสูงเข้าเรียน ทำให้ประชาชนที่ติดตามเรื่องนี้ต่างหมดศรัทธา และความเชื่อมั่นในหน่วยงานต่างๆ ที่เป็นที่พึ่ง และแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน
ส่วนประเด็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนจากภูเขาขยะ เป็นที่น่าสังเกตว่า การเรียกประชุมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกครั้งผู้รับผิดชอบสูงสุดของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช จะไม่เคยเข้าร่วม โดยอ้างจากผู้แทน หรือข้าราชการที่เข้าร่วมว่าติดราชการ และทุกครั้งผู้เกี่ยวข้องจะพูดถึงปัญหาอื่นๆ และโครงการที่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก โดยไม่ได้ให้ความสำคัญต่อความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องทนอยู่กับมลพิษมาอย่างยาวนาน
นายวัชรา ชุมธรรม ผู้นำองค์กรชุมชน ระบุว่า ชาวบ้านไม่เคยเชื่อว่าการทำคันดินที่ใช้งบเกือบ 10 ล้าน จะช่วยป้องกันน้ำเน่าเสียได้จริง ชาวบ้านที่หาปลาต่างยืนยันว่ายังคงมีน้ำเน่าไหลมาโดยตลอด ภาพที่เห็นเป็นเครื่องยืนยันพิสูจน์ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น