ปลาตายเป็นเบือที่กบินทร์บุรี กรมควบคุมมลพิษ ชี้เกิดจากสาหร่าย+ฝน ชาวบ้านเชื่อ พิษจากโรงงาน (30 มี.ค. 60)
Nation TV 30 มีนาคม 2560
ปลาตายเป็นเบือที่กบินทร์บุรี กรมควบคุมมลพิษ ชี้เกิดจากสาหร่าย+ฝน ชาวบ้านเชื่อ พิษจากโรงงาน
คพ.เปิดผลการตรวจวัดคุณภาพน้ำ หน้าวัดสิกขวัฒนาราม อำเภอกบินทร์บุรี วัดค่าออกซิเจนในน้ำได้ 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร ต่ำกว่ามาตรฐาน ชี้เกิดจากการขยายพันธุ์ของสาหร่าย และน้ำฝนชะล้างสิ่งสกปรกลงแหล่งน้ำ ทำให้แหล่งน้ำเกิดภาวะขาดออกซิเจน เป็นเหตุให้เกิดปลาช็อคตาย
อธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) นายจตุพร บุรุษพัฒน์ บอกว่าจากเหตุการณ์คุณภาพน้ำเน่าเสีย ซึ่งเกิดขึ้นบริเวณริมเขื่อนหน้าวัดสิกขวัฒนาราม หมู่ที่ 1 ตำบลย่านรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ส่งผลให้สัตว์น้ำตายเป็นจำนวนมาก โดยมีสาเหตุเบื้องต้นคาดว่าอาจเกิดจากปรากฏการณ์ การขยายพันธุ์อย่างรวดเร็วของสาหร่ายในแหล่งน้ำ ประกอบกับในช่วงวันที่ 27-28 มีนาคม 2560 มีฝนตกหนัก ทำให้มีการชะล้างสิ่งสกปรกลงสู่แม่น้ำ ที่ทำให้แหล่งน้ำเกิดภาวะขาดออกซิเจน เป็นเหตุให้ปลาเกิดอาการช็อคและตายในบางช่วงของลำน้ำ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า ตลอดระยะทางของแหล่งน้ำจะเป็นที่ตั้งของชุมชน โรงงานอุตสาหกรรม และการเกษตรกรรมที่อาจเป็นแหล่งก่อให้เกิดปัญหามลพิษทางน้ำ
ล่าสุด คพ.ได้ประสานกับจังหวัดปราจีนบุรี อุตสาหกรรมจังหวัด ประมงจังหวัด และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมปราจีนบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและเก็บตัวอย่างน้ำเพื่อตรวจสอบ พบว่าสภาพน้ำเป็นสีเขียวและมีสาหร่ายเกิดขึ้นจำนวนมาก และจากผลการตรวจสอบคุณภาพน้ำเบื้องต้นของสำนักประมงจังหวัดปราจีนบุรีพบว่าบริเวณหน้าวัดบ้านซ่ง ตำบลย่านรี ตรงบริเวณจุดที่ปลาตาย มีค่าออกซิเจนในน้ำเพียง 0.01 มิลลิกรัมต่อลิตร และบริเวณที่ห่างจากจุดที่ปลาตายประมาณ 100 ถึง 200 เมตรวัดค่าออกซิเจนได้ 1.0 มิลลิกรัมต่อลิตร ซึ่งค่ามาตรฐานคุณภาพต้องมีค่าออกซิเจนไม่น้อยกว่า 4.0 มิลลิกรัมต่อลิตร จึงได้ขอให้ประมงจังหวัดปราจีนบุรีเก็บตัวอย่างสัตว์น้ำเพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุการตายของปลาด้วย
อย่างไรก็ตาม คพ.ได้เก็บตัวอย่างน้ำและตะกอนดินเพื่อทำการทดสอบในห้องปฏิบัติการ เพื่อตรวจสอบค่าความสกปรกBOD ค่าโลหะหนัก โดยคาดว่าจะทราบผลภายใน 1 สัปดาห์ รวมทั้งจะดำเนินการตรวจสอบแหล่งกำเนิดมลพิษชุมชนและโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อหาปัจจัยและสาเหตุที่ทำให้เกิดกรณีดังกล่าว นอกจากนี้ คพ.ได้ทำหนังสือแจ้งจังหวัดปราจีนบุรี อุตสาหกรรมจังหวัด ตลอดจนองค์การปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป