ชง "บิ๊กตู่" เคาะลงทุน EEC ลุ้นประมูลรถไฟเร็วสูงกทม. - ระยองปีนี้ (3 เม.ย. 60)
แนวหน้าออนไลน์ 3 เมษายน 2560
ชง'บิ๊กตู่'เคาะลงทุนEEC ลุ้นประมูลรถไฟเร็วสูงกทม.-ระยองปีนี้
นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้ทาง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ (EEC) ไปจัดตั้ง คณะทำงานเพื่อทำหน้าที่ชักจูงการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมายจากทั้งนักลงทุนไทย และต่างประเทศเพื่อดึงการลงทุนเข้ามายังระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ในการขับเคลื่อนนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 ที่เป้าหมายระยะยาว ของรัฐบาลในการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจประเทศซึ่งเชื่อมั่นว่า EEC จะเป็นกลไกสำคัญในการที่จะก่อให้เกิดการลงทุนครั้งใหญ่ของไทยอีกครั้ง
"เราได้ประสานที่จะชักจูงนักลงทุนรายสำคัญที่แสดงความสนใจโดยเฉพาะ รายใหญ่ที่เป็นระดับประเทศ หรือระดับโลกทั้งไทยและต่างชาติเพื่อที่จะขับเคลื่อน 10 อุตสาหกรรมเป้าหมายของไทยที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม" นายอุตตม กล่าว
ทั้งนี้ในวันที่ 5 เมษายน 2560 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะจะเดินทางไปเป็นประธานประชุม คณะกรรมการนโยบายพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก ที่สนามบินอู่ตะเภา อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ซึ่งจะได้ติดตามความคืบหน้าการดำเนินงาน และการเยี่ยมชมศูนย์ซ่อมอากาศยานการบินไทย อาคารผู้โดยสาร หลังใหม่ สนามบินอู่ตะเภา
นอกจากนี้ ที่ประชุมจะมีการพิจารณาการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานโดยเฉพาะใน 2 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการพัฒนาสนามบิน อู่ตะเภา และการพัฒนารถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน)กรุงเทพฯ-ระยอง ที่จะต้องประกาศ TOR ให้เอกชนมาลงทุนในกลางปีนี้ และเปิดประมูลให้ได้ในปีนี้ หลังจากผ่านขั้นตอนรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว
"จะมีการขอมติเพื่อที่จะเดินหน้าการลงทุน ซึ่งเป้าหมายระยะแรกจะมี 5 โครงการใน EEC ลงทุนไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านล้านบาท หรือ 4.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ภายใน 5 ปี โดย 5 โครงการหลักดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของ 15 โครงการที่จะพัฒนาใน EEC ประกอบด้วย 1.โครงสร้างพื้นฐานพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา เชื่อมกับสนามบินหลักของไทยและให้กลายเป็นมหานครการบินภาคตะวันออก 2.โครงการรถไฟความเร็วสูงและรางคู่ 3.ท่าเรือที่จะรองรับทั้งการขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยว 4.การพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า หุ่นยนต์ การแพทย์ครบวงจร อุตสาหกรรมชีวภาพ เป็นต้น และ 5.การสร้างเมืองใหม่"
นายอุตตมยังกล่าวถึงโครงการศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ กรอบวงเงิน 3,705 ล้านบาท ว่า รัฐได้ลงทุนบนพื้นที่ 1,234 ไร่ ณ เขตสวนป่าลาดกระทิง ต.ลาดกระทิง อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่ง สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) ได้รายงานว่าได้ว่าจ้าง บริษัท เอทีที คอนซัลแตนท์ จำกัด ที่ร่วมมือกับ แอพพลัส อีเดียด้า ประเทศสเปน เป็นที่ปรึกษาโครงการในการจัดทำแผนหลักและออกแบบการใช้พื้นที่ในภาพรวมทั้งโครงการ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2559 ซึ่งขณะนี้มีผลการดำเนินงานเป็นไปตามแผนงาน และคาดว่าระยะที่ 1 ส่วนทดสอบยางล้อ UN R117 จะสามารถดำเนินการได้ในปี 2560 และโครงการทั้งหมดเสร็จสมบูรณ์ในปี 2562
"การจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ นับเป็นเมกะโปรเจกท์หนึ่งของรัฐบาล เพื่อสนับสนุนการผลิตและการส่งออกยางล้อ ยานยนต์ และชิ้นส่วน และให้ไทยเป็นศูนย์กลางการทดสอบฯ ของภูมิภาคอาเซียน โครงการนี้จะช่วยยกระดับประเทศ จากการเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ (Production Hub) สู่การเป็นฐาน การวิจัยและพัฒนายานยนต์และชิ้นส่วน (R&D Hub) ซึ่งจะดึงเม็ดเงินใหม่ๆ เข้ามา" นายอุตตมกล่าว