"สวนกล้วยหอมจีน" รุกป่าเมียนมา (24 มี.ค. 60)
ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ 24 มีนาคม 2560
สวนกล้วยหอมจีนรุกป่าเมียนมา
หนังสีอพิมพ์อีเลฟเว่นเมียนมาอ้างแหล่งข่าวรายงานว่า ชาวบ้านในรัฐคะฉิ่นตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศติดกับมณฑลยูนนาน ของจีน รุกป่าสงวนเพื่อขายพื้นที่ให้กับนักธุรกิจชาวจีน นำไปทำไร่กล้วยหอม โดยใช้ระบบขยายพันธุ์ด้วยเนื้อเยื่อ เผยราคาขาย 1 เอเคอร์ (ประมาณ 2 ไร่ครึ่ง) 500,000 จ๊าต (ประมาณ 12,900 บาท)
แหล่งข่าวกล่าวว่าชาวบ้านรุกถางป่าในพื้นที่ป่าสงวนเพื่อนำพื้นที่ไปขายหรือให้นักธุรกิจชาวจีนเช่าปลูกกล้วยหอม ซึ่งสามารถทำให้ได้สะดวกเนื่องจากเจ้าหน้าที่ป่าไม้ได้เงินจากการซื้อขาย 2.5 แสนจ๊าต (ประมาณ 6,450 บาท) ต่อแปลงทำให้เกิดการรุกป่าเพื่อทำสวนกล้วยอย่างกว้างขวาง
ชาวบ้านในหมู่บ้าน ทาร์ลอกี (Tarlawghi) ในเมืองมิตจีน่า (Myitkyina) กล่าวว่า “ในตอนแรกนักธุรกิจจีนเข้ามาซื้อหรือเช่าที่ดินจากชาวบ้านอย่างถูกต้อง แต่หลายหมู่บ้านมีพื้นที่ติดกับป่าสงวน ทำให้ชาวบ้านบางส่วนขยายพื้นที่เกษตรของตัวเองเข้าไปในเขตป่า โดยเจ้าหน้าที่ป่าไม้เรียกค่าอำนวยความสะดวกเป็นเงินประมาณ 2 แสนจ๊าต ต่อการซื้อขายหรือเช่าพื้นที่แต่ละสัญญา ทำให้พื้นที่ป่าสงวนบางส่วนกลายเป็นสวนกล้วย”
ชาวบ้านคนหนึ่งระบุว่า คนในพื้นที่เริ่มรุกที่ป่าอะรานามา (Aranama) “ผมคิดว่าพื้นที่นับพันเอเคอร์ใกล้หมู่บ้าน ทาร์ลอจี กำลังจะกลายเป็นสวนกล้วยของคนจีน เพราะชาวบ้านใช้รถแทรกเตอร์ไถโค่นต้นไม้ ทำให้สามารถเคลียร์พื้นที่ป่าได้เร็ว”
อีเลฟเว่นเมียนมา ระบุว่าป่าสงวนที่คาดว่าจะมีการรุกพื้นที่คือ ป่ามาลอ (Malaw) ซึ่งมีพื้นที่รวม 13,120 เอเคอร์ (ประมาณ 33,193 ไร่) และป่าอะรานามา ซึ่งมีพื้นที่รวม 10,600 เอเคอร์ (ประมาณ 26,818 ไร่) โดยในเมืองมิตจีน่า มีป่าสงวนรวม 5 แห่ง
นายอ่อง เมียต (Aung Myat) ผู้อำนวยการการป่าไม้ของรัฐคะฉิ่น ให้สัมภาษณ์ว่า “ทางการไม่อนุญาตให้มีการปลูกกล้วยหอมในเขตป่าสงวน เพราะหน่วยราชการทำเช่นนั้นไม่ได้ และยังไม่มีใครรายงานให้ทางการทราบว่ามีการรุกป่าสงวน”
อีเลฟเว่นเมียนมาระบุว่า กฎหมายห้ามไม่ให้มีการเข้าไปตั้งถิ่นฐาน เลี้ยงวัว ขุดดิน ตัดต้นไม้หรือเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ใด ๆ ในป่าสงวนและยังได้ห้ามการทิ้งสารเคมีหรือสารพิษในบ่อน้ำรวมทั้งล่าสัตว์และการจุดไฟในป่าด้วยโดยผู้ที่ละเมิดกฎหมายจะมีโทษจำคุก 6 เดือนหรือปรับ 5,000 จ๊าต (ประมาณ129 บาท)
แหล่งข่าวผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตรภูมิภาคอาเซียน ระบุว่าการทำสวนกล้วยหอมของนักธุรกิจชาวจีนได้สร้างปัญหาให้กับประเทศข้างเคียงอยู่เสมอ โดยก่อนที่จะมีข่าวเรื่องการรุกป่าในเมียนมา มีรายงานว่าประเทศลาวได้หยุดการให้สัมปทานแก่นักธุรกิจชาวจีนในการทำสวนกล้วยหอมแปลงใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ที่ทางเหนือของประเทศ โดยให้เหตุผลว่า ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ สวนกล้วยหอมแปลงใหญ่ของจีนมีการใช้สารเคมีในการปลูกกล้วย ซึ่งมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เกิดการร้องเรียนจากชาวบ้าน
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,246 วันที่ 23 - 25 มีนาคม พ.ศ. 2560