ผู้ตรวจการฯ ลงพื้นที่ตามการแก้ขยะตกค้าง 2.5 แสนตันในสมุย ชี้ย้ายทิ้งนอกเกาะดีที่สุด (23 มี.ค. 60)
มติชนออนไลน์ 23 มีนาคม 2560
ผู้ตรวจการฯลงพื้นที่ตามการแก้ขยะตกค้าง 2.5 แสนตันในสมุย ชี้ย้ายทิ้งนอกเกาะดีที่สุด
วันที่ 24 มีนาคม 2560 ภายในโรงกำจัดขยะ เทศบาลนครเกาะสมุย อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี นายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการและโฆษกสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน พร้อมคณะ ลงพื้นที่เพื่อติดตามการแก้ปัญหาขยะตกค้างกว่า 2.5แสนตัน ที่เกิดมลภาวะด้านสิ่งแวดล้อมรอบโรงกำจัดขยะต่อชุมชนมายาวนาน จนทำให้มีชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบได้ทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จึงได้เดินทางลงพื้นที่มาตรวจสอบเรื่องดังกล่าว
จากการลงพื้นที่พบว่า โรงกำจัดขยะเทศบาลนครเกาะสมุยที่รับผิดชอบดูแลไม่สามารถเดินเครื่องเผาขยะมากว่า 8 ปีแล้ว และเครื่องคัดแยกขยะที่มีอยู่ก็ชำรุดเสียหายจนใช้การไม่ได้ ขณะเดียวกันปริมาณขยะจากชุมชนเข้ามาวันละ 150-200 ตันต่อวัน จึงต้องแก้ปัญหาด้วยวิธีฝังกลบแทน จนเกิดปัญหาขยะในพื้นที่เกาะสมุยตกข้างสะสมกว่า 2.5แสนตัน ซึ่งที่ผ่านมาผู้บริหารเทศบาลนครเกาะสมุยได้หาแนวทางในการแก้ไขปัญหาขยะที่ตกค้าง ด้วยการเสนอแผนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นแผนที่ชุมชนเห็นชอบคือให้เอกชนขนย้ายขยะออกนอกเกาะสมุยขนส่งทางเรือแล้วนำไปกำจัดยังแผ่นดินใหญ่
นายรักษเกชา ได้กล่าวหลังจากลงพื้นที่ดูปัญหาขยะว่า การแก้ปัญหาด้วยการขนขยะไปทิ้งยังพื้นที่ภายนอกจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด ทางเทศบาลนครเกาะสมุยจึงได้เขียนรายละเอียดของโครงการกำจัดขยะ หรือ ทีโออาร์ ขึ้นมาโดยแบ่งเป็น 2 ส่วน คือการกำจัดขยะเก่าที่ตกข้างที่มีการคลุมพลาสติกไว้กว่าสองแสนตัน ส่วนขยะใหม่ที่เข้ามาในแต่ละวัน วันละ 150-200 ตัน ต้องใช้วิธีฝังกลบและได้เขียนรายละเอียดในการกำจัดในทีโออาร์ไว้แล้ว ซึ่งประจวบเหมาะกับรัฐบาลได้มีงบกลุ่มพัฒนาจังหวัดจำนวน 5,000 ล้านบาท ที่จะใช้ในกลุ่ม 5 จังหวัดภาคใต้ซึ่งรวมถึงจังหวัดสุราษร์ธานีด้วย ซึ่งเทศบาลนครเกาะสมุยได้ทำเรื่องนี้เข้าไป และได้ผลสรุปว่าทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีให้การสนับสนุนงบประมาณจำนวน 300 ล้านบาทในการกำจัดขยะทั้งเก่าและขยะใหม่ ซึ่งทางจังหวัดสุราษฎร์ธานีจะเป็นผู้ดำเนินการทั้งหมด ส่วนเทศบาลนครเกาะสมุยทำหน้าที่อำนวยความสะดวกในการขนย้ายเท่านั้น