ก.พลังงาน รับความเห็นข้อสรุปไตรภาคี "ถ่านหินกระบี่" ขยายขอบเขตกองทุุนไฟฟ้า-ส่งเสริมพลังงานทดแทน (14 ก.พ. 60)
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 14 กุมภาพันธ์ 2560
ก.พลังงาน รับความเห็นข้อสรุปไตรภาคี ถ่านหินกระบี่ ขยายขอบเขตกองทุุนไฟฟ้า-ส่งเสริมพลังงานทดแทน
รายงานข่าวระบุว่าก.พลังงาน รับความเห็นตามข้อสรุปไตรภาคี โรงไฟฟ้ากระบี่ เตรียมขยายเขตกองทุนรอบโรงไฟฟ้าเพิ่มเกินกว่ารัศมี 5 กม. ครอบคลุมเส้นทางขนส่งเชื้อเพลิงในอีก 2 ตำบล กว่า 3,320 ครัวเรือน ยันส่งเสริมพลังงานทดแทนในพื้นที่ รับซื้อส่วนเพิ่มชีวมวลคงเหลือ 150 ตัน/วัน และช่วยเกษตรกร รับซื้อผลผลิตพยุงราคาปาล์มน้ำมันตกต่ำ
พลเอกอนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงแนวทางการดำเนินงานตามข้อสรุปของคณะกรรมการไตรภาคีเพื่อศึกษาการดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ ซึ่งกระทรวงพลังงานมีความเห็นสอดคล้องตามข้อเสนอไตรภาคี ฯ และจะได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังาน (กกพ.) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ดำเนินการให้ครอบคลุมข้อสรุปของคณะกรรมการไตรภาคี ฯ ที่มีแนวทางการดำเนินงานที่สำคัญ ๆ ได้แก่
1. กระทรวงพลังงาน กกพ. และกฟผ. ได้พิจารณาแนวทางการขยายเขตกองทุนรอบโรงไฟฟ้าเกินกว่ารัศมี 5 กิโลเมตร ในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ จากเดิมที่ครอบคลุมในพื้นที่ 2 ตำบล คือ ตำบลปกาสัย และตำบลคลองขนาน โดยจะขยายให้ครอบคลุมไปถึงพื้นที่เส้นทางขนส่งเชื้อเพลิง ซึ่งจะสามารถครอบคลุมในพื้นที่เพิ่มเติมอีก 2 ตำบล ได้แก่ ตำบลเกาะศรีบอยา และตำบลตลิ่งชัน ซึ่งคาดว่าจะครอบคลุมประชาชนในพื้นที่อีกประมาณ 3,320 ครัวเรือน ได้รับเงินกองทุนเพื่อพัฒนาชุมชน และพัฒนาคุณภาพชีวิต ด้านการศึกษา สาธารณสุข อาชีพ และการจ้างงานต่อไป
2. แนวทางการส่งเสริมพลังงานทดแทนในพื้นที่ กระทรวงพลังงาน และกฟผ. พร้อมจะสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนในพื้นที่ภาคใต้ โดยจะมีนโยบายใหม่ รับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนขนาดเล็กแบบผสมผสานในรูปแบบสัญญาเสถียร หรือ SPP Hybrid Firm และการรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขนาดเล็กมากแบบสัญญาเสถียรตามช่วงเวลาหรือ VSPP Semi-Firm รวมทั้งเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มในพื้นที่ภาคใต้ โดยปัจจุบันโรงไฟฟ้ากระบี่ของ กฟผ. ได้มีการใช้น้ำมันปาล์มเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าอยู่บ้างแล้ว เพื่อพยุงราคาน้ำมันปาล์มในช่วงที่ราคาตกต่ำเป็นครั้งคราว นอกจากนี้ กฟผ.พร้อมจะรับซื้อส่วนเพิ่มของชีวมวลคงเหลือประมาณ 150 ตันต่อวัน เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงผสมในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน
พลเอกอนันตพร กล่าวเพิ่มว่า จากข้อสรุปของคณะกรรมการไตรภาคี ฯ ในส่วนของการจัดการในพื้นที่โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ เช่น ด้านสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศน์ ด้านสุขภาพ ด้านการส่งเสริมอาชีพและการศึกษาให้แก่ชุมชนนั้น ขอยืนยันว่าจะบริหารจัดการในพื้นที่โครงการ ตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบที่ระบุในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ รวมทั้งด้านแนวทางให้มีคณะกรรมการร่วมติดตามตรวจสอบการทำงานของโรงไฟฟ้า ซึ่งจะมีตัวแทนภาคประชาชนและผู้ประกอบการในจังหวัดกระบี่เข้าร่วมตลอดอายุโรงไฟฟ้าตั้งแต่เริ่มเริ่มก่อสร้างจนถึงสิ้นสุดการผลิต เพื่อร่วมกันรับรู้และแก้ไขผลกระทบจากโรงไฟฟ้าต่อไป