ลาวพบปลาตายเกลื่อนในแหล่งเพาะพันธุ์แขวงบ่อแก้วเขต "สวนกล้วยจีน" (15 ก.พ. 60)
MGR Online 15 กุมภาพันธ์ 2560
ลาวพบปลาตายเกลื่อนในแหล่งเพาะพันธุ์แขวงบ่อแก้วเขตสวนกล้วยจีน
ปลาตายอย่างมากมายในเขตเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ซึ่งเป็นเสมือน "สวนกล้วยหลังบ้าน" ใหญ่ที่สุดของจีน สำนักข่าวของทางการเผยแพร่ภาพของเว็บไซต์โทรโข่ง พร้อมรายงานเจ้าหน้าที่แขวง กำลังเร่งตรวจบรรจุภัณฑ์ที่พบ และ ตรวจเลือดราษฎรที่นำปลาไปบริโภคก่อนหน้านี้.
MGRออนไลน์ -- เจ้าหน้าที่แขวงบ่อแก้วทางตอนเหนือของลาว กำลังสอบสวนหาสาเหตุ ทีทำให้ปลาตายเป็นจำนวนมาก ในแหล่งเพาะพันธุ์แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ในเขตได้ชื่อเป็น "สวนกล้วยหล้งบ้าน" ใหญ่ที่สุดของจีน โดยในแขวงนี้ มีพื้นที่ปลูกกล้วยของนักลงทุนจากตอนเหนือ รวมกันกว่า 60,000 ไร่
ทางการได้รับแจ้งจากราษฎร 3 หมู่บ้าน วันที่ 12 ก.พ.ที่ผ่านมา เกี่ยวกับการพบปลาตายเป็นจำนวนมาก ในลำน้ำง้าว เมืองห้วยทราย จึงจัดสงนักวิชาการลงพื้นที่ เพื่อตรวจตราอย่างรีบด่วน และ ในที่สุดก็พบถังพลาสติก ที่มีอักษรภาษาจีนกำกับลอยน้ำอยู่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นถังที่ใช้บรรจุสารเคมี ที่ใช้แล้วและทิ้งลงในลำน้ำ และ เป็นสาเหตุทำให้ปลาตายเป็นจำนวนมาก
เจ้าหน้าที่ได้นำบรรจุภัณฑ์ที่พบไปตรวจพิสูจน์ว่า เป็นภาชนะที่ใช้บรรจุสารเคมีชนิดใด โดยคาดว่าจะทราบผลเร็วๆ นี้ นอกจากนั้นทางการยังได้กำชับ มิให้ราษฎรในท้องถิ่น ในหมู่บ้านใกล้เคียงนำปลาจากหนองน้ำแห่งนั้นไปใช้บริโภค และ ได้ทำการตรวจเลือดประชาชนจำนวนหนึ่ง ที่นำปลาไปประกอบอาหารก่อนหน้านี้ สำนักข่าวสารประเทศลาวอ้างรายงานจากพื้นที่
ผู้ใหญ่บ้าน (นายบ้าน) ปุ่งนานูน ซึ่งเป็นหนึ่งใน 3-4 หมู่บ้านในเขตลำน้ำง้าว แหล่งที่พบปลาตายเป็นจำนวนมาก กล่าวว่าที่นั่นเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลาหลายชนิด ที่ประชาชนร่วมกันปกปักรักษา และ เป็นแหล่งสนองอาหารสำคัญ สำหรับราษฎรหลายหมู่บ้านใกล้เคียง สิ่งที่เกิดขึ้นได้ส่งผลกระทบไม่น้อยต่อสภาพแสดล้อม และ ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไป
เมื่อปลายปี 2558 แขวงบ่อแก้ว ได้เป็นแห่งแรกที่ประกาศ ไม่อนุญาตให้นักลงทุนจากจีน เข้าไปปลูกกล้วยเพิ่มเติมอีก หลังจากพบว่า มีการใช้ปุ๋ยเคมีมากมาย และ ใช้สารเคมีที่เป็นพิษอีกหลายชนิด ที่ลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย บางชนิดเป็นสารพิษที่ห้ามใช้กันทั่วโลก นอกจากนั้น ทางการยังไม่อนุญาตให้นักลงทุนจีน ขยายสวนกล้วยที่มีอยู่แล้ว
รองเจ้าแขวงผู้หนึ่ง ให้สัมภาษณ์สื่อทางการในช่วงนั้นว่า นอกจากสวนกล้วยของนักลงทุนจีน จะไม่ได้สร้างงานให้แก่ราษฎรในท้องถิ่นมากมาย ตามที่เชื่อกันก่อนหน้านี้ กิจการของนักลงทุนจีน ยังสร้างมลพิษขึ้นในสภาพแวดล้อม ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนอีกด้วย
ปัญหาคล้ายกันนี้เกิดขึ้น ในเขตสวนกล้วยจีน ในแขวงอื่นๆ ทางตอนเหนือของลาว รวมทั้งหลวงน้ำทา อุดมไซ หลวงพระบาง ลงไปจนถึงแขวงเวียงจันทน์ และ ล่าสุดยังได้พบการก่อมลพิษ ของสวนกล้วยนักลงทุนจีนในเขต 2 อำเภอเมืองหลวงอีกด้วย ตามที่แมเนเจอร์ออนไลน์ รายงานมาอย่างต่อเนื่อง ก่อนหน้านี้
ปัญหาทั้งหมดได้ทำให้รัฐบาลลาวประกาศไปยังแขวงต่างๆ ทั่วประเทศ ห้ามออกใบอนุญาตให้แก่นักลงทุนจากจีนเข้าไปทำสวนกล้วยอีก
ลาวได้ออกกฎระเบียบออกมาจำนวนหนึ่ง รวมทั้งข้อปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ในการนำเข้าและใช้สารเคมี รวมทั้งจะต้องรายงานการมีไว้ในครอบครอง และ รายงานการใช้ทุกครั้ง โดยระบุรายละเอียดอย่างครบถ้วน ปลายปีที่แล้วสภาแห่งชาติ ยังได้ผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง เพื่อควบคุมสารพิษ ห้ามการเข้าสารเคมีหลายชนิด รวมทั้งสั่งยุติการลงทุนทำสวนกล้วย ของนักลงทุนต่างชาติ อย่างถาวรอีกด้วย.