ศาลปกครองไม่รับฟ้องเพิกถอน "แผน PDP 2015" ชี้ "ไม่ใช่ผู้เดือดร้อน" อยู่แค่ชั้นประกวดราคา (16 ก.พ. 60)
MGR Online 16 กุมภาพันธ์ 2560
ศาลปกครองไม่รับฟ้องเพิกถอนแผน PDP 2015 ชี้ไม่ใช่ผู้เดือดร้อน อยู่แค่ชั้นประกวดราคา
ศาลปกครองไม่รับฟ้องปมขอเพิกถอนแผน PDP 2015 ล้มระงับประมูลก่อสร้าง 3 โรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่-เทพา-แม่เมาะ เหตุส.ต่อต้านสภาวะโลกร้อนและพวก ยังไม่ใช่ผู้เดือดร้อนเสียหาย ซ้ำ 3 โรงไฟฟ้ายังอยู่แค่ชั้นประกวดราคา หรือที่ก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ ยังไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าจนสร้างมลพิษทำให้เดือดร้อน
วันนี้ (16 ก.พ.) ศาลปกครองกลางแผนกคดีสิ่งแวดล้อม มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องกรณีสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนกับพวกรวม 21 คน ยื่นฟ้อง รมว.พลังงาน คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นผู้ถูกฟ้องที่ 1-5 กรณีขอให้เพิกถอน กระบวนการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2558-2579 (แผน PDP 2015) และเพิกถอนการประมูลหรือระงับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าตามแผนดังกล่าว โดยศาลให้เหตุผลว่า ผู้ฟ้องคดีทั้ง 21 คนมิได้แสดงให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมว่ากระบวนการจัดทำแผนพัฒนาฯ ดังกล่าวก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายหรือาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนเสียหายแก่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 21 คนโดยตรงและเป็นการเฉพาะตัวอย่างไร และโดยเหตุผลของเรื่องแล้วการกระทำดังกล่าวของ กพช.และ สนพ.ก็ไม่ใช่การกระทำที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน เสียหาย หรืออาจเดือดร้อนเสียหายแก่ประชาชนคนใดคนหนึ่งโดยตรงเฉพาะตัว
ส่วนที่ กพช.มีมติเห็นชอบแผน PDP 2015 และเสนอคณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบด้วย ก็เห็นว่า การกระทำของ กพช.เป็นไปตามอำนาจหน้าที่ การเสนอก็เเพียงขั้นตอนการดำเนินการภายในของเจ้าหน้าที่รัฐ ยังไม่มีผลทางกฎหมายออกสู่ภายนอกไปกระทบต่อสถานภาพของสิทธิหรือหน้าที่ของผู้ฟ้องคดีทั้ง 21 คน และที่อ้างว่า กฟผ.ดำเนินการประกวดราคาเพื่อจัดซื้อและจัดจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ จ.กระบี่ โรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา จ.สงขลา โรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ จ.ลำปาง เป็นกระทำไม่ชอบด้วยกฎหมาย เห็นว่า ประกาศของ กฟผ. เรื่องประกวดราคาจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งสามแห่งเป็นสั่งทางปกครองประเภททั่วไปมีลักษณะเป็นการเชิญชวนให้ผู้สนใจเข้าเสนอราคาโดยไม่ได้เจาะจงตัวบุคคลผู้อยู่ในบังคับ ซึ่งผู้ฟ้องคดีทั้ง 21 คนส่วนหนึ่งไม่ได้มีภูมิลำเนาในพื้นที่ดังกล่าว ขณะที่อีกส่วนหนึ่งก็ไม่ใช่ผู้ประกอบอาชีพก่อสร้างที่มีสิทธิเข้าประมูล และอีกส่วนหนึ่งแม้จะมีภูมิลำเนาอยู่ใกล้เคียงสถานที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าแม่เมาะ จ.ลำปาง แต่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จจึงยังไม่อาจก่อให้เกิดมลพิษแพร่กระจายหรือก่อความเสียหายใด ต่อผู้ฟ้องคดีได้
สำหรับที่อ้างว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้งหมดละเลยต่อหน้าที่ไม่ยอมทบทวนแผน PDP 2015 ทั้งที่ปริมาณการใช้ไฟฟ้าของประเทศลดลง การจัดทำแผน PDP 2015 ก็ต้องพยายามลดปริมาณกำลังผลิตไฟฟ้าโดยยกเลิกการก่อสร้างโรงไฟฟ้า หรือเลื่อนกำหนดการจ่ายไฟของโรงไฟฟ้าออกไป สมควรที่ศาลจะพิพากษาสั่งให้ผู้ถูกฟ้องคดีทั้งหมดพิจารณาและให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการจัดทำแผน PDP 2015 ใหม่ให้เหมาะสมไม่ก่อความเสียหายแก่ประเทศเห็นว่า การปฏิบัติหน้าที่ของ สนพ.จำเป็นต้องมีการติดตามการดำเนินการตามแผนและติดตามสภาวะเศรษฐกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้ไฟฟ้าในภาพรวม ซึ่งหากมีปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อเป้าหมายของแผ่นอย่างมีนัยสำคัญ สนพ.ต้องใช้ดุลพินิจพิจารณาของความเหมาะสม ความจำเป็นเร่งด่วน และผลกระทบด้านต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบด้านในการนำเสนอ กพช.เพื่อพิจารณาปรับปรุง หรือทบทวนแผนให้มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงเวลา อันเป็นดุลพินิจภายในของฝ่ายปกครองที่ศาลไม่อาจก้าวล่วงไปใช้อำนาจในการกำหนดคำบังคับให้ สนพ.และกพช.ปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวได้ คำขอของผู้ฟ้องคดีทั้ง 21 คน จึงเป็นคำขอที่ศาลไม่อาจกำหนดคำบังคับให้ได้
และที่ฟ้องว่า การที่ กฟผ.ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าตามแผน PDP 2015ในส่วนของโรงไฟฟ้าที่มีการเร่งการเปิดใช้โรงไฟฟ้าให้เร็วขึ้นกว่าที่ระบุไว้ในแผน PDP 2010 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 รวมถึงโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามาใหม่ที่ไม่เคยถูกระบุไว้ในแผนดังกล่าว เป็นการทำสัญญาซื้อไฟฟ้าที่เป็นการดำเนินการตามแผน PDP 2015โดยไม่ชอบ ขอให้ศาลเพิกถอนหรือระงับการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง กฟผ.กับโรงไฟฟ้าตามแผน PDP 2015 ดังกล่าว เห็นว่า จากพยานหลักฐานข้อเท็จจริงในสำนวน ไม่ปรากฏผู้ฟ้องคดีทั้ง 21 คนเป็นคู่สัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง กฟผ.กับโรงไฟฟ้าตามแผน PDP 2010 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 3 หรือโรงไฟฟ้าตามแผน PDP 2015 ซึ่งเป็นสัญญาทางปกครอง แต่ข้อเท็จจริงตามคำชี้แจงของ กฟผ.กรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ และโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ปัจจุบันอยู่ระหว่างกระบวนการประกวดราคา ยังไม่เริ่มก่อสร้าง ส่วนโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะอยู่ระหว่างก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จ จึงยังไม่อาจจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ ฉะนั้นจึงยังไม่มีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับสัญญาทางปกครองที่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 21 จะมีสิทธิฟ้องคดีขอให้ศาลเพิกถอนหรือระงับการลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของ กฟผ.ดังกล่าวได้ ผู้ฟ้องคดีทั้ง 21 คนจึงไม่ใช่ผู้เดือดร้อนเสียหายที่มีสิทธิจะฟ้องคดีต่อศาลปกครองได้