"ควนลัง" เฮ! เจรจาผ่าน "ขยะหาดใหญ่" ไปทิ้งบ้านพรุ (27 ก.พ. 60)
สมิหลาไทม์ 27 กุมภาพันธ์ 2560
ควนลังเฮ! เจรจาผ่าน ‘ขยะ’ หาดใหญ่ไปทิ้งบ้านพรุ (27 ก.พ. 60)
‘จีเทค’ พบทางออก ย้ายขยะเมืองหาดใหญ่ ไปทิ้งบ่อใหม่ที่บ้านพรุ เทศบาลฯ ‘อึดอัด’ ขานรับเพราะจังหวัดเป็นคนสั่ง
กรณีประชาชนและหน่วยงานราชการ ในพื้นที่ ต.ควนลัง อ้างว่าได้รับผลกระทบ ทางมลพิษ จากโรงไฟฟ้าพลังงานขยะหาดใหญ่ ที่ดำเนินการโดยบริษัท จีเคด จำกัด ตั้งอยู่ ถนนสายสนามบิน – ลพบุรีราเมศวร์ ต.ควนลัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จนได้รับความเดือนร้อนจากกลิ่นเหม็น ซึ่งตลอดระยะเวลา กว่า 1 ปี ที่ผ่านมาได้มีการร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้ามาแก้ไขปัญหาแต่ดูเหมือนว่าไม่สามารถแก้ไขเรื่องกลิ่นเหม็นได้ และปัญหาเตาเผาขยะได้
จนกระทั่งสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลาได้ใช้อำนาจตามมาตรา 39 วรรคหนึ่ง ของ พ.ร.บ. โรงงาน พ.ศ.2535 สั่งให้โรงไฟฟ้าพลังงานขยะ หาดใหญ่ หยุดประกอบกิจการบางส่วน (เตาเผาขยะ) เป็นการชั่วคราว และให้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเตาเผา และแก้ไขปัญหากลิ่นเหม็น ซึ่งเกิดจากกองขยะใหม่ที่เข้ามาตกค้างเนื่องจากเตาเผาไม่สามารถเดินเครื่องได้ บวกกับขยะที่เข้ามาสะสมเพิ่มอีกประมาณ 300 ตัน/วัน ทำให้ขณะนี้มีปริมาณขยะใหม่ตกค้างกว่า 2,000 ตัน และมีแนวโน้มปริมาณขยะตกค้างจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ.2560 นายอนุชิต ตระกูลมุทุตา รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้นั่งเป็นประธาน ในการประชุมหารือแนวทางในการแก้ไขปัญหาโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ โดยมีหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน พร้อมกับตัวแทนจากบริษัทจีเคด จำกัด เข้าร่วมประชุมหารือ ที่ห้องประชุมเทศบาลนครหาดใหญ่ โดยในที่ประชุมได้หารือถึงมาตรการการกำจัดภูเขาขยะ ซึ่งเป็นขยะเก่าที่ตกค้างมานานกว่า 20 ปี ซึ่งขณะนี้ อบจ.สงขลา ได้รับเป็นเจ้าภาพแก้ไขปัญหานี้ โดยการเคลียร์พื้นที่กองขยะเพื่อดำเนินปรับปรุงภูมิทัศน์ โดยรอบให้เป็นไปตามมาตรฐานคุณภาพสิ่งแวดล้อมและใช้เป็นที่พักผ่อนหย่อยใจของคนในพื้นที่
ส่วนประเด็นที่สองในที่ประชุม เป็นการแก้ไขปัญหา เตาเผาขยะ ของบริษัทฯ และกลิ่นเหม็นจากกองขยะใหม่ ภายในโรงงานไฟฟ้าพลังงานขยะ ที่มีปริมาณสะสมเพิ่มขึ้น 300 ตัน/วัน ซึ่งไม่สามารถกำจัดได้ทัน ทำให้ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ โดยในที่ประชุมได้มีการเสนอให้บริษัทฯ จัดหาสถานที่ใหม่เพื่อรองรับการทิ้งขยะจากเทศบาลนครหาดใหญ่และบริเวณรอบนอกที่เข้ามาทุกวัน เพื่อบรรเทาปริมาณขยะเพิ่มในโรงไฟฟ้าฯ และลดกลิ่นเหม็น โดยมติที่ประชุมเห็นด้วยที่จะให้บริษัทฯเจรจากับเทศบาลเมืองบ้านพรุในการนำขยะไปทิ้งเป็นการชั่วคราว โดยมีท้องถิ่นจังหวัดสงขลา เป็นผู้ประสานงาน ในการเจรจา
ล่าสุดแหล่งข่าวระดับสูงในเทศบาลเมืองบ้านพรุ กล่าวว่า ขณะนี้ทางเทศบาลได้รับหนังสือขอความร่วมมือ ในการแก้ปัญหาขยะจากทางจังหวัดแล้ว และยินดีที่จะช่วยแก้ไขโดยการอนุญาตให้นำขยะมาทิ้งที่บ่อบ้านพรุ เพื่อบรรเทาสถานการณ์ ได้เพียง 1 เดือน
แต่อย่างไรก็ตาม ได้นำเรียนจังหวัดไปแล้วว่า ยินดีที่จะช่วยเหลือเพียงแค่บางส่วนที่สามารถนำมาทิ้งที่นี้ได้ หากจะรับมาหมด 300 ตัน/วัน คงไม่ไหว เนื่องจากบ่อขยะสามารถรองรับขยะได้อีกแค่ 6 หมื่นตัน อีกทั้งขยะที่เข้ามาทุกวันๆละ 80 ตัน ซึ่งเกรงว่าหากรับมาทั้งหมด บ่อขยะบ้านพรุอาจจะมีปัญหาในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องมวลชน จึงให้กระจายไปยังบ่อเทศบาลนครสงขลา ที่เกาะแต้ว และ เทศบาลเมืองสะเดา
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ่อขยะบ้านพรุ พบว่า เป็นบ่อขยะแบบฝังกลบ บนพื้นที่ 107 ไร่ ประกอบด้วย บ่อฝั่งกลบขยะ 5 บ่อ บ่อบำบัดน้ำเสีย 3 บ่อ อาคารสำนักงาน อาคารเครื่องชั่ง และโรงจอดเครื่องจักร ซึ่งขณะนี้ใช้พื้นที่ไปแล้วประมาณ 40 ไร่ มีขยะเข้าไปทิ้งวันละ 80 ตัน จากเทศบาลเมืองบ้านพรุ เทศบาลเมืองคอหงส์ เทศบาลตำบลพะตง เทศบาลตำบลบ้านไร่ และองค์การบริหารส่วนตำบลพะตง ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ ทางบริษัทฯยังไม่ได้เริ่มนำขยะมาทิ้งที่บ่อบ้านพรุ
นายนิพนธ์ บุญญามณี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวว่า จากการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของจังหวัดในการร่วมกันแก้ไขปัญหาเรื่องขยะในจังหวัดสงขลา ที่มีอยู่ทั้งหมด 28 บ่อ และสำหรับอ.หาดใหญ่ และจ.สงขลานั้น ขณะนี้มีขยะร่วม 2 ล้านกว่าตัน ยังไม่นับอีก 26 บ่อ เพราะการจัดการในเรื่องของขยะนั้นไม่เป็นไปตามหลักวิชาการ ซึ่งที่ผ่านมาทาง อบจ.สงขลา ได้เข้าไปทำที่ ต.บ้านพรุ ไว้ 3 บ่อ เพื่อเป็นการช่วยเหลือในพื้นที่บริเวณบ้านพรุ และบริเวณใกล้เคียง และอีกโซน ที่ทางอบจ.สงขลาจะเข้าไปทำคือ คาบสมุทรสทิงพระ ซึ่งยังไม่มีบ่อขยะ
นายนิพนธ์ยังกล่าวต่อว่า ในขณะนี้ อบจ.สงขลา มีโครงการที่จะเข้าไปทำแต่มีปัญหาที่เจอ คือปัญหาความยินยอมให้ใช้พื้นที่ จะมีปัญหาในเรื่องของมวลชน ซึ่งต้องมาช่วยกันคิดว่า ต่อไปต้องแก้ไขกันอย่างไรในเรื่องนี้ และถ้าไม่มีบ่อขยะที่ถูกต้องคนก็จะนำไปทิ้งตามสวนยาง
“การกำจัดขยะของ จ.สงขลา ต้องช่วยกันคิดซึ่งโดยหลักแล้วทาง อบจ.สงขลา ยินดีเข้าร่วมในการศึกษาออกแบบ เพื่อการไปของบประมาณที่สำนักงบประมาณ ดังนั้นการที่เราได้คุยกันแล้วมีการศึกษาออกแบบก็จะสามารถนำไปของบประมาณที่สำนักงบประมาณได้ ซึ่งที่ผ่านมาเราได้เสนอโครงการปรับปรุงและฟื้นฟูสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยสะสมตกค้างจำนวน 30 พื้นที่ จำนวนขยะ 2,471,840.4 ตัน และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ได้รับงบประมาณโครงการดังกล่าวในกรอบวงเงินจำนวน 481,042,500 บาท ซึ่งทาง สผ.ได้แจ้งมติของ กก.วจ.จากการประชุมครั้งที่ 5/2559 เมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 59 จากรายการสำหรับค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงและฟื้นฟูสถานที่กำจัดขยะมูลฝอยตกค้างสะสมของ อบจ.สงขลา ไม่ผ่านการพิจารณาเสนอของบกลาง เนื่องจากไม่มีความพร้อมในการดำเนินการ ดังนั้นจากการประชุมในครั้งนี้ ทางคณะกรรมการบริหารจัดการขยะมูลฝอยของจังหวัด จึงได้มีมติในที่ประชุม ให้มีการดำเนินเรื่องของการของบประมาณจากจังหวัดสงขลา ในการกำจัดด้วยวิธีรื้อร่อน ซึ่งขณะนี้ทางเรากำลังดำเนินการอยู่และคิดว่าคงจะไม่มีปัญหาอะไร” นายนิพนธ์ กล่าว
ขณะที่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่บริเวณโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ต่างรู้สึกดีใจที่ทางหน่วยงานราชการเร่งหาทางออกและแก้ปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็น ของบ่อขยะควนลังซึ่งชาวบ้านแถบนี้อดทนมาหลายปี
สำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานขยะหาดใหญ่ เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปลายปี 2557 มีกำลังผลิตไฟฟ้า 6.7 เมกกะวัตต์