15 "วินด์ฟาร์ม" ส่อรอด ชง "ฉัตรชัย" ก่อน3เม.ย. (3 มี.ค. 60)
ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ 3 มีนาคม 2560
15วินด์ฟาร์มส่อรอด ชง‘ฉัตรชัย’ก่อน3เม.ย.
15 บริษัทวินด์ฟาร์มส่อรอดไม่ถูกเพิกถอน เลขาฯ ส.ป.ก.เผยผลลงพื้นที่ตรวจสอบเบื้องต้นพบ 5 บริษัทที่ผลิตและจำหน่ายไฟแล้วให้ผลประโยชน์กับเกษตรกรอย่างน่าพอใจทั้งค่าเช่า ตัดถนน ตั้งกองทุน เร่งสรุปผลส่งเจ้ากระทรวงเกษตรก่อนเส้นตาย 3 เม.ย.
จากที่พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทวงเกษตรและสหกรณ์ได้สั่งการให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม(ส.ป.ก.)ตรวจสอบข้อเท็จจริงการเช่าพื้นที่ ส.ป.ก.เพื่อดำเนินกิจการกังหันลมผลิตไฟฟ้าของเอกชนหรือวินด์ฟาร์ม 15 บริษัทและให้รายงานผลภายใน 45 วัน หรือภายในวันที่ 3 เมษายน 2560 นั้น
นายสมปอง อินทร์ทอง เลขาธิการ ส.ป.ก.เผยความคืบหน้ากับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า จากที่ได้ลงตรวจสอบในบางพื้นที่ในเบื้องต้นด้วยตัวเองร่วมกับเจ้าหน้าที่ โดยมุ่งเน้น 5 บริษัทที่มีการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าแล้วได้แก่ บริษัท เฟิสท์โคราช จำกัด (บจก.) บจก.เค.อาร์.ทู,บจก.วะตะแบก,บจก.เทพพนา และบจก.ซับเขาใหญ่ วินด์ฟาร์มซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดนคราชสีและชัยภูมิ
ทั้งนี้พบทั้ง 5 บริษัทได้ให้ประโยชน์โดยตรงกับเกษตรกรใน 4 เรื่องหลักคือ 1.จ่ายค่าเช่าพื้นที่ที่เสากังหันลมตั้งในอัตรา 3.5 หมื่นบาท/ไร่/ปี 2.โครงการมีการตัดถนนเป็นผลพลอยได้ของเกษตรกร 3.บริษัทมีการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรตามข้อกำหนดของรัฐ และ4.บางบริษัทยังมีการจัดตั้งกองทุนส่วนตัวเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโดยตรงในเชิงกิจกรรมเพื่อสังคม(CSR) เช่น เป็นทุนการศึกษา ช่วยเหลือด้านสาธารณสุข หรือกิจกรรม/ประเพณีในท้องถิ่น เป็นต้น
“ประโยชน์ที่ตกกับเกษตรกรเหล่านี้จะต่างจากกรณีของเทพสถิตวินด์ฟาร์มที่ถูกศาลปกครองสูงสุดวินิจฉัยว่าโครงการของบริษัทไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่าราษฎรในพื้นที่ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการผลิตไฟฟ้าของของบริษัทแต่อย่างใด ซึ่งในข้อเท็จจริงเขาก็ยังไม่ได้ก่อสร้างโครงการ แต่ถูกพิพากษาให้ยกเลิกสัญญาเช่าพื้นที่เสียก่อน แต่กรณี 5 บริษัทจากการตรวจสอบเขาให้ประโยชน์กับเกษตรกรมาก หากจะเพิกถอนเขาก็คงต้องคิดหนัก”
อย่างไรก็ดีทาง ส.ป.ก.จะได้รวบรวมข้อมูลของทั้ง 5 บริษัทที่ผลิตและจำหน่ายไฟแล้ว รวมถึงอีก 12 บริษัท ที่ยังไม่ได้ก่อสร้างโครงการ(ต่างจากตัวเลขของกระทรวงพลังงานระบุมีบริษัทที่ได้รับอนุญาตทำโครงการวินด์ฟาร์มแต่ยังไม่ได้ก่อสร้างโครงการอีก 10 บริษัท) เพื่อนำเสนอต่อรัฐมนมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯก่อนวันที่ 3 เมษายน 2560
ทั้งนี้ข้อมูลหรือข้อเท็จจริงที่จะนำเสนอมี 3 ส่วนที่สำคัญ ส่วนแรกคือพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่รับคำขอ การพิจารณาคำขอ การอนุญาต และการทำสัญญาเช่าพื้นที่ ส่วนที่ 2 การดำเนินการของบริษัทในการดำเนินการติดตั้งเสากังหันลม และการจำหน่ายไฟฟ้า และส่วนที่ 3 ซึ่งถือเป็นไฮไลต์คือข้อมูลในส่วนของเกษตรกรในพื้นที่ว่าได้รับประโยชน์จากโครงการอย่างไรบ้าง
“ทั้ง 5 รายจะเพิกถอนหรือไม่ การพิจารณาจะสิ้นสุดอยู่ที่ ส.ป.ก.ไม่ต้องส่งฟ้องศาลเหมือนกรณีเทพสถิตฯ ส่วนอีก 10-12 รายจะรอดหรือไม่ยังต้องรอดูอีกทีเพราะเขายังไม่ได้ก่อสร้างอะไรเลยซึ่งเราอาจมีเงื่อนไขให้เขาให้ประโยชน์กับประชาชนในพื้นที่เพิ่มเติม อย่างไรก็ดียังไม่สามารถตอบได้ว่าจะเพิกถอนหรือไม่ต้องเอาข้อเท็จจริงมาว่ากันตามเนื้อผ้าโดยจะยึดหลักความถูกต้องตามกฎหมายและมีความยุติธรรม”
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 37 ฉบับที่ 3,240 วันที่ 2 – 4 มีนาคม พ.ศ. 2560