บ.เหมราชระยอง จัดทำประชาคมขอแก้ไขผังเมืองรวมชุมชนบ้านค่าย-มาบข่า (9 ก.ค. 56)
ASTVผู้จัดการออนไลน์ 9 กรกฎาคม 2556
บ.เหมราชระยอง จัดทำประชาคมขอแก้ไขผังเมืองรวมชุมชนบ้านค่าย-มาบข่า
นายสุนทร คงสุนทรกิจกุล ที่ปรึกษาบริษัทเหมราชระยองที่ดิน
อุตสาหกรรม จำกัด พยายามชี้แจงให้ประชาชนบริเวณพื้นที่ดังกล่าวได้รับทราบ
ประชาชนในพื้นที่ ต.หนองละลอก เข้าร่วมประชาคมจำนวน 400 คน
ร่วมทำประชาคมในครั้งนี้
ระยอง - บริษัท เหมราชระยองที่ดิน อุตสาหกรรม จำกัด จัดทำประชาคมเพื่อขอแก้ไขผังเมืองรวมชุมชนบ้านค่าย-มาบข่า หลังประกาศเป็นเขตประกอบการอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ พ.ศ.2551 แล้ว
วันนี้ (9 ก.ค.) ที่ห้องลำใย สวนสุภัทราแลนด์ หมู่ 10 ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง บริษัท เหมราชระยองที่ดิน อุตสาหกรรม จำกัด บริษัทในเครือบริษัท เหมราชพัฒนาที่ดิน จำกัด (มหาชน) ได้จัดทำประชาคมเพื่อขอแก้ไขผังเมืองรวมชุมชนบ้านค่าย-มาบข่า ในพื้นที่โครงการเขตประกอบการอุตสาหกรรมเหมราชระยอง โดยมีนายสุนทร คงสุนทรกิจกุล ที่ปรึกษา บริษัทเหมราชระยองที่ดินฯ เป็นผู้ดำเนินการ และมีนายทิวา พรหมอินทร์ นายอำเภอบ้านค่าย เป็นประธานเปิดเวทีการจัดทำประชาคม โดยนายอดุลย์ นิยมสมาน สมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ระยอง นายสนิท พุทธสังฆ์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หนองละลอก กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และประชาชนในพื้นที่ ต.หนองละลอก เข้าร่วมประชาคม จำนวน 400 คน ในครั้งนี้
นายสุนทร คงสุนทรกิจกุล ที่ปรึกษาบริษัท เหมราชระยองที่ดิน อุตสาหกรรม จำกัด กล่าวว่า พื้นที่เขตประกอบการอุตสาหกรรม ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย จ.ระยอง รวมทั้งสิ้น 3,551 ไร่ ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรมฉบับที่ 2 (พ.ศ.2541) ออกตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 เรื่องกำหนดท้องที่ภายใน ต.หนองละลอก อ.บ้านค่าย เป็นเขตประกอบการอุตสาหกรรมทั้งหมด ต่อมาเมื่อเดือนกรกฎาคม 2555 ได้มีประกาศผังเมืองรวมชุมชนบ้านค่าย-มาบข่า เป็นพื้นที่สีเขียว เข้าไปในเขตประกอบการอุตสาหกรรมเนื้อที่ประมาณ 1,800 ไร่เศษ
ที่ผ่านมา ทางบริษัทฯ ได้พยายามชี้แจงทำความเข้าใจกับผังเมืองรวมชุมชน แต่ผังเมืองรวมชุมชนฯ ก็ได้ประกาศออกไป ทางบริษัทฯ จึงต้องจัดทำประชาคมชี้แจงทำความเข้าใจให้กับประชาชนได้ทราบข้อเท็จจริงเพื่อขอแก้ไขผังเมืองรวมชุมชนบ้านค่าย-มาบข่า ใหม่ เพื่อให้ผังเมืองแก้ไขพื้นที่เขตประกอบการอุตสาหกรรมออกจากผังเมืองรวมชุมชน เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวได้ประกาศเป็นเขตประกอบการอุตสาหกรรมมาตั้งแต่ พ.ศ.2551 โดยการดำเนินการในครั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนบริเวณดังกล่าว