สตง. พบยอดโครงการค้างส่ง รายงาน EIA "สผ." อื้อซ่า -จี้ นายกฯ แก้ปัญหาด่วน (6 ก.ค. 56)
สำนักข่าวอิศรา 6 กรกฎาคม 2556
สตง. พบยอดโครงการค้างส่ง รายงาน EIA “สผ.” อื้อซ่า -จี้ นายกฯ แก้ปัญหาด่วน
สตง. ไล่ตรวจโครงการลงทุนย้อนหลัง พบค้างส่งรายงาน EIA สผ. อื้อซ่า!! ปี 41-54 เห็นชอบไปเกือบ 4,000 แต่จัดส่งรายงานไม่ถึงครึ่ง แถมข้อมูลไม่ครบถ้วน จี้ นายกฯ แก้ปัญหาด่วน หวั่นมีความเสียงสูงด้านสิ่งแวดล้อม สร้างความเสียหายรุนแรงต่อประชาชนในวงกว้าง
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เผยแพร่ผลการการดำเนินงานการติดตามการปฏิบัติตามมาตรการในรายงาน EIA (ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม) ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.)
พบว่า มีโครงการจำนวนมากที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ไม่จัดส่งรายงาน EIA Monitoring ให้กับ สผ. หรือส่งไม่ตรงตามระยะเวลาที่กำหนด
สตง.ระบุว่า สผ. ได้รับรายงาน EIA Monitoring ต่ำกว่าจำนวนโครงการที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ เป็นจำนวนมาก โดยตั้งแต่ปี 2541 – 2554 มีจำนวนโครงการที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการ จำนวนทั้งสิ้น 3,940 โครงการ
อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบข้อมูลการรับรายงาน EIA Monitoring จากสรุปผลการดำเนินงานของ สผ. โดยตรวจสอบข้อมูลของรอบที่จัดส่งในช่วงปี 2553 และ 2554 (ปีละ 2 ช่วง)
พบว่า สผ. ได้รับรายงานเข้ามาต่ำสุด จำนวน 911 โครงการ หรือคิดเป็นร้อยละ 23.12 และสูงสุดจำนวน 1,149 โครงการ หรือคิดเป็นร้อยละ 29.16 ของจำนวนรายงานที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ในปี 2541 – 2554 หรือในทางกลับกันอาจกล่าวได้ว่ามีจำนวนรายงานที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ที่ไม่จัดส่งรายงาน EIA Monitoring ให้กับ สผ. จำนวน 2,791 – 3,029 โครงการ หรือคิดเป็นร้อยละ 70.84 – 76.88
โดยทุกกลุ่มโครงการจัดส่งรายงาน EIA Monitoring ให้กับ สผ. ไม่ครบถ้วน โดยเฉพาะกลุ่มโครงการประเภทอุตสาหกรรมซึ่งมีความเสี่ยงสูงด้านสิ่งแวดล้อม และเมื่อเกิดขึ้นจะส่งผลเสียหายอย่างรุนแรงต่อประชาชนในวงกว้างดังปรากฏเป็นข่าวทางสื่อมวลชนอย่างต่อเนื่องในระยะที่ผ่านมา
สตง. ยังระบุด้วยว่า ได้ตรวจสอบโครงการที่ได้รับความเห็นชอบตั้งแต่ปี 2541 – 2550 และมีการขออนุญาตและเปิดดำเนินโครงการทั้งหมด แต่จากการตรวจสอบเกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลของ สผ. พบว่า ฐานข้อมูลของ สผ. ไม่มีข้อมูลในส่วนที่อยู่ในกระบวนการของหน่วยงานอนุญาต ซึ่งได้แก่จำนวนโครงการที่ได้รับใบอนุญาตและมีการเปิดดำเนินโครงการ จำนวนโครงการที่ไม่มีการขอใบอนุญาตจากหน่วยงานอนุญาต และจำนวนโครงการที่ไม่มีการต่อใบอนุญาต/ปิด/เลิกดำเนินโครงการ โดย สผ. มีเพียงข้อมูลจำนวนโครงการที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ ทั้งหมดเท่านั้น
“ข้อมูลข้างต้นแสดงให้เห็นถึงจุดเสี่ยงในการควบคุม กำกับดูแลให้โครงการปฏิบัติตามมาตรการในรายงาน EIA ให้ครบถ้วนและมีประสิทธิภาพ ซึ่งหน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล ติดตามผลไม่อาจละเลยการควบคุมหรือกำกับดูแลได้แม้แต่โครงการเดียว และยังเป็นอันตรายต่อระบบการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินโครงการที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรง เนื่องจาก สผ. ไม่ทราบข้อมูลจำนวนโครงการที่อยู่ในข่ายต้องจัดส่งรายงาน EIA Monitoring มาให้ สผ. ในแต่ละรอบการจัดส่ง"
เบื้องต้น สตง. มีข้อเสนอแนะให้นายกรัฐมนตรี และเลขาธิการสานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยด่วน โดยเฉพาะการ เร่งหาข้อสรุปกรณีกำหนดหน่วยงานที่ต้องมีบทบาทหน้าที่ในการติดตาม กำกับดูแลโครงการให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว ว่าหน่วยงานใดบ้างที่ต้องเข้ามามีบทบาทในการติดตาม กำกับดูแลโครงการทุกกลุ่มประเภทโครงการที่ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ และมีการขออนุญาตจากหน่วยงานอนุญาตและเปิดดำเนินโครงการ ให้ปฏิบัติตามมาตรการในรายงาน EIA และจัดส่งรายงาน EIA Monitoring ให้ครบถ้วนตรงตามระยะเวลาที่กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
เพื่อให้กระบวนการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมสามารถดำเนินการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ เกิดความมั่นใจว่ามาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล และคุณภาพสิ่งแวดล้อมที่อยู่รอบบริเวณโครงการอยู่ในมาตรฐาน
“นายกฯ ในฐานะประธานกรรมการของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ต้องกำกับดูแล ติดตาม ให้ผู้เกี่ยวข้องกับระบบการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้ง สผ. หน่วยงานอนุญาต และเจ้าของโครงการต้องให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามมาตรการในรายงาน EIA และจัดทำและส่งรายงาน EIA Monitoring โดยเคร่งครัด เพราะหากเกิดปัญหาใด ๆ ขึ้นจะส่งผลกระทบและความเสียหายอย่างรุนแรงต่อประชาชนจำนวนมาก ทั้งนี้ปัจจุบัน เรื่องสิ่งแวดล้อมทุกประเทศทั่วโลกต่างให้ความสนใจและจับตามองเป็นอย่างมาก” ผลสอบ สตง.ระบุ