"เจ้าท่า" เผยข้อดีระเบิดโขงลดต้นทุนขนส่ง 10 เท่า - ชี้ทำเพื่อชาติ อาจมีผู้เสียประโยชน์บ้าง (10 ม.ค. 60)

Green News TV 10 มกราคม 2560
เผยข้อดีระเบิดโขง ‘ลดต้นทุน’ ขนส่ง 10 เท่า ‘เจ้าท่า’ ชี้ทำเพื่อชาติ – อาจมีผู้เสียประโยชน์บ้าง

อธิบดีกรมเจ้าท่า ยืนยัน โครงการพัฒนาเส้นทางเดินเรือฯ แม่น้ำโขง ช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้า 10 เท่า เมื่อเทียบกับทางบก ยืนยันทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม วอนประชาชนอย่ากังวล

นายศรศักดิ์ แสนสมบัติ อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยกับเว็บไซต์โพสต์ทูเดย์ว่า แผนพัฒนาการเดินเรือระหว่างประเทศในแม่น้ำล้านช้าง-แม่น้ำโขง พ.ศ.2558-2568 เป็นการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ซึ่งจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยจะสามารถลดต้นทุนการขนส่งได้ประมาณ 10 เท่า เมื่อเทียบกับการขนส่งทางบก

นอกจากนี้ แผนพัฒนาดังกล่าวยังช่วยส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาพื้นที่ตามแนว 2 ฟากฝั่งแม่น้ำโขง รวมถึงเป็นการกระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวทางน้ำระหว่างกันอีกด้วย

“การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศเป็นไปเพื่อประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ แม้อาจทำให้ประชาชนบางส่วนเสียประโยชน์ไปบ้าง แต่ถ้ามีส่วนดีมากกว่าส่วนเสียก็จำเป็นต้องดำเนินการ ขอให้ชาวบ้านมั่นใจว่าเจ้าหน้าที่ทุกคนทำงานโดยรักษาผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ”นายศรศักดิ์กล่าว

นายศรศักดิ์ กล่าวอีกว่า ประชาชนในพื้นที่ไม่ควรวิตกมากเกินไป เนื่องจากโครงการดังกล่าวยังคงอยู่ในระยะเริ่มต้นซึ่งต้องใช้เวลาสำรวจถึง 1 ปี และทางการไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่และนักวิชาการหลายฝ่ายร่วมประชุมกับจีนเพื่อวางแผนการสำรวจและพัฒนาพื้นที่โดยให้กระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

ทั้งนี้ หากได้ผลสำรวจที่ชัดเจนในแต่ละพื้นที่แล้วก็จะส่งเจ้าหน้าที่ไปชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านรวมถึงเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนข้อมูลในวงกว้างเพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชนและคนในสังคม

นายศรศักดิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบหมายให้รองอธิบดีกรมเจ้าท่าเดินทางเข้าร่วมการประชุมการเดินเรือในลำน้ำและแผนพัฒนาการเดินเรือระหว่างประเทศ ร่วมกัน 6 ประเทศ ได้แก่ จีน ไทย เมียนมา ลาว เวียดนามและกัมพูชา เพื่อวางแผนและกำหนดเป้าหมายการปรับปรุงลำน้ำให้สามารถเรือขนส่งสินค้าขนาด 500 ตันแล่นผ่านได้

อนึ่ง ภายในสัปดาห์นี้ กรมเจ้าท่า ในฐานะผู้ประสานงานตามมติ ครม.จะเข้าร่วมการประชุมร่วมกับประเทศสมาชิก ณ ประเทศพม่า โดย นายศรศักดิ์ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวสิ่งแวดล้อม Greennews ก่อนหน้านี้ไว้ว่า จะนำท่าทีของประเทศไทยไปเจรจากับประเทศสมาชิก เมื่อมีข้อสรุปร่วมกันเป็นที่เรียบร้อย จึงจะกลับมาวางกรอบการทำงานต่อไป