วิเชษฐ์มอบนโยบายกระทรวงทรัพย์ฯ เน้นรวดเร็ว โปร่งใส ชัดเจน (3 ก.ค. 56)
ข่าวสดออนไลน์ 3 กรกฎาคม 2556
วิเชษฐ์มอบนโยบายกระทรวงทรัพย์ฯ เน้นรวดเร็ว โปร่งใส ชัดเจน
วันที่ 3 ก.ค. ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายวิเชษฐ์ เกษมทองศรี รมว.ทส. จัดแถลงมอบมอบนโยบายการดำเนินงานให้แก่ผู้บริหารระดับสูงทุกหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวง โดยรมว.ทส. กล่าวว่า การทำงานของตนในฐานะรมว.ทส. จะทำงานใน 4 แนวทาง คือ 1.Quick, Clear&Clean หรือรวดเร็ว โปร่งใส ชัดเจน ตรวจสอบได้ ทั้งงานวิชาการและงบประมาณ 2.จะบริหารจัดการทรัพยากรภายในประเทศให้เกิดความสมดุลย์ 3.จะร่วมมือกับต่างประเทศในเรื่องของทรัพยากรฯ และ4.การเตรียมรับมือภัยพิบัติ โดยทุกหน่วยงานจะต้องทำงานร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว ทั้ง 4 นโยบายถือเป็นนโยบายในเชิงรุก โดยใน 3 เดือน ตั้งแต่ ก.ค. – ก.ย. ซึ่งอยู่ในปีงบประมาณ 2557 จะกำหนดตัวชี้วัดในการทำงานเพื่อประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้บริหารระดับสูงผ่านภาพถ่ายดาวเทียมทุก 3 เดือน ที่แสดงให้เห็นถึงทรัพยากรธรรมชาติที่ดีและสวยงามขึ้น หรือมีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะป่าไม้ ทรัพยากรน้ำ ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งเป็นต้น
รมว.ทรัพยากรฯ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังมีอีก 3 นโยบายเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการคือ 1.การวางระบบแจ้งเตือนและป้องกันภัยพิบัติโดยใช้ระบบสารสนเทศ เพื่อการบริหาร แจ้งเตือนให้ประชาชนทราบล่วงหน้า 2.การจัดการปัญหาการบุกรุกเข้าครอบครองพื้นที่ป่าเขตอุทยานฯ ของนายทุน ผู้ประกอบการ และการทุจริตคอร์รัปชัน และการพิจารณาด้านกฎหมายของกรมที่เกี่ยวข้องให้มีความชัดเจน ทันเหตุการณ์และเหมาะสม และ3.การสร้างระบบการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงทรัพยากรฯ กับภาคประชาสังคม
จากนั้นภายหลังมอบนโยบายนายวิเชษฐ์ ให้สัมภาษณ์ ว่า ได้มอบให้นายโชติ ตราชู ปลัดทส. อธิบดีกรมอุทยานฯ และกรมป่าไม้ ไปดูกฎหมายเรื่องบทลงโทษผู้ที่บุกรุกพื้นที่ป่าให้เพิ่มขึ้น โดยในวันที่ 6 ก.ค.นี้ เวลา 10.00 น. ตนจะไปมอบนโยบายที่กรมป่าไม้ และต้นสัปดาห์หน้าจะไปมอบนโยบายที่กรมอุทยานฯ จากนั้นจะลงพื้นที่อุทยานฯ ทับลาน อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา และอ.นาดี จ.ปราจีนบุรี และอุทยานฯ เขาแหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด จ.ระยอง เพื่อไปดูการบุกรุกพื้นที่อุทยานฯ ยืนยันว่าทุกอย่างจะต้องดำเนินการตามกฎหมาย และคำสั่งศาล นอกจากนี้ในส่วนของคำสั่งศาลปกครองที่ให้ระงับโครงการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน ซึ่งกระทบกับโครงการปลูกป่าของกรมป่าไม้และกรมอุทยานฯ หรือไม่นั้น ได้มอบให้อธิบดีไปดูสภาพปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อแก้ปัญหาโดยเฉพาะการปลูกป่า ยอมรับว่าขณะนี้การดำเนินงานล่าช้ามาก และเข้าสู่กลางฤดูฝนแล้ว ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าความล่าช้านั้น เพราะต้องทำตามคำสั่งของศาล แต่ให้ไปหาวิธีแก้ปัญหาให้เร็วที่สุด