สุดทน! ชาวนาทรายนครศรีฯ ร้องโรงงานปล่อยน้ำเสียลงคลองสาธารณะ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก (19 ธ.ค. 59)
MGR Online 19 ธันวาคม 2559
สุดทน! ชาวนาทรายนครศรีฯ ร้องโรงงานปล่อยน้ำเสียลงคลองสาธารณะ ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก
นครศรีธรรมราช - ชาวนาทรายนครศรีฯ สุดทน โรงงานแปรรูปและอบไม้ยางพารา ปล่อยน้ำเสียลงแหล่งน้ำธรรมชาติหลายปีต่อเนื่อง กระทบ 6 หมู่บ้านเดือดร้อนหนัก เผยเคยร้องเรียนสารพัดแล้วแต่เรื่องกลับเงียบ พบเจ้าของเป็นนักธุรกิจผู้กว้างขวางในสภาอุตสาหกรรมนครศรีฯ
วันนี้ (19 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาว ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ได้ร้องเรียนถึงปัญหาโรงอุตสาหกรรมประเภทแปรรูปและอบไม้ยางพาราขนาดใหญ่ ซึ่งลักลอบปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติโดยตรง รวมทั้งไม่มีมาตรการป้องกันกลิ่น และควันพิษจากปล่องโรงงาน จนส่งผลกระทบต่อพื้นที่ทางการเกษตร และสุขภาวะของประชาชนถึง 6 หมู่บ้าน กว่า 2,000 ครัวเรือน แม้ว่าผู้นำท้องถิ่นจะพยายามร้องเรียนต่อหลายหน่วยงานแล้ว แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าใดๆ ในการแก้ไขปัญหา
ขณะที่ชาวบ้านบางรายต้องยอมขายที่ดินให้แก่โรงงานในราคาถูก เพื่อหนีไปอยู่ที่อื่น และเมื่อมีการบันทึกภาพมุมสูงก็พบว่า สวนยางพาราของชาวบ้านที่อยู่ริมลำห้วยน้ำคลุ้ง ซึ่งเป็นลำห้วยรับน้ำเสียจากโรงงาน ยืนต้นตายตลอดแนวลำห้วยอย่างเห็นได้ชัด
นายสมโภชน์ ยิ่งประดิษฐ์ สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลนาทราย ระบุว่า ปัญหานี้มีมาอย่างยาวนานแล้ว ถึงแม้ว่าจะร้องเรียนไปอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาใดๆ ได้ โรงงานยังคงปล่อยน้ำเสียราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยน้ำเสียได้กระจายไปถึง 6 หมู่บ้าน ตามแหล่งน้ำธรรมชาติ สัตว์น้ำตายหมดทั้งลำห้วย ชาวบ้านมีปัญหาโรคผิวหนัง และระบบทางเดินหายใจ
เช่นเดียวกับ นางบุญทัน ศิริพรัม ชาวบ้านที่อาศัยติดกับลำห้วย ระบุว่า ชาวบ้านเดือดร้อนอย่างหนัก แต่ไม่มีที่จะย้ายไปที่อื่น ที่น่าเป็นห่วงคือ สุขภาพของเด็กที่มีปัญหาเจ็บป่วยเรื้อรัง รวมทั้งบางรายมีอาการชักเกร็งบ่อย แต่ไม่สามารถพึ่งพาหน่วยงานใดให้เข้ามาแก้ไขได้เลย แม้แต่เจ้าของโรงงานเองก็ไม่เคยเข้ามาดูแลชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบเลย ตลอดเกือบ 20 ปีที่โรงงานนี้ก่อตั้งขึ้น
สำหรับพื้นที่นี้พบว่า แม้จะมีสวนผลไม้ และสวนยางพาราเป็นจำนวนมาก แต่กลับมีกลิ่นเหม็นฉุนของสารเคมีโชยอยู่ตลอดเวลา และบางช่วงเวลาควันจากปล่องของโรงงานลอยลงต่ำ สร้างมลพิษในชุมชนอย่างหนัก โดยชาวบ้านได้นำเข้าชี้จุดที่โรงงานปล่อยน้ำเสียก็พบว่า เต็มไปด้วยน้ำที่มีสีดำ พร้อมทั้งกลิ่นเหม็นฉุนอย่างรุนแรง และมีถังสารเคมี ถุงพลาสติกจำนวนมาก โดยไหลลงมายังเหมืองน้ำสาธารณะโดยตรง และไหลต่อไปยังลำห้วยน้ำคลุ้ง ก่อนที่จะไปออกยังคลองบ้านตาล ชุมชนที่อยู่ล่างโรงงานไม่สามารถใช้น้ำได้เลย ขณะที่ชาวบ้านผู้ที่เข้าไปชี้จุดดังกล่าว หลายรายถึงกับอาเจียน และเมื่อพนักงานโรงงานรู้ว่ากำลังถูกบันทึกภาพการปล่อยน้ำ จึงได้หยุดเดินเครื่องจักรในทันที
ชาวบ้านรายหนึ่งระบุอีกว่า ชาวบ้านหลายคนไม่กล้าที่จะต่อสู้เรื่องนี้ เพราะถูกข่มขู่จากคนกลุ่มหนึ่งที่รับผลประโยชน์อยู่จากโรงงาน บางคนถึงกับต้องขายที่ดินทำกินเพื่อไปอาศัยที่อื่น เนื่องจากไม่สามารถทนต่อมลพิษได้ ขณะที่การร้องเรียนผ่านหน่วยงานต่างๆ หลายครั้งกลับไม่สามารถแก้ไขปัญหา หรือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้ หลายคนจึงเลือกที่จะนิ่งเงียบ และอดทนต่อปัญหา เนื่องจากเกรงว่าปัญหาการคุกคามจะตามมาในภายหลัง ต่างจึงต้องอยู่ในสภาพกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ขณะที่โรงงานดังกล่าวพบว่า เป็นของนักธุรกิจส่งออกไม้ยางพารา ทั้งชนิดแปรรูป และแบบเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูป โดยปัจจุบันนั้นเป็นผู้กว้างขวางอยู่ในแวดวงสภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครศรีธรรมราช