อีกคดี! "ชุมนุม-ข่มขืนใจ" กรณีฅนรักษ์บ้านเกิดฯ ขวางวาระพิจารณาให้พื้นที่เหมืองทอง - ชาวบ้านชี้จบเหมืองแต่คดีไม่จบ (19 ธ.ค. 59)
Citizen Thai PBS 19 ธันวาคม 2559
อีกคดี! ‘ชุมนุม-ข่มขืนใจ’ กรณีฅนรักษ์บ้านเกิดฯ ขวางวาระพิจารณาให้พื้นที่เหมืองทอง - ชาวบ้านชี้จบเหมืองแต่คดีไม่จบ
18 ธ.ค. 2559 เวลา 13.00 น. ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิด ต.เขาหลวง อ.วังสะพุง จ.เลย เดินทางไปรวมตัวที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอวังสะพุง (สภ.วังสะพุง) เพื่อให้กำลังใจ ชาวบ้าน 7 คน ที่เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ตามหมายเรียกจากพนักงานสอบสวน โดยก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 2559 ร.ต.อ.วสันต์ แสงโทโพ เจ้าพนักงานสอบสวน สภ.วังสะพุง ได้มีหมายเรียกให้ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ 7 คน ให้มารับทราบข้อกล่าวหา แต่ชาวบ้านขอเลื่อนวันนัดพบมาเป็นวันนี้ (18 ธ.ค. 2559) เนื่องจากชาวบ้านบางคนต้องทำงานขายลอตเตอรี่อยู่ต่างจังหวัด
กลุ่มชาวบ้านระบุว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 16 พ.ย. 2559 พ.ต.อ.สุจินต์ นาวาเรือน ผกก.สภ.วังสะพุง ได้แจ้งข้อหาในความผิดตาม พ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะกับชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ 7 คน ในการประชุมสภา อบต.เขาหลวง โดยบอกว่าให้ชาวบ้านคนใดคนหนึ่งใน 7 คน เสียค่าปรับ 500 เรื่องจะได้จบในชั้นตำรวจ หากถึงชั้นอัยการอาจต้องเสียเงินเป็นหมื่น แต่ชาวบ้านปฏิเสธ พร้อมยืนยันว่าชาวบ้านไม่ได้ไปชุมนุม แต่ไปร่วมประชุมตามคำเชิญของประธานสภา อบต.เขาหลวง
“ชาวบ้านบอกกับพนักงานสอบสวนว่า ใครจะยอมแลกศักดิ์ศรีกับเงินแค่ 500” ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ รายหนึ่งกล่าว
ทั้งนี้ ในการประชุมสภา อบต.เขาหลวง สมัยสามัญ สมัยที่ 4 เมื่อวันที่ 16 พ.ย.ที่ผ่านมา มีวาระพิจารณาญัตติที่ค้างพิจารณาให้ความเห็นชอบการต่ออายุหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัย ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าโคกภูเหล็ก เพื่อทำเหมืองแร่ทองคำ 4 แปลง และการยื่นคำขอใช้ที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก.4-106) เพื่อนำทรัพยากรมาใช้ประโยชน์ของบริษัททุ่งคำ จำกัด
สำหรับบันทึกการแจ้งข้อกล่าวหาในวันนี้ ของพรทิพย์ หงส์ชัย 1 ใน 7 ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดี ระบุว่ามีความผิดฐาน “ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดหรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำกลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจหรือผู้อื่น จนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น และเป็นผู้จัดการชุมนุมโดยไม่แจ้งการชุมนุมต่อผู้ได้รับแจ้งไม่น้อยกว่า 24 ชั่วโมง ตามที่กฎหมายกำหนด” ขณะที่ชาวบ้านที่เหลืออีก 6 คน ได้แก่ 1.นางระนอง กองแสน 2.นางวิรอน รุจิไชยวัฒน์ 3.นางสุพัฒน์ คุณนา 4.นางบุญแรง ศรีทอง 5.นางมล คุณนา และ 6.นางลำเพลิน เรืองฤทธิ์ ไม่มีการระบุความผิดฐานเป็นผู้จัดการชุมนุม
อย่างไรก็ตามชาวบ้านทั้ง 7 คน ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา และหลังการสอบปากคำทั้งหมดได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นก็ได้รับการปล่อยตัว โดยตำรวจนัดอีกวันที่ 24 ม.ค. 2560 เพื่อส่งสำนวนถึงอัยการ
ไล ภักดิ์มี หรือ ยายวัด ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ ที่เดินทางมาให้กำลังใจกล่าวว่า การเดินทางมาวันนี้ก็เพื่อมาให้กำลังใจลูกหลานที่ต่อสู้เพื่อปกป้องบ้านเกิด เพราะที่ผ่านมาสารพิษได้ก่อผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและวิถีชีวิตของชาวบ้าน ชาวบ้านมาเพื่อบ้านเกิด
“หลังมีคำสั่งปิดเหมืองแล้ว ทำไมถึงไม่ยกเลิกคดีให้ชาวบ้านด้วย ตอนนี้จะมีมติ (สภา อบต.เขาหลวง) อีกแล้ว ทำไมเหมืองถึงยังไม่ปิด” ยายวัดตั้งคำถาม
ทั้งนี้ ในวันที่ 19 ธ.ค. 2559 จะมีการเปิดประชุมสภา อบต.เขาหลวง สมัยวิสามัญ สมัยที่ 1 อย่างไรก็ตาม จากเอกสารนัดหมายไม่ได้ระบุถึงการพิจารณาเรื่องการใช้พื้นที่ประกอบกิจการเหมืองทอง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากคดีนี้ ชาวบ้านกลุ่มฅนรักษ์บ้านเกิดฯ ยังมีคดีที่สมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาหลวงจำนวน 16 คน กล่าวหานางพรทิพย์ หงชัย กับพวก 6 คน ข่มขืนใจ และทำร้ายร่างกาย สืบเนื่องจากกรณี เหตุวุ่นวายในการประชุม สภาอบต.เขาหลวง สมัยสามัญ สมัยที่ 2 ประจำปี 2559 เมื่อวันที่ 13 พ.ค. 2559 ซึ่งมีการบรรจุเรื่องการขอใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงภูเหล็ก และพื้นที่ ส.ป.ก. เพื่อประกอบกิจการเหมืองทองคำของบริษัท ทุ่งคำ จำกัด เพื่อขอมติจากที่ประชุม (คลิกอ่าน: http://www.citizenthaipbs.net/node/9270)