กบินทร์บุรี - ร้องทุกข์รอบ 3 เหตุมีผู้ลักลอบปล่อยน้ำเน่าลงท้องนากระทบกว่า 10,000 ไร่ ซ้ำไหลบ่าเข้าแหล่งผลิตน้ำประปา (11 ธ.ค. 59)

มติชนออนไลน์ 11 ธันวาคม 2559
ร้องทุกข์รอบ 3 เหตุมีผู้ลักลอบปล่อยน้ำเน่าลงท้องนากระทบกว่า 10,000 ไร่ ซ้ำไหลบ่าเข้าแหล่งผลิตน้ำประปา

นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังดาล (อบต.) อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีการร้องทุกข์เรื่องน้ำเน่าเสีย โดยในครั้งล่าสุดนี้เป็นรอบที่ 3 ระยะเวลาห่างกันไม่ถึง 1 เดือน

เหตุมีผู้ลักลอบปล่อยน้ำเน่าเสียสร้าง “มลพิษ” กระทบประชาชนและทุ่งนาข้าวนาปี ที่กำลังออกรวงให้ผลใกล้เก็บเกี่ยว รวมพื้นที่มากกว่า 10,000 ไร่ พร้อมยังไหลบ่าเข้าในแหล่งกักเก็บน้ำเพื่อใช้ผลิตประปาหมู่บ้านเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยพบมีการลอบปล่อยน้ำเน่าเสียเพียงใน 3 หมู่บ้าน เพิ่มจำนวนรวดเดียวมาเป็น 10 หมู่บ้าน จากหมู่บ้านใน ต.วังดาลทั้งหมด รวม 16 หมู่บ้าน

อันเป็นการจงใจสร้าง “มลพิษ” คุกคามต่อธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตใน ต.วังดาลอย่างรุนแรง กระทบผลผลิตข้าวเมล็ดลีบ กระทบการผลิตประปา 6 หมู่บ้าน ที่ไม่สามารถนำมาดื่มกิน-ใช้ประโยชน์ไม่ได้-พบปลาตาย ล่าสุดทาง อบต.วังดาลได้ลงทุนส่วนตัวว่าจ้างบริษัทเอกชนให้เข้ามาตรวจวัดค่าน้ำเน่าเสียนี้

นายไพบูลย์ ช่างฉาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลวังดาล (อบต.) กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายนที่ผ่านมาพบว่ามีผู้ลักลอบปล่อยน้ำเสียลักษณะสีดำ กลิ่นเหม็นรุนแรง คล้ายกรดซัลฟูริก หรือกำมะถัน ด้านบนเป็นคราบคล้ายน้ำมันจับเป็นฝ้า แขวนลอยเป็นคราบ ลงในทุ่งนาที่กำลังให้ผลผลิต รอการเก็บเกี่ยว เเต่ล่าสุดพบว่ากินพื้นที่ลุกลามเพิ่มขึ้นรวม 10 หมู่บ้าน จำนวนมากเกินกว่า 10,000 ไร่ ขณะที่น้ำเสียได้รุกคืบเข้าแหล่งกักเก็บน้ำดิบสำหรับผลิตน้ำประของชาวบ้าน รวม 6 หมู่บ้าน โดยน้ำไหลมาตามคลองธรรมชาติคือคลองยาง มีสีดำคล้ำ กลิ่นเหม็นเน่าฉุนรุนแรง สูดดมนาน ๆ จะวิงเวียนศีรษะ แน่นหน้าอก คล้ายจะอาเจียน พร้อมพบปลาตาย

และเมื่อชาวบ้านนำน้ำไปอุปโภคบริโภค เกิดอาการผื่นคัน พร้อมผลผลิตนาข้าว พบว่าเมล็ดข้าวฝ่อลีบ สำหรับน้ำจะไหลลงต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรีต่อไป และในวันนี้นายวัลลภ ประวัติวงศ์ นายอำเภอกบินทร์บุรี ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบพบข้อเท็จจริงด้วยตนเองอีกครั้ง และทาง อบต.วังดาลได้ว่าจ้างบริษัทเอกชนเพื่อนำตัวอย่างน้ำเสียดังกล่าวไปตรวจสอบต่อไป ทั้งนี้ เนื่องจากภาวะมลพิษทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้น นายไพบูลย์กล่าว

นายวัลลภกล่าวว่า น้ำเสียที่พบกำลังหาแหล่งที่มา แต่ 10 กว่าวันแล้วยังไม่พบ น้ำเสียชัดเจน มีสีดำสกปรก ขณะนี้ชาวบ้านหวาดกลัวไม่กล้าใช้อุปโภคบริโภค เนื่องจากใช้แล้วมีอาการคัน ซึ่งจะได้เร่งแก้ไขและหาที่มาของแหล่งน้ำเสียที่มีผู้ลักลอบปล่อย สร้างความเสียหายให้ทุ่งนากว่า 10,000 ไร่ กินพื้นที่เกือบหมดทั้ง ต.วังดาล และแหล่งกักเก็บน้ำดิบสำหรับผลิตประปาต่อไป ขณะนี้ได้เก็บตัวอย่างน้ำส่งตรวจแล้ว

“การร้องทุกข์ผ่านสื่อมวลชนจึงเป็นกระบอกเสียงอีกทางหนึ่ง ที่คาดหวังว่าจะลดมลพิษร้ายแรงที่ชาวบ้านได้รับชนิดตายผ่อนส่งนี้”