โวยประกวดราคาขยะพันล. อบจ.หนองคาย ไม่เป็นธรรม! บ.คดี สกสค. โผล่ชิงดำ (8 ธ.ค. 59)

สำนักข่าวอิศรา 8 ธันวาคม 2559
โวยประกวดราคาขยะพันล. อบจ.หนองคาย ไม่เป็นธรรม!บ.คดี สกสค. โผล่ชิงดำ

'เอกชน' ร้องผู้ว่าฯ ขั้นตอนประกวดราคาคัดเลือกเอกชนร่วมทุนโครงการกำจัดขยะพันล. อบจ.หนองคายไม่เป็นธรรม! ไม่เปิดซองเทียบข้อเสนอผลตอบแทน ด้านปลัดอบจ.ยันปฏิบัติตามขั้นตอน ยังไม่ได้ชี้ขาดใครได้งาน รอคณะกรรมการชุดใหญ่ชี้ขาดสัปดาห์หน้า เผยชื่อ บ.หนองคายน่าอยู่ ถูกสอบคดี สกสค. โผล่ชิงดำด้วย

โครงการบริหารจัดการขยะมูลฝอยแบบครบวงจร จังหวัดหนองคาย กำลังการผลิตไม่น้อยกว่า 380 ตัน/วัน ของ องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.หนองคาย) ที่มีการเปิดซองประกวดราคาคัดเลือกเอกชนเข้ามาร่วมลงทุน เป็นระยะเวลากว่า 25 ปี โดยเอกชนจะต้องมีวงเงินลงทุนรวมมูลค่าที่ดินและทรัพย์สินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2559 ที่ผ่านมา ถูกเอกชนรายหนึ่ง ทำหนังสือร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากการเข้าร่วมยื่นซองประกวดราคาโครงการนี้ 

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในวันที่ 8 ธ.ค.2559 นี้ บริษัท แอ๊ดวานซ์ คลีน เพาเวอร์ จำกัด ได้ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าฯ หนองคาย เพื่อขอความเป็นธรรมและอุทธรณ์โต้แย้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาการคัดเลือกเอกเชนเข้าร่วมลงทุนโครงการบริหารจัดการขยะมูลฝอยแบบครบวงจรของ อบจ.หนองคาย

โดยระบุว่าเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.2559 บริษัทฯ ได้ยื่นซองข้อเสนอต่อ อบจ.หนองคาย หลังจากนั้นคณะกรรมการพิจารณาเบื้องต้น ได้ชี้แจงให้ บริษัทฯ รับทราบขั้นตอนการเปิดซองที่ 1 เรื่องคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอร่วมทุน และซองที่ 2 ข้อเสนอด้านการเงิน การลงทุน และเทคนิค และซองที่ 3 ข้อเสนอด้านผลตอบแทน 

อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ เห็นว่า ทีโออาร์ และขั้นตอนการเปิดซองที่คณะกรรมการฯ ชี้แจงไม่ถูกต้องตามที่ระบุในทีโออาร์ ดังนั้น บริษัทฯ จึงยื่นหนังสือขอให้คณะกรรมการฯ ปฏิบัติให้ถูกต้องตามทีโออาร์ เพื่อความเป็นธรรมและผลประโยชน์ของทางราชการ

ต่อมาเวลา 13.30 น. คณะกรรมการฯ ได้มีการเปิดซองที่ 1 ของบริษัทฯ และผู้เสนอราคารายอื่น ผลการพิจารณาปรากฎว่า มีผู้ยื่นซองข้อเสนอ 2 ราย รวมบริษัทฯ ด้วย และผ่านเกณฑ์การพิจารณาทั้ง 2 ราย จากนั้นคณะกรรมการฯ เปิดซองที่ 2 ต่อ จนถึงเวลาประมาณ 16.30 น. คณะกรรมการฯ จึงได้ยุติการพิจารณา และแจ้งว่าจะพิจารณาต่อในวันถัดไป 

ต่อมาในวันที่ 7 ธ.ค.2559 คณะกรรมการฯ ได้เปิดซองที่ 2 ของผู้ยื่นเสนอราคาทั้ง2ราย ปรากฎว่า เมื่อเวลา 16.00 น. คณะกรรมการฯ ได้ประกาศผลการพิจารณาให้เอกชนทั้ง 2 ราย ได้รับคะแนนผ่านเกณฑ์ และมีการประกาศผลคะแนนให้ทราบโดยทั่วไป ด้วยการปิดประกาศไว้หน้าห้องพิจารณาของคณะกรรมการฯ

อย่างไรก็ตาม เมื่อบริษัทฯ พิจารณาผลคะแนนแล้วเห็นว่า บริษัทไม่ได้รับความเป็นธรรมในการใช้ดุลพินิจให้คะแนน ทำให้มีคะแนนน้อยกว่า จึงได้ยื่นหนังสือโต้แย้งต่อคณะกรรมการฯ แต่คณะกรรมการฯ ไม่รับหนังสือดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้ยื่นหนังสือต่อสำนักงานปลัดอบจ.หนองคาย 

หลังจากนั้น คณะกรรมการฯ ได้เปิดซองที่ 3 แต่ไม่ยอมเปิดซองของบริษัทฯ ทั้งที่ ซองที่ 2 ของ บริษัทฯ ผ่านเกณฑ์ตามทีโออาร์เช่นเดียวกัน และเมื่อบริษัทฯ ได้ยื่นหนังสือขอให้คณะกรรมการฯเปิดซองที่ 3 ของบริษัทฯ เพื่อเปรียบเทียบผลประโยชน์ตอบแทนจากผู้เสนอราคาอีกราย แต่คณะกรรมการฯ ไม่รับหนังสือดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้ยื่นหนังสือต่อสำนักงานปลัดอบจ.หนองคายอีกครั้ง แต่คณะกรรมการฯ ไม่รับหนังสือดังกล่าว และแจ้งให้บริษัทฯ รับซองที่ 3 กลับคืนไป บริษัทฯ เห็นว่าเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและฝ่าฝืนทีโออาร์ จึงไม่รับซองที่ 3 กลับคืน และมิได้เปิดซองแต่อย่างใด 

ต่อมาคณะกรรมการฯ ได้เรียกผู้เสนอราคาอีกรายที่ได้คะแนนซองที่ 2 สูงสุด เข้าไปในห้องพิจารณาเพื่อทำการเปิดซองที่ 3 โดยไม่ให้ตัวแทนบริษัทฯ เข้าร่วมรับทราบรายะเอียดผลประโยชน์ตอบแทนซองที่ 3 ของผู้ยื่นรายอีกราย และหลังทำการเปิดซองที่ 3 ก็ไม่ได้ประกาศผลให้บริษัทฯ และประชาชนได้รับทราบ

อีกทั้งคณะกรรมการยังได้เรียกตัวแทนผู้ยื่นข้อเสนอรายดังกล่าว เข้าไปในห้องพิจารณาถึง 4 ครั้ง จึงทำให้เกิดความเคลือบแคลงสงสัยในเรื่องความโปร่งใส บริษัทฯ จึงได้ทำการโต้แย้งว่า คณะกรรมการฯ ดำเนินการไม่ถูกต้องและฝ่าฝืนทีโออาร์ ข้อ 14.3 ที่กำหนดให้คณะกรรมการต้องเปิดซองที่ 3 ต่อหน้าผู้ยื่นข้อเสนอ และยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการฯ เพื่อขอรับรายละเอียดผลประโยชน์ตอบแทนซองที่ 3 ที่คณะกรรมการฯ ทำการเปิด โดยใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการฯ แต่คณะกรรมการฯ ยืนยันว่าจะไม่เปิดเผยข้อมูล และไม่รับหนังสือดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้ยื่นหนังสือต่อสำนักงานปลัดอบจ.หนองคายเพิ่มเติม 

"ด้วยเหตุผลดังกล่าวบริษัทฯ จึงเห็นว่าไม่ได้ความเป็นธรรมในการแข่งขันราคา และทำให้อบจ.หนองคายและทางราชการเสียหาย และขอให้ผู้ว่าจังหวัดหนองคาย พิจารณาดำเนินการ ให้คณะกรรมการฯ เปิดซองที่ 3 ของผู้เสนอราคาที่ผ่านการพิจารณาผลซองที่ 2 ทุกราย เพื่อเปรียบเทียบผลตอบแทนที่แต่ละรายเสนอต่อ อบจ.หนองเคย ว่า รายใดเสนอผลประโยชน์ตอบแทนมากที่สุด อันเป็นการปฏิบัติให้ถูกต้องตามทีโออาร์ ข้อ 14.4 ต่อไปด้วย"  

ด้านนายกิตติศักดิ์ บุญเปีย ปลัดอบจ.หนองคาย ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า เหตุผลที่คณะกรรมการฯ ไม่เปิดซองที่ 3 ของ บริษัท แอ๊ดวานซ์ คลีน เพาเวอร์ จำกัด  เป็นเพราะคะแนนซองที่ 2 น้อยกว่าผู้เสนอราคาอีกราย ซึ่งตามขั้นตอนแล้ว การจะเปิดซองที่ 3 ของผู้เสนอราคา เพื่อเปรียบเทียบกัน จะต้องเป็นกรณีที่ได้คะแนนซองที่ 2 เท่ากัน แต่กรณีมีผู้เสนอราคาซองที่ 2 ซึ่งได้รับคะแนนสูงสุด เพียงรายเดียว จึงไม่จำเป็นต้องเปิดซองที่ 3 ของผู้เสนอราคาอีกรายที่มีคะแนนต่ำกว่า

ปลัดอบจ.หนองคาย ยังระบุด้วยว่า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ได้ชี้ขาดว่าใครจะเป็นผู้ได้รับการคัดเลือก เพราะคณะกรรมการพิจารณาเบื้องต้น จะมีการสรุปรายงานผลการประกวดราคาเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาผลชุดใหญ่ ซึ่งมีจำนวน 8 ราย มีตัวแทนจากอัยการมาเข้าร่วมด้วยเพื่อพิจารณาข้อมูลเอกสารหลักฐานต่างๆอีกครั้ง ซึ่งในข้อร้องเรียนต่างๆ ของ บริษัท แอ๊ดวานซ์ คลีน เพาเวอร์ จำกัด  ที่ร้องว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ก็จะมีการเสนอเรื่องให้คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาด้วย คาดว่าจะมีการนัดประชุมเป็นทางการในสัปดาห์หน้านี้ 

เมื่อถามว่า  บริษัท แอ๊ดวานซ์ คลีน เพาเวอร์ จำกัด  ร้องเรียนว่า คณะกรรมการพิจารณาเบื้องต้น ได้มีการเรียกผู้เสนอราคาอีกรายเข้าไป ในห้องพิจารณาถึง 4 ครั้ง หลังเปิดซองที่ 3  ปลัดอบจ.หนองคาย ตอบว่า "ผมไม่ทราบข้อมูลเรื่องนี้ แต่เท่าที่รู้มีการบันทึกภาพวีดิโอการดำเนินงานประกวดราคาไว้เป็นหลักฐานด้วย ซึ่งก็คงจะมีการนำเสนอเรื่องให้คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาด้วย"

เมื่อถามว่า บริษัทเอกชนอีกราย ที่เป็นคู่แข่งขันของ  บริษัท แอ๊ดวานซ์ คลีน เพาเวอร์ จำกัด  คือใคร ปลัดอบจ.หนองคาย ตอบว่า "ชื่อว่า บริษัทหนองคายน่าอยู่ จำกัด แต่เข้าใจว่าตอนนี้ ซองที่ 3 ที่ บริษัทฯ แห่งนี้ยื่นมายังไม่ได้มีการเปิด คาดว่าคงจะเสนอเรื่องให้คณะกรรมการชุดใหญ่พิจารณาพร้อมกัน รวมถึงข้อเสนอของ บริษัท แอ๊ดวานซ์ คลีน เพาเวอร์ จำกัด ด้วย"

"เท่าที่ผมทราบข้อมูลในขณะนี้ คือ ในการยื่นซองที่ 2 บริษัท แอ๊ดวานซ์ คลีน เพาเวอร์ จำกัด ได้คะแนนต่ำกว่า บริษัทหนองคายน่าอยู่ จำกัด ห่างกันประมาณ 80 คะแนน จากคะแนนรวม 600 คะแนน แต่ก็ยังไม่ได้หมายความว่าบริษัทหนองคายน่าอยู่ จำกัด จะได้งานไปแล้ว เพราะต้องขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการชุดใหญ่ด้วย ว่าข้อเสนอที่ให้มาทำได้จริงหรือไม่ มีหลักฐานถูกต้องไหม ถ้าทำไม่ได้ข้อเสนออาจจะตกไป และอาจจะถูกริบหลักประกัน ที่วางไว้จำนวน 50 ล้านบาท ด้วยก็ได้" 

"การให้คะแนนซองที่ 2 ก็เหมือนกับกรณีการคัดเลือกนักบอล จะมีการกำหนดกิจกรรมเพื่อทดสอบความสามารถในด้านต่างๆ และให้คะแนนแต่ละด้าน เช่น คุณต้อง เดาะบอลได้กี่ครั้ง เลี่ยงบอลผ่านตรงไหนได้บ้าง ซึ่งกับโครงการนี้ เป็นเรื่องเกี่ยวกับรายละเอียดเครื่องมืออุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งถ้าสิ่งที่ยื่นเสนอมาทำไม่ได้จริง ก็จะเป็นหลักฐานทำให้เอกชน ไม่ผ่านการคัดเลือกในภายหลังด้วย" 

เมื่อถามว่า  บริษัทหนองคายน่าอยู่ จำกัด ถูกระบุว่ามีความเกี่ยวข้องกับคดีการใช้จ่ายเงินลงทุนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สำนักงาน คณะกรรมการ สกสค.) จะเป็นปัญหาในการยื่นเรื่องพิจารณาหรือไม่

ปลัดอบจ.หนองคาย ตอบว่า "คณะกรรมการชุดใหญ่จะเป็นผู้พิจารณาในรายละเอียดต่างๆอีกครั้ง"

ปลัดอบจ.หนองคาย ยังกล่าวทิ้งทาย ว่า เกี่ยวกับโครงการนี้ อบจ.หนองคาย ไม่ต้องเสียเงินลงทุนอะไรเลย ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนอย่างเดียว โดยบริษัทที่ได้รับงาน เมื่อเข้ามาทำงานแล้ว จะต้องจ่ายค่าตอบแทน จากการกำจัดขยะ ให้อบจ.หนองคาย ประมาณร้อยละ 10 จากมูลค่าขยะที่จำกัดได้ และยังต้องจ่ายค่าตอบแทนให้กับเจ้าของพื้นที่ร้อยละ 5 ในทุกพื้นที่ที่โครงการเข้าไปใช้พื้นที่อยู่ด้วย 

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรารายงานว่า บริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด เป็นหนึ่งในเอกชน ที่ถูกศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ออกคำสั่งให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำการสืบสวนกรณีคณะกรรมการกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคงตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.ของ สำนักงาน คณะกรรมการ สกสค. ได้ร่วมลงทุนโรงฟ้าฟ้าพลังงานขยะชุมชม กับ บริษัท หนองคายน่าอยู่ จำกัด จำนวน 800 ล้านบาท ว่าเป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ 

(อ่านประกอบ :โวยผู้ตรวจการฯ อุ้มคกก.กองทุนฯสกสค. ชง 'ดาว์พงษ์' เว้นโทษวินัยซื้อหุ้น800ล.)