ไกล่เกลี่ยสำเร็จยุติคดี "บ่อขยะแพรกษา" 10 สำนวน (7 ธ.ค. 59)
Nation TV 7 ธันวาคม 2559
ไกล่เกลี่ยสำเร็จยุติคดี"บ่อขยะแพรกษา" 10 สำนวน
"อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง" เผยศาลแพ่งแผนกคดีสิ่งแวดล้อม ไกล่เกลี่ยสำเร็จยุติคดี"บ่อขยะแพรกษา" 10 สำนวน ให้เอกชนเยียวยา ชาวบ้านกว่า 2,000 รายๆละ 3 พัน ขณะที่ชาวบ้านอีก141 รายยังไม่ปรากฏตัว ศาลให้ติดต่อรับเงินผ่านทนาย หรือศาลด่วนเหลืออีกสำนวนรอทำแผนฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมตามเงื่อนไขยอมความ
7 ธ.ค. 59 - นายวรงค์พร จิระภาค อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง เปิดเผยว่า ศาลแพ่ง เตรียมจัดโครงการ"ร่วมใจไกล่เกลี่ยเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร" เพื่อเปิดโอกาสให้ประชาชนยุติข้อพิพาทด้วยความเข้าใจอันดีต่อกัน โดยเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. - 28 ก.พ. 60 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จ พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ซึ่งเสด็จพระราชดำเนินเหยียบศาลยุติธรรมเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 26 ม.ค.2495 และประทับบัลลังก์ศาลแพ่ง ทรงฟังการพิจารณาคดี อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่งไกล่เกลี่ยต่อเบื้องพระพักตร์ คู่ความยอมผ่อนปรนให้กัน คดีสามารถตกลงกันได้เป็นคดีหมายเลขแดงที่ 74/2495 นับเป็นมงคลอันประเสริฐยิ่งที่ศาลแพ่งและคู่ความได้รับพระมหากรุณาธิคุณด้วย
นายวรงค์พร อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง กล่าวอีกว่า นอกจากนี้เพื่อเป็นการน้อมนำพระบรมราโชวาทเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของข้าราชการที่มี ผลเกี่ยวเนื่องกับทุกข์สุขของประชาชน ศาลแพ่งแผนกคดีจัดการมรดก จึงเปิดทำการนอกเวลาราชการ โดยเปิดทำการในวันเสาร์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่คู่ความในคดีจัดการมรดกที่ไม่สามารถเดินทางมาศาลในวันเวลาราชการได้ โดยเริ่มรับคำร้องตั้งแต่เดือน ธ.ค.59 และเริ่มนัดไต่สวนคำร้องขอจัดการมรดกตั้งแต่วันที่ 4 ก.พ. 60 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ นายวรงค์พร อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง ยังกล่าวถึงคดีชาวบ้าน 12 หมู่บ้านใน ต.แพรกษา อ.มือง จ.สมุทรปราการ ด้วยว่า ชาวบ้านซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้บ่อขยะตำบลแพรกษา ที่ได้รวมตัวกันเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายกรมย์พล สมุทรสาคร, นายเด่นตรง ตั้งเด่นไชย, นางบุญไทย ตั้งเด่นไชย และองค์การบริหารส่วนตำบลแพรกษา เป็นจำเลยที่ 1 - 4 รวมทั้งหมด 11 สำนวน ศาลแพ่งแผนกคดีสิ่งแวดล้อม ได้ดำเนินกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทคดีดังกล่าวมาตั้งแต่เดือน เม.ย.58 และเนื่องจากคดีมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม ในการเจรจาจึงได้หาแนวทางแก้ไขปัญหาและฟื้นฟูสภาพแวดล้อมไปด้วย
โดยผลการเจรจาประสบผลสำเร็จด้วยดี ฝ่ายโจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องรวม 10 คดี และโจทก์ 2,000 กว่ารายได้รับการบรรเทาความเสียหาย รายละ 3,000 บาท ซึ่งฝ่ายจำเลยได้จ่ายเงินไว้กับทนายความโจทก์แล้ว และทนายความโจทก์ได้ติดตามตัวโจทก์เพื่อมอบเงินบรรเทาความเสียหาย แต่ยังไม่สามารถติดตามตัวโจทก์ที่เหลืออีก 141 รายได้ ซึ่งผู้เสียหาย สามารถติดต่อรับเงินจากทนายความ หรือศาลแพ่งแผนกคดีสิ่งแวดล้อมเพื่อประสานงานให้ต่อไป ที่หมายเลข 02-512-8235,02-541-2420 ต่อ 1304 และผู้เสียหายสามารถตรวจสอบรายชื่อได้ที่www.civil.coj.go.th
ส่วนคดีที่เหลืออีก 1 คดีเป็นคดี หมายเลขดำที่ สว.1/2558 อยู่ระหว่างการพิจารณาจัดทำแผนการฟื้นฟูสภาพสิ่งแวดล้อม และอยู่ระหว่างการร่างข้อตกลงเพื่อเป็นเงื่อนไขในการทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อไป
ทั้งนี้คดีนี้ถือเป็นคดีตัวอย่างของคดีสิ่งแวดล้อม มีโจทก์ซึ่งได้รับความเสียหายรวม 2,349 ราย รวมทุนทรัพย์ทั้งหมด 235,895,610 บาท