จับตา 32 โรงงานปล่อยมลพิษ ก่อเหตุซํ้าซาก - กรอ.สั่งปิด "ไทยอะโกรฯ" 30 วัน (2 ธ.ค. 59)
ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ 2 ธันวาคม 2559
จับตา 32โรงงานปล่อยมลพิษ ก่อเหตุซํ้าซาก-กรอ.สั่งปิดไทยอะโกรฯ 30 วัน
“ประยุทธ์”สั่งกระทรวงอุตสาหกรรมคุมเข้มโรงงานปล่อยมลพิษทั่วประทศ หลังเจอปัญหาร้องเรียน กรอ.รับลูกขึ้นบัญชีดำ 32 โรงงาน ใน 19 จังหวัด ก่อเหตุซ้ำซาก เฝ้าตรวจสอบทุก 1 เดือน ล่าสุดเชือดโรงงานผลิตเอทานอล ไทย อะโกร เอนเนอร์ยี่ ที่สุพรรณบุรี ปล่อยมลพิษเกินมาตรฐาน สั่งปิด 30 วัน ให้เร่งแก้โดยด่วน
นายมงคล พฤกษ์วัฒนา อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม(กรอ.) เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ”ว่า ขณะนี้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้กระทรวงอุตสาหกรรม เฝ้าติดตามการตรวจสอบปัญหาการปล่อยมลพิษของโรงงานอุตสาหกรรมในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็น กลิ่นเหม็น ฝุ่นละออง เสียงดัง และน้ำเสีย เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับการร้องเรียนจากประชาชนที่อยู่รอบโรงงานเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะให้เฝ้าระวังตรวจสอบโรงงานที่มีปัญหาการร้องเรียนซ้ำซาก ซึ่งทางนางอรรชกา สีบุญเรือง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้ทำหนังสือส่งไปยังอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศให้ติดตามในเรื่องดังกล่าวแล้ว
อย่างไรก็ตาม การเฝ้าระวังโรงงานอุตสาหกรรมที่ปล่อยมลพิษหรือสร้างความรำคาญให้กับประชาชน ทางกรอ.ได้มีแผนตรวจคุณภาพการปล่อยของเสียจากโรงงานในแต่ละปี 1 หมื่นแห่ง และของอุตสาหกรรมจังหวัดอีก 2.5 หมื่นแห่ง เพื่อเป็นการกำกับหรือควบคุมโรงงานไม่ให้กระทำผิด ประกอบกับในแต่ละปี ก็มีเรื่องร้องเรียนต่างๆ เข้ามามากไม่ต่ำกว่า 600-700 เรื่อง ซึ่งในส่วนของโรงงานอุตสาหกรรมที่มีปัญหาการร้องเรียนซ้ำซากนี้ กรอ.ได้ขึ้นบัญชีไว้แล้ว 32 แห่ง ใน 19 จังหวัด แบ่งเป็นการร้องเรียนด้านน้ำทิ้ง 16 โรงงาน ใน 13 จังหวัด เช่น โรงงานเอทานอล ที่จ.สระบุรี และราชบุรี โรงงานกำจัดกากของเสีย จ.ราชบุรี โรงงานเส้นใยสังเคราะห์ จ.อ่างทอง โรงงานแปรรูปอาหารจากเนื้อสัตว์ จ.นครราชสีมา เป็นต้น
ส่วนโรงงานที่มีปัญหาร้องเรียนด้านมลพิษทางอากาศ มี16 โรงงาน ใน 11 จังหวัด เช่น โรงงานผลิตเส้นใยธรรมชาติและเส้นใยสังเคราะห์จ.อ่างทอง โรงงานซักฟอก รีด เสื้อผ้าสำเร็จรูปและผ้าต่างๆ จ.ปทุมธานี โรงไฟฟ้าชีวมวล จ.ชัยภูมิภาค โรงงานผลิตยางแท่ง จ.อุดรธานี และโรงงานผลิตแผ่นไม้อัด จ.ระยอง เป็นต้น ซึ่งในส่วนนี้ได้สั่งกำชับให้อุตสาหกรรมจังหวัดเฝ้าระวังและเข้าตรวจสอบเป็นประจำทุกเดือน
นายมงคล กล่าวอีกว่า สำหรับการดำเนินงานล่าสุดจากการร้องเรียนของประชาชนในพื้นที่ กรอ.ได้เข้าตรวจสอบโรงงานผลิตเอทานอล ของบริษัท ไทยอะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ต.หมองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ซึ่งจากการเก็บตัวอย่างอากาศจากปล่องระบายออกนอกโรงงาน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เมตร ของหม้อไอน้ำที่ใช้ในกระบวนการกลั่นเอทานอล ใช้ก๊าซมีเทน เป็นเชื้อเพลิง จำนวน 2 ปล่อง พบว่า ค่าสารเจือปนในอากาศปล่องที่ 1 ค่าของคาร์บอนมอนอกไซด์มีค่า 2,280 ส่วนในล้านส่วน ออกไซด์ของไนโตรเจนมีค่า 676 ส่วนในล้านส่วน และซัลเฟอร์ไดออกไซด์มีค่า 582 ส่วนในล้านส่วน และปล่อยที่ 2 พบว่าค่าคาร์บอนมอนอกไซด์มีค่า 14,900 ส่วนในล้านส่วน และซัลเฟอร์ไดออกไซด์มีค่า 1,120 ส่วนในล้านส่วน ซึ่งมีค่าสูงเกินกว่าค่ามาตรฐานคุณภาพอากาศที่กำหนด
ทางกระทรวงอุตสาหกรรม จึงใช้อำนาจตามความในมาตรา 39 แห่งพ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ.2535 ลงนามโดยปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม มีคำสั่งให้โรงงานดังกล่าวหยุดประกอบกิจการโรงงานในส่วนของหม้อไอน้ำที่ใช้ในกระบวนการกลั่นเอทานอล เป็นการชั่วคราว 30 วัน นับจากวันลงนาม เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน 2559 เพื่อให้โรงงานไปดำเนินการปรับปรุงแก้ไขระบบขจัดมลพิษทางอากาศจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงของหม้อไอน้ำ ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 26 ธันวาคม 2559
“โรงงานแห่งนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่ ในเรื่องกลิ่นเหม็น และยังเกิดปัญหาบ่อเก็บน้ำกากส่า ซึ่งเกิดก๊าซสะสมจำนวนมาก ทำให้ผ้าใบคลุมบ่อโป่งพอสูงขึ้น จนชาวบ้านได้รับกลิ่นเหม็นและเกิดวิตกกังวลว่าจะเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจจะระเบิดได้ เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้น กระทรวงอุตสาหกรรม จึงได้สั่งให้หยุดประกอบกิจการไว้ก่อนจนกว่าจะได้รับการแก้ไขแล้วเสร็จ”
ขณะที่บริษัท ไทย อะโกร เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน) ชี้แจงว่า บริษัทไม่ได้นิ่งนอนใจและได้เร่งแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และพร้อมจะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 36 ฉบับที่ 3,214 วันที่ 1 – 3 ธันวาคม 2559