กพร. ยันแผนฟื้นฟูเหมืองแร่ ยัง "เข้มเทียบเท่าอีไอเอ" (2 ธ.ค. 59)

แนวหน้า 2 ธันวาคม 2559
กพร.ยันแผนฟื้นฟูเหมืองแร่ ยังเข้มเทียบเท่าอีไอเอ

2 ธ.ค.59 นายสมบูรณ์ ยินดียั่งยืน อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่(กพร.) กล่าวว่า ได้มีนโยบายให้ขั้นตอนการทำเหมืองแร่ของประเทศ ต้องทำแผนการฟื้นฟูเหมืองภายหลังการปิดเหมืองอย่างเข้มข้น นอกเหนือจากการทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ)  เพื่อทำให้การปิดเหมืองไม่ใช่แค่การยุติการขุดแร่ รื้อถอนเครื่องจักร รื้อถอนอาคารโรงงานเท่านั้น แต่หมายรวมถึงการพัฒนาพื้นที่ที่ผ่านการทำเหมืองแล้วให้สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน เพื่อให้ประชาชนและสังคมเชื่อมั่นว่าเหมืองที่ปิดตัวลงจะไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ไม่เป็นอันตรายต่อชุมชน ทั้งด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย ไม่ทำให้พื้นที่ของประเทศไร้ประโยชน์เมื่อไม่สามารถสร้างมูลค่าเชิงพาณิชย์ได้

"การออกแบบเพื่อฟื้นฟูพื้นที่และการรื้อถอน ต้องมีการวิเคราะห์ความเสี่ยง อาทิ ความเสี่ยงจากการพังทลายของกองดิน และบ่อเหมือง มีระบบการตรวจสอบการออกแบบโดยใช้มาตรฐานด้านความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมเป็นตัวกำหนดต้องครอบคลุมผลด้านเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม โดยต้องดำเนินการฟื้นฟูตั้งแต่ช่วงระหว่างทำเหมืองไปถึงภายหลังการทำเหมืองจนกว่าพื้นที่จะกลับคืนสู่สภาพที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้หรืออยู่ในสภาพที่เป็นที่ยอมรับของชุมชนและสังคม" นายสมบูรณ์ กล่าว

สำหรับข้อกำหนดสำคัญที่มีผลต่อการจัดทำแผนปิดเหมือง 3 ประการ ได้แก่ 1.ความมั่นคงของพื้นที่ ผู้ประกอบการต้องพิจารณาองค์ประกอบหลักของพื้นที่ อันได้แก่ ผนังบ่อเหมือง กองเศษดิน อุโมงค์หรือปล่องใต้ดิน บ่อเก็บกักตะกอน ทางระบายน้ำ และคลองผันน้ำ ที่ต้องมีความมั่นคงปลอดภัย ไม่มีความเสี่ยงจากการพังทลายหรือถูกกัดเซาะส่งผลกระทบต่อเนื่องอื่นๆ 2.การปนเปื้อนของสารเคมี การฟื้นฟูพื้นที่หลังการทำเหมือง จะต้องผ่านการวิเคราะห์การปนเปื้อนของสารเคมี ว่าต้องไม่มีสารตกค้างหรือปนเปื้อนในดิน น้ำ และสิ่งแวดล้อมเกินกว่าค่ามาตรฐานกำหนด เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม 3.การตั้งเป้าหมายการฟื้นฟูพื้นที่หลังการทำเหมือง ซึ่งจะต้องฟื้นฟูให้สามารถนำกลับมาใช้ประโยชน์ใกล้เคียงสภาพพื้นที่เดิมหรือสามารถเป็นประโยชน์อื่นที่เหมาะสมและเป็นที่ยอมรับมีทัศนียภาพและระบบนิเวศที่กลมกลืนกับสภาพโดยรอบ