ระวัง! โหวตผ่านร่าง กม.ปิโตรเลียม อาจผิด ป.อาญา ม.157 และจริยธรรม สนช. (21 พ.ย. 59)

สำนักข่าวอิศรา 21 พฤศจิกายน 2559
ระวัง!โหวตผ่านร่าง กม.ปิโตรเลียม อาจผิด ป.อาญา ม.157 และจริยธรรม สนช.

“..หากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว โหวตว่า ไม่ส่งคืนให้คณะรัฐมนตรี เพื่อนำไปแก้ไขหลักการให้เป็นไปตามรายงานผลการศึกษาจุดอ่อนของ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ทั้ง 2 ฉบับของ สนช. เองแล้ว .. อาจจะเป็นการกระทำที่ละเมิดจริยธรรมของสมาชิกสภานิติบัญญัติเอง ในข้อ 8,15,17,18,21 และ 25..”

วันนี้ (21 พ.ย 2559) เป็นวันชี้ขาดว่า คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไข พ.ร.บ.ปิโตรเลียม พ.ศ... และร่างแก้ไข พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ ... ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) จะตัดสินใจโหวตว่า จะส่งคืนร่าง พ.ร.บ ทั้ง 2 ฉบับให้คณะรัฐมนตรีแก้ไขหรือไม่

เนื่องจาก ร่างแก้ไข พ.ร.บ ทั้ง 2 ฉบับ มีสมาชิก สนช. ขอแปรญัตตินอกหลักการของร่างกฎหมายเป็นจำนวนมาก เพราะร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับที่คณะรัฐมนตรีส่งมาไม่ได้แก้ไขตามผลการศึกษาของ สนช. ตรงประเด็นจุดอ่อน และจุดรั่วไหลของรายได้แผ่นดิน ซึ่งประธานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) และ ประธานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน (กสม.) ได้ทักท้วงไว้ หากไม่มีการแก้ไขหลักการ ย่อมทำให้การขอแปรญัตติของสมาชิก สนช. ไม่อาจกระทำได้

หากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างกฎหมายดังกล่าว โหวตว่า ไม่ส่งคืนให้คณะรัฐมนตรี เพื่อนำไปแก้ไขหลักการให้เป็นไปตามรายงานผลการศึกษาจุดอ่อนของ พ.ร.บ.ปิโตรเลียม ทั้ง 2 ฉบับของ สนช. เองแล้ว คณะกรรมาธิการผู้โหวตให้เดินหน้าต่อไป จนเข้าสู่ขั้นตอนการโหวตในสภานิติบัญญัติแห่งชาติอาจมีความผิดได้

ท่านกรรมาธิการที่โหวตให้ผ่านในขั้นตอนนี้โดยไม่แก้ไข ทั้งที่รับ ทราบข้อเท็จจริงจากรายงานการศึกษาของตนเอง และมีประธานองค์กรอิสระถึง 2 องค์กรทักท้วงไว้ สมาชิกที่ยังโหวตให้ผ่านก็อาจจะเข้าข่ายจงใจเล็งเห็นผลที่จะทำให้รัฐเสียหาย

อาจจะเป็นการกระทำที่ละเมิดจริยธรรมของสมาชิกสภานิติบัญญัติเอง ในข้อ 8, 15, 17, 18, 21 และ 25

ข้อ 8 สมาชิกและกรรมาธิการจักต้องปฏิบัติหน้าที่และแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เที่ยงธรรม มีความเป็นอิสระ มีจิตสํานึกที่ดี มีความซื่อสัตย์สุจริต มีความรับผิดชอบและเสียสละเพื่อประโยชน์ ของส่วนรวมและประเทศชาติ มีสํานึกในบทบาทหน้าที่ และดํารงไว้ซึ่งความสามัคคีในหมู่คณะ เพื่อรักษาไว้ซึ่งศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิของสภา

ข้อ 15 สมาชิกและกรรมาธิการพึงให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนอย่างครบถ้วน ถูกต้อง และไม่ใช้หรือไม่บิดเบือนข้อมูล ข้อเท็จจริง หรือวิจารณ์ในลักษณะที่ก่อให้เกิดความเสียหาย เพื่อให้ผู้อื่น หรือประชาชนเข้าใจผิด หรือเพื่อประโยชน์ส่วนตัวหรือบุคคลอื่นใด

ข้อ 17 สมาชิกและกรรมาธิการจักต้องประพฤติและปฏิบัติตนเพื่อให้เป็นที่เชื่อถือศรัทธา และเป็นแบบอย่างที่ดีงามแก่ประชาชน

 ข้อ 18 สมาชิกและกรรมาธิการต้องให้ความสําคัญในการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ของประชาชน ทั้งต้องปฏิบัติต่อประชาชนด้วยความรวดเร็ว มีอัธยาศัย เสมอภาค เท่าเทียม เป็นธรรม และไม่เลือกปฏิบัติ

ข้อ 21 สมาชิกและกรรมาธิการจักต้องเคารพและปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย อย่างเคร่งครัด และจักต้องอยู่ในกรอบของศีลธรรมและจริยธรรม

ข้อ 25 สมาชิกและกรรมาธิการจักต้องไม่แสวงหาประโยชน์โดยอาศัยตําแหน่งหน้าที่ และไม่กระทําการอันเป็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์หรือมีผลประโยชน์ทับซ้อน และจะต้องดูแลให้คู่สมรส และบุตรของสมาชิกและกรรมาธิการปฏิบัติเช่นเดียวกันด้วย

นอกจากผิดจริยธรรมแล้ว กรรมธิการที่โหวตผ่านร่างกฎหมายดังกล่าว ยังอาจเข้าข่ายเป็นเจ้าพนักงานของรัฐที่กระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ดังที่มีการบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมในประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 ว่า

มาตรา 149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งรัฐ สมาชิกสภาจังหวัด หรือสมาชิกสภาเทศบาล เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือประหารชีวิต

หากมีการกระทำที่เห็นว่า ท่านกรรมาธิการวิสามัญคณะนี้เข้าข่ายการกระทำผิด ดังได้แจกแจงไว้แล้ว ประชาชนก็สามารถดำเนินการร้องเรียนท่านเหล่านั้นตามที่กฎหมายได้บัญญัติไว้ต่อไป

ภาพประกอบ : www.pttep.com