อุตฯ จ.นครราชสีมา ยันรง.ทำเกลือสินเธาว์-สูบน้ำเกลือ หยุดกิจการตามคำสั่งศาลแล้ว (15 พ.ย. 59)
สำนักข่าวอิศรา 15 พฤศจิกายน 2559
อุตฯ จ.นครราชสีมา ยันรง.ทำเกลือสินเธาว์-สูบน้ำเกลือ หยุดกิจการตามคำสั่งศาลแล้ว
ราชกิจจาฯ ลงประกาศ คำพิพากษาเพิกถอนประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องกําหนดท้องที่ที่อนุญาตให้ตั้งโรงงานทําเกลือสินเธาว์และโรงงานสูบ หรือนําน้ำเกลือขึ้นมาจากใต้ดิน อ.พระทองคํา จ.นครราชสีมา ส่งผลให้พื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถประกอบกิจการโรงเกลือได้อีกต่อไป
เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2559 ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักงานศาลปกครอง เรื่อง ศาลปกครองพิพากษาถึงที่สุดให้เพิกถอนกฎด้วยศาลปกครองสูงสุดได้มีคําพิพากษาในคดีหมายเลขแดงที่ อ.1188/2559 ระหว่าง นายถาวร เพชรขุนทด ที่ 1 กับพวกอีก 21 คน ผู้ฟ้องคดี กับ กระทรวงอุตสาหกรรม ที่ 1 กรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่ 2 กรมควบคุมมลพิษ ที่ 3 กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ที่ 4 ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ที่ 5 อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา ที่ 6 องค์การบริหารส่วนตําบลพังเทียม ที่ 7 ผู้ถูกฟ้องคดี โดยพิพากษาเพิกถอนประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องกําหนดท้องที่ที่อนุญาตให้ตั้งโรงงานทําเกลือสินเธาว์และโรงงานสูบหรือนําน้ำเกลือขึ้นมาจากใต้ดิน ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2534 เฉพาะข้อ 2.3 ที่กําหนดให้บ้านโพนไพล ตําบลพังเทียม อําเภอโนนไทย (ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นอําเภอพระทองคํา) จังหวัดนครราชสีมา เป็นท้องที่ที่อนุญาตให้ตั้งโรงงานทําเกลือสินเธาว์และโรงงานสูบหรือนําน้ำเกลือขึ้นมาจากใต้ดิน ตั้งแต่วันที่ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือ วันที่ 24 ตุลาคม 2534
ทั้งนี้ ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา เมื่อเดือนกันยายน 2559 คดีนี้สืบเนื่องมาตั้งแต่ปี 2552 ศาลปกครองนครราชสีมา พิพากษาให้เพิกถอนใบอนุญาตโรงงานผู้ผลิตเกลือสินเธาว์ในพื้นที่อำเภอพระทองคำ ทุกใบอนุญาตที่ออกโดยสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา กระทั่ง ศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น เป็นให้เพิกถอนประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง กำหนดท้องที่ที่อนุญาตให้ตั้งโรงงานทำเกลือสินเธาว์และโรงงานสูบหรือนำน้ำเกลือขึ้นมาจากใต้ดิน ลงวันที่ 9 ตุลาคม 2535 เฉพาะข้อ 2.3 ที่กำหนดให้บ้านโพนไพล ตำบลพังเทียม อำเภอโนนไทย ซึ่งปัจจุบันเป็นอำเภอพระทองคำ เป็นท้องที่ที่อนุญาตให้ตั้งโรงงานทำเกลือสินเธาว์และโรงงานสูบหรือนำน้ำเกลือขึ้นมาจากใต้ดิน
ทั้งนี้ พื้นที่ดังกล่าวไม่สามารถประกอบกิจการโรงเกลือได้อีกต่อไป โดยหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ ต้องแจ้งให้ผู้ประกอบกิจการโรงเกลือที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาตหยุดดำเนินกิจการตามคำพิพากษาดังกล่าว ประกอบด้วย (1) โรงงานศรีเอเชีย เคมีคอล (2) โรงงานของนายสมาน สมันเลาะห์ (3) โรงงานของนายแอ คล้ายขำดี (4) โรงงานของนายแอ คล้ายขำดี (5) โรงงานของนายไพโรจน์ ยิ้มสุขไพฑูรย์ (6) โรงงานศรีเอเชีย เคมีคอล (7) โรงงานของนายสำราญ คำปรม (8) โรงงานของนายอาคำ รอฮีม (9) โรงงานของบริษัท สยามทรัพย์มณี (10) โรงงานของนายไกรสร โชติชาครพันธ์
นายวิโรจน์ ช่างสาร คณะทำงานคดีนาเกลือของสภาทนายความ ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวถึงความคืบหน้าว่า การเพิกถอนใบอนุญาตโรงงานผู้ผลิตเกลือสินเธาว์ในพื้นที่อำเภอพระทองคำ ทราบมาว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้ทำหนังสือถึงอุตสาหกรรมจังหวัดแล้ว และอยู่ระหว่างการทำหนังสือถึงผู้ประกอบการ
ด้านนายประชา มีธรรม อุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า มีโรงงาน 5 แห่ง ที่ต้อง เพิกถอนตาม ประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เฉพาะข้อ 2.3 และเพิกถอนใบอนุญาต อีก 10 แห่ง รวมประมาณ 15 แห่ง ณ วันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ลงตรวจพบว่า ได้หยุดประกอบกิจการแล้ว
"ผมได้ส่งหนังสือแจ้งผู้ประกอบการไปหมดแล้ว หลังได้รับแจ้งจากกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ซึ่งต้องบังคับคดีให้เป็นไปตามคำสั่งศาล"