พ.ร.บ. ปิโตรเลียมเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ก.พลังงานรับกระทบสัญญาก๊าซบงกช-เอราวัณ (11 พ.ย. 59)
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 11 พฤศจิกายน 2559
พ.ร.บ.ปิโตรเลียมเลื่อนแล้วเลื่อนอีก ก.พลังงานรับกระทบสัญญาก๊าซบงกช-เอราวัณ
สนช.ยังไม่เคาะ พ.ร.บ.ปิโตรเลียมฉบับใหม่ กรมเชื้อเพลิงฯเตรียมทำข้อมูลเสนอ รมว.พลังงาน "อนันตพร" ต้องเลื่อนขั้นตอนต่ออายุสัมปทานบงกช-เอราวัณออกไปอีก 2 เดือน คาดประกาศเงื่อนไขต่อสัญญาได้ในเดือน พ.ค. 60 ก.พลังงานยอมรับห่วงการลงทุนแหล่งปิโตรเลียมชะงัก
ขั้นตอนการต่ออายุแหล่งผลิตปิโตรเลียมสำคัญอย่างแหล่งเอราวัณและแหล่งบงกช รวมไปจนถึงการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบ 21 ยังคงต้องรอความชัดเจนของกฎหมาย หรือพระราชบัญญัติปิโตรเลียม ฉบับใหม่ที่อยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) หลังจากที่กรอบของคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กพช.) กำหนดว่า ควรแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้นั้น แต่ล่าสุดกฎหมายดังกล่าวยังคงรอการลงมติของ สนช.ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14 พฤศจิกายนนี้ เท่ากับว่าทุกขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับสัมปทานปิโตรเลียมจะต้องปรับเลื่อนอีกครั้ง
นายวีระศักดิ์ พึ่งรัศมี อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ขณะนี้เตรียมข้อมูลนำเสนอ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถึงความจำเป็นที่อาจจะ "ต้องเลื่อน" การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับสัมปทานปิโตรเลียมทั้งหมดออกไปก่อนอย่างน้อย 2 เดือน (จากกำหนดเดิมต้องแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา) เนื่องจากขณะนี้ สนช.ยังคงอยู่ในขั้นตอนพิจารณาพระราชบัญญัติปิโตรเลียมฉบับใหม่ ทำให้กรมเชื้อเพลิงฯจึงยังไม่สามารถออกกฎหมายลูกที่เกี่ยวข้องสำหรับการต่ออายุสัมปทานปิโตรเลียมในแหล่งเอราวัณของบริษัทเชฟรอน ประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และแหล่งบงกช ของบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) รวมไปจนถึงการเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบที่ 21 ที่ดำเนินการค้างไว้มาตั้งแต่ปี 2558 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ คาดว่า สนช.จะมีการลงมติเพื่อพิจารณา พ.ร.บ.ปิโตรเลียมฯ ในวันที่ 14 พ.ย.นี้ หากขั้นตอนลงมติเรียบร้อย หลังจากนั้น กรมเชื้อเพลิงฯจึงจะเริ่มดำเนินการในส่วนของการกำหนดเงื่อนไขในการต่อสัญญาสัมปทาน (TOR) ทั้ง 2 แหล่งที่จะหมดอายุลง จากเดิมที่คาดว่าจะประกาศเงื่อนไขได้ภายในเดือนมีนาคม 2560 นั้น อาจจะต้องมาประกาศอย่างเป็นทางการภายในเดือนพฤษภาคม 2560 แทน อย่างไรก็ตาม กรอบระยะเวลาที่จะปรับเลื่อนนั้นจะต้องมีการนำเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพื่อพิจารณาอีกครั้งด้วย
"กฎหมายแม่อย่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียมฯ ยังไม่แล้วเสร็จ ทุกขั้นตอนที่เกี่ยวข้องจะต้องเลื่อนเช่นกัน ทั้งนี้ ก.พลังงานและกรมเชื้อเพลิงฯ จะพยายามดำเนินการให้ทันก่อนที่แหล่งบงกชและเอราวัณที่จะทยอยหมดอายุสัญญาสัมปทานตั้งแต่ช่วงปีཽ-66 นี้ และโดยปกติจะต้องดำเนินก่อนที่สัญญาจะหมดก่อน 4-5 ปี เพื่อให้ผู้รับสัมปทานได้มีเวลาเตรียมตัว รวมถึงเพื่อให้การผลิตจากทั้ง 2 แหล่ง ยังคงมีการผลิตอย่างต่อเนื่อง เพราะทั้ง 2 แหล่งถือเป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญของประเทศ"
นายวีระศักดิ์กล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงแม้ว่าจะมีการขยับเลื่อนขั้นตอนการต่ออายุสัมปทานปิโตรเลียมออกไปอย่างน้อย 2 เดือนนั้น แต่ยังไม่กระทบการลงทุนและความเชื่อมั่นของภาคเอกชนอย่างเชฟรอน-ปตท.สผ. เพราะเชื่อมั่นว่าหากดำเนินการขั้นตอนทางกฎหมายเป็นไปตามขั้นตอนและได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องแล้วทั้ง2 บริษัทก็พร้อมที่จะปฏิบัติตามพระราชบัญญัติปิโตรเลียมฉบับใหม่
ด้านนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ในเรื่องของพระราชบัญญัติปิโตรเลียมฉบับใหม่ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาจาก สนช.ก็ขยับเลื่อนเวลามาแล้ว 60 วัน นั่นคือจะต้องแล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้ เมื่อยังพิจารณาไม่แล้วเสร็จได้ส่งผลให้กฎหมายลูกอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย แม้ว่าขั้นตอนทางกฎหมายจะล่าช้า แต่ ก.พลังงานจะพยายามดำเนินการทุกขั้นตอนที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จภายในปีླྀ เพราะไม่ต้องการให้การลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตของประเทศต้องหยุดชะงักลง โดยเฉพาะในแหล่งเอราวัณและแหล่งบงกช ที่เป็นแหล่งพลังงานที่สำคัญรองรับความต้องการใช้ในประเทศ
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า เดิมนั้นมติของคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติระบุว่า ให้มีการดำเนินการจัดทำรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการต่ออายุสัญญาทั้ง 2 แหล่งภายใน 1 ปี หรือจะต้องแล้วเสร็จประมาณเดือน ส.ค. 59 แต่ก็ต้องประกาศเลื่อนออกไปอย่างน้อย 2 เดือน เนื่องจากในขณะนั้นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ปิโตรเลียม และร่าง พ.ร.บ.ภาษีเงินได้ปิโตรเลียม พ.ศ. .... ยังต้องใช้เวลาในการพิจารณา หลังจากนั้นปรับเลื่อนกรอบเวลาออกไปอีก 2 เดือน คือจะต้องพิจารณากฎหมายให้แล้วเสร็จภายในเดือนตุลาคมนี้