"สมคิด" ถกเจซีไทย-จีน 9 ธ.ค.นี้ เน้นหารือต่อยอดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (8 พ.ย. 59)
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ 8 พฤศจิกายน 2559
"สมคิด"ถกเจซีไทย-จีน 9 ธ.ค.นี้ เน้นหารือต่อยอดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย
สุวิทย์ ร่วมคณะรองนายกสมคิดถกจีน เน้นหารือต่อยอดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เร่งบีโอไอพิจารณานักลงทุนจีนที่เหมาะสม
นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิขย์ กล่าวว่า ตนร่วมคณะนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนนตรี เดินทางเยือนประเทศจีนในวันที่ 9 ธันวาคม 2559 ที่จะถึงนี้ โดยการเดินทางครั้งนี้จะมีการร่วมประชุมหารือในคณะกรรมการร่วมว่าด้วยการค้าการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-จีน ในระดับรองนายกฯ และยังหารือพบปะร่วมผู้ประกอบการรายใหญ่ของจีน เพื่อดึงดูดเข้ามาลงทุนในประเทศไทยด้วย
สำหรับการเดินทางครั้งนี้ จะเป็นการร่วมหารือระดับรองนายกและร่วมหารือกับนักลงทุนของจีนรายใหญ่ ในอุตสาหกรรมเป้าหมาย เช่น กลุ่มโลจิสติกส์ เพื่อดึงดูดเข้ามาลงทุนในประเทศไทย ลักษณะพาร์ทเนอร์ชิพหรือคู่ค้า โดยก่อนที่จะเดินทางอาจจะต้องหารือร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ ในการพิจารณาอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะดึดดูงนักลงทุนจากจีนเข้ามา อีกทั้งจะหารือร่วมพัฒนา Thailand 4.0 กลุ่มผู้ประกอบการ startup ได้อย่างไรด้วย
นอกจากนี้ ยังหารือถึงประเด็นข้อติดขัดในการค้า การลงทุน เพื่อหาทางออกและแก้ไขด้วย เช่น เรื่องเหล็ก เป็นต้น ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ มองว่าอาจจะเน้นในการหารือเจาะเป็นรายอุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่สามารถต่อยอดส่งเสริมการค้า การลงทุนในอนาคต อาจจะไม่ได้หารือหรือเจรจาในกรอบการเจรจาเขตการค้าเสรี หรือเอฟทีเอไทย-จีน เนื่องจากมองว่าเป็นเรื่องระยะยาวและใช้เวลา อีกทั้งกรอบการเจรจามีหลายเวที อาจจะใช้เวทีอาเซียน-จีน เวทีความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในภูมิภาค (RCEP) ในการหารือได้
“การเดินทางครั้งนี้อาจจะไม่ได้มีการเน้นเรื่องเจรจาเอฟทีเอไทย-จีน และการหารือพูดคุยเรื่องรถไฟ การซื้อสินค้าเกษตร ระหว่างไทย-จีนมาก แต่จะเน้นและมองในเรื่องอนาคต และกลุ่มอุตสาหกรรม 4-5 สาขา เช่น กลุ่มดิจิทัล กลุ่ม Startup เทคโนโลยีอาหาร Thailand 4.0 ที่จะดึดดูดการเข้ามาลงทุนและส่งเสริมพัฒนาประเทศไทยในอนาคต
ขณะที่กรมทรัพย์สินทางปัญญา จัดโครงการผลงานการพัฒนาเทคโนโลยีที่เหมาะสม ภายใต้โครงการสร้างมูลค่าเพิ่มด้วยทรัพย์สินทางปัญญา 2016 โดยได้เปิดโอกาสห็ผู้ที่สนใจจากทั่วประเทศเข้าร่วมประกวด และได้ผู้ชนะรางวัล มีชื่อผลงาน แผ่นดูดซับคราบน้ำมันจากวัสดุเส้นใยนาโนธรรมชาติ ได้รับเงินสด 100,000 บาท พร้อมโล่รางวัลและใบเกียรติคุณของกรมทรัพย์สินทางปัญญา โดยรับว่างานประกวดครั้งนี้มีผลงานที่สามารถส่งเสริมต่อยอดมูลค่าเพิ่มในอนาคต ดังนั้น เห็นว่ากรมฯ ควรที่จะเร่งในการส่งเสริมการจดอนุสิทธิบัตรให้กับผู้เข้าประกวดและผู้ที่ได้รับรางวัลและสามารถที่จะต่อยอดสร้างมูลค่าเพิ่มได้ในอนาคต ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนับสนุนมากให้กับผู้ประกอบการในอนาคต