นัดไกล่เกลี่ยประมงพื้นบ้าน เรียกค่าเสียหาย “พีทีทีจีซี” กว่า 400 ล.ยังไม่บรรลุผล (16 ม.ค. 58)

ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 มกราคม 2558
นัดไกล่เกลี่ยประมงพื้นบ้าน เรียกค่าเสียหาย “พีทีทีจีซี” กว่า 400 ล.ยังไม่บรรลุผล

ระยอง - นัดไกล่เกลี่ยคดีสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กระยอง ยื่นฟ้องพีทีทีจีซี เป็นเงินกว่า 400 ล้านบาท จากเหตุท่อน้ำมันดิบรั่วลงทะเลยังไม่บรรลุผล ขณะที่ศาลจังหวัดระยอง พร้อมนัดคู่กรณีไกล่เกลี่ยอีกครั้งในวันที่ 13 มีนาคมนี้
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.00 น.วันนี้ (16 ม.ค.) นายสำออย รัตนวิจิตร นายกสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กจังหวัดระยอง พร้อมด้วย นายละม่อม บุญยงค์ ประธานเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบน้ำมันรั่ว และนายอุดมศักดิ์ หลอดทอง เลขาสมาคมฯ ได้นำกลุ่มประมงพื้นบ้านเรือเล็ก รวม 16 ชุมชน จำนวน 429 ราย เดินทางไปยังศาลจังหวัดระยอง เพื่อร่วมรับฟังการไกล่เกลี่ยคดี
       
       กรณีสมาคมประมงพื้นบ้านเรือเล็กจังหวัดระยอง พร้อมกลุ่มประมงฯ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือพีทีทีจีซี ข้อหาละเมิดสิทธิ์ฯ จากกรณีเหตุการณ์ท่อน้ำมันดิบของบริษัทฯ รั่วไหลลงทะเล เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2556 โดยเรียกค่าเสียหายเป็นเงินกว่า 400 กว่าล้านบาท และให้ตั้งกองทุนฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่ได้รับความเสียหาย เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2557
       
       ในวันนี้ ศาลจังหวัดระยอง ได้นัดคู่กรณีฝ่ายโจทก์ และจำเลยเข้าไกล่เกลี่ย และเปิดโอกาสให้กลุ่มประมงส่งตัวแทนชุมชนละ 2 คน รวม 32 คน พร้อมทนายความจากศูนย์ชุมชน กรุงเทพมหานคร นำโดย นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า และทีมงานเข้าเจรจาร่วมกับฝ่ายจำเลย ที่ได้ส่งตัวแทนบริษัทฯ พร้อมทนายความเข้าร่วม
       
       นางสาว ส.รัตนมณี พลกล้า ทนายความของสมาคมประมงพื้นบ้านบ้านเรือเล็กจังหวัดระยอง กล่าวว่า การนัดไกล่เกลี่ยคดีในวันนี้ ตัวแทนบริษัท พีทีทีจีซี จำกัด (มหาชน) พร้อมทนายความ ได้ขอให้สมาคมประมงฯ ปรับลดจำนวนเรียกร้องความเสียหาย แต่กลุ่มประมงพื้นบ้านฯ ก็ยังมีข้อกังวลว่าจะปรับลดในมูลค่าความเสียหายอย่างไร เนื่องจากเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง อย่างไรก็ดี จะต้องรอดูแผนฟื้นฟูฯที่สมาคมฯ ได้ร่วมกันจัดทำขึ้นก่อน ซึ่งจะเป็นตัวช่วยคิดว่าค่าความเสียหายควรจะปรับลดในทิศทางใด
       
       “จึงได้มีข้อตกลงในส่วนนี้ว่าให้ทางพีทีทีจีซี ส่งแผนฟื้นฟูฯ ตามที่อ้างว่าได้มีการทำแผนร่วมกับส่วนราชการให้ฝ่ายโจทก์ได้พิจารณาร่วมกันก่อน ซึ่งจะสร้างความเชื่อมั่นได้ว่าจะเป็นไปตามแผนฟื้นฟูฯ ของกลุ่มประมงหรือไม่อย่างไร และในวันนี้กลุ่มประมงก็ได้มอบแผนฟื้นฟูฯ ที่จัดทำให้กแก่พีทีทีจีซี ไปพิจารณาเช่นกัน และในนัดหน้า ก็จะมาคุยกันเรื่องแผนฟื้นฟูฯ ซึ่งทางศาลได้นัดคู่กรณีในวันที่ 13 มีนาคม” นางสาว ส.รัตนมณี กล่าว
       
       ด้าน นายอุดมศักดิ์ หลอดทอง เลขาฯ สมาคมประมงฯ กล่าวว่า ประเด็นสำคัญที่กลุ่มประมงฯ ต้องการก็คือ การนำเอาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกลับคืนมา แต่พีทีทีจีซี กลับต้องการไกล่เกลี่ยเรื่องจำนวนเงิน ซึ่งจำนวนเงินที่เรียกร้องไปถือว่าไม่มากหากเทียบกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น ขณะที่แผนฟื้นฟูฯ ของกลุ่มประมงฯ ในเบื้องต้นคือ ให้ พีทีทีจีซี จัดเก็บซากคราบน้ำมันที่ถูกสารเคมีฉีดพ่นสลายเป็นเม็ดเล็กๆ ที่จมลงใต้ทะเลขึ้นมาให้มากที่สุด และหลังจากที่ท้องทะเลมีความสะอาดแล้ว จึงค่อยมาฟื้นฟูเรื่องทรัพยากรกันใหม่อีกครั้ง