ยื่นศาลปค.รื้อคลองด่าน (9 ส.ค. 59)
ไทยโพสต์ออนไลน์ 9 สิงหาคม 2559
ยื่นศาลปค.รื้อคลองด่าน
"อัยการ" ยื่นคำร้องศาลปกครอง รื้อคดีค่าโง่คลองด่านปี 2546 พิจารณาใหม่ หลัง "กระทรวงการคลัง-กรมควบคุมมลพิษ" พบหลักฐานสัญญาจ้างขัดต่อความสงบเรียบร้อย ส่อเป็นโมฆะตามมาตรา 150 กม.แพ่งและพาณิชย์
เมื่อวันจันทร์ เรือโท (ร.ท.) สมนึก เสียงก้อง โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงความคืบหน้าคดีโครงการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านว่า เมื่อวันที่ 22 ก.ค.ที่ผ่านมา อัยการฝ่ายคดีปกครอง 6 ได้รับมอบอำนาจจากกระทรวงการคลังให้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลาง เพื่อขอให้พิจารณาคดีสัญญาจ้างก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดนำเสียเขตควบคุมมลพิษ จ.สมุทรปราการ (บ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน) ใหม่ นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา อัยการฝ่ายคดีปกครอง 6 ก็ได้รับมอบอำนาจจากกรมควบคุมมลพิษ ให้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางให้พิจารณาคดีดังกล่าวใหม่เช่นกัน
ร.ท.สมนึกกล่าวว่า ในการยื่นคำร้องขอพิจารณาคดีใหม่ดังกล่าว สืบเนื่องจากที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 10 ต.ค.57 ในคดีหมายเลขดำ อ.185-286/2556 ที่บริษัท วิจิตรภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด กับพวก ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนรวม 6 ราย ยื่นฟ้องกรมควบคุมมลพิษ โดยศาลปกครองสูงสุดได้พิพากษาให้กรมควบคุมมลพิษชำระค่าจ้าง ค่าเสียหายรวมดอกเบี้ย ตามข้อเรียกร้องเป็นเงินบาท จำนวน 4,983,342,383 บาท และเป็นเงินเหรียญสหรัฐอเมริกา จำนวน 3,035,780 ดอลลาร์ ให้แก่ บ.วิจิตรภัณฑ์ฯ กับพวกรวม 6 ราย พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้น 4,424,099,982 บาท และ 26,434,636 ดอลลาร์สหรัฐฯ นับแต่วันที่ 28 ก.พ.46 เป็นต้นไป จนกว่าจะชำระเสร็จ
"หลังจากศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาดังกล่าว กรมควบคุมมลพิษได้ชำระเงินงวดแรกให้บริษัทไปเมื่อวันที่ 26 พ.ย.58 เป็นเงิน 3,174,581,566.04 บาท และ 21,713,855.40 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยยังรอการชำระงวดที่ 2 และ 3 ตามคำพิพากษา ซึ่งระหว่างนี้ปรากฏข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบของหน่วยงานตรวจสอบภาครัฐพบว่า สัญญาจ้างก่อสร้างระบบรวบรวมและบำบัดน้ำเสียฯ เป็นสัญญาที่ขัดต่อความสงบเรียบร้อย ย่อมตกเป็นโมฆะตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 150 กระทรวงการคลังจึงมีหนังสือถึงสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อขอให้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกลางขอพิจารณาพิพากษาคดีใหม่" ร.ท.สมนึกกล่าว
โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดกล่าวว่า เมื่อคณะทำงานของพนักงานอัยการคดีปกครอง 6 ร่วมกันพิจารณาแล้วเห็นว่า กรณีที่กระทรวงการคลังและกรมควบคุมมลพิษมีหนังสือแจ้งมา ถือเป็นข้อเท็จจริงใหม่ที่ไม่เคยมีการยกขึ้นกล่าวมาก่อน คดีจึงอยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะขอให้ศาลปกครองพิจารณาคดีใหม่ได้ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีการพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ.2542 มาตรา 75 จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลปกครองดังกล่าว
อย่างไรก็ดี ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในส่วนคดีอาญาที่ศาลเเขวงดุสิต เป็นคดีข้อพิพาทที่กรมควบคุมมลพิษฟ้องนายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย กับพวกรวม 19 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัท วิจิตรภัณฑ์ฯ และกิจการร่วมค้า NVPSKG เป็นจำเลย ในความเป็นฐานฉ้อโกงที่ดิน และฉ้อโกงสัญญามูลค่า 1.9 พันล้าน ขณะนี้คดีอยู่ระหว่างฎีกา โดยศาลชั้นต้นสั่งจำคุกกรรมการบริษัท และนายวัฒนา รวม 11 คน คนละ 3 ปี แต่ต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ซึ่งนายวัฒนาได้หลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา จนศาลเเขวงดุสิตออกหมายจับ.