เปิดเอกสารแนบคำฟ้องศาลปค. 51 บริษัท จ.อยุธยา ไม่ดำเนินธุรกิจถ่านหิน-คลังสินค้าระบบปิด (25 ก.พ. 59)

สำนักข่าวอิศรา 25 กุมภาพันธ์ 2559
เปิดเอกสารแนบคำฟ้องศาลปค. 51 บริษัท จ.อยุธยา ไม่ดำเนินธุรกิจถ่านหิน-คลังสินค้าระบบปิด

เปิดชื่อ 51 บริษัท ไม่ดำเนินการระบบปิด ก่อนถูกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน-ชาวบ้านฟ้องศาลปกครอง จี้ให้ประกอบกิจการแบบระบบปิดป้องกันฝุ่นละอองออกสู่สิ่งแวดล้อม

จากกรณีนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมตัวแทนชาวบ้าน อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ได้ยื่นฟ้องหน่วยงานภาครัฐ 14 หน่วยงาน ต่อศาลปกครองเพื่อให้มีคำสั่งดำเนินการควบคุมผู้ประกอบการโรงงานจำนวน 51 บริษัท และท่าเรือ 26 แห่ง ที่ดำเนินธุรกิจด้านการขนส่งถ่านหิน คลังสินค้าให้ประกอบกิจการในระบบปิด โดยต้องไม่ปล่อยฝุ่นละอองออกสู่สิ่งแวดล้อม
 
นายศรีสุวรรณ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศราว่า สำหรับผู้ประกอบการที่ทำเป็นระบบปิดอยู่แล้ว ทางสมาคมฯ และชาวบ้านไม่ได้ยื่นฟ้อง โดยเฉพาะ เอสซีจี เนื่องจากมีระบบปิดค่อนข้างดี และสามารถเป็นตัวอย่างให้กับผู้ประกอบการรายอื่นได้  โดยเฉพาะในการทำระบบปิดของการขนถ่ายถ่านหิน 
 
ดังนั้นการฟ้องร้องในครั้งนี้ต้องการเรียกร้องให้ผู้ประกอบภาคธุรกิจมีส่วนรับผิดชอบกับสังคม  ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกอบการเกี่ยวกับแป้งมันสำปะหลัง ข้าว จะต้องมีการทำเป็นระบบปิด
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้สำนักข่าวอิศรา เคยเดินทางไปยังบริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) (เอสซีจี) บริเวณวัดบันได อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทที่ดำเนินกิจการด้านถ่านหินบริเวณพื้นที่อ.นครหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา โดยลงทุนด้วยงบ 400 ล้านบาท เมื่อปี 2558 จัดทำระบบปิดป้องกันฝุ่นละอองกระจายออกไปสู่ชุมชน

ปัจจุบันนี้ได้กลายเป็นโมเดลตัวอย่างผู้ประกอบการในพื้นที่ และไม่อยู่ในรายชื่อถูกฟ้องร้องต่อศาลปกครองในครั้งนี้

สำหรับ 51 รายชื่อบริษัท/ผู้ประกอบการที่ก่อผลกระทบสร้างความเดือดร้อนและเสียหายต่อชาวบ้าน ตามเอกสารแบท้าย ที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง มีดังนี้ 

ทั้งนี้ ตามมาตรฐานป้องกันผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมตามข้อกำหนดของกฎหมายนั้น ระบุไว้เพียง 4 ข้อ

1.ให้มีมาตรการป้องกันฝุ่นและกลิ่นที่มีประสิทธิภาพ

2.ห้ามนำสิ่งปฏิกูลออกนอกโรงงาน ยกเว้นได้รับอนุญาต

3.มีระบบสเปรย์น้ำป้องกันฝุ่นฟุ้งกระจาย ห้ามระบายน้ำเสียที่เกิดจากการใช้สเปรย์น้ำ จัดให้มีระบบบำบัดน้ำเสียเพียงพอ

4.ใช้มาตรการป้องกันถ่านลุกไหม้ และบริเวณกองเก็บให้ใช้ผ้าใบปิดปกคลุมให้มิดชิด 

นอกเหนือจากข้อบังคับตามกฎหมายแล้ว จิตสำนึกเรื่องความรับผิดชอบต่อส่วมรวมก็เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้ประกอบธุรกิจเช่นกัน